พาณิชย์ตรวจเข้มราคาและปริมาณสินค้า พร้อมให้ความเป็นธรรมกับประชาชน

ร้อยตรีจักรา ยอดมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ตรวจสอบสถานการณ์ราคาและปริมาณสินค้า ณ ตลาดบางขุนศรี กรุงเทพฯ และห้างโลตัส สาขาจรัญสนิทวงศ์ เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2565 ว่าจากการที่รัฐบาลได้ผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ทำให้ร้านค้า ร้านอาหาร สามารถจำหน่ายสินค้าและบริการได้ตามปกติและประชาชนออกมาจับจ่ายใช้สอยกันมากขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นการซื้อของกินของใช้ก่อนที่จะเดินทางกลับภูมิลำเนาในข่วงเทศกาลปีใหม่ไทยที่กำลังจะมาถึง โดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้กำชับให้กรมการค้าภายในติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและรายงานให้ทราบเป็นรายวัน

รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า สินค้าอาหารสดในตลาดบางขุนศรีในภาพรวมราคายังคงทรงตัว เช่น น่องไก่ติดสะโพก กก.ละ 80 บาท ไข่ไก่เบอร์ 3 แผงละ 105 บาท (ฟองละ 3.50 บาท) น้ำมันพืช (ปาล์ม) ขวดละ 65 บาท ผัดสดราคาปรับลดลงมาจากสัปดาห์ที่แล้ว สำหรับอาหารปรุงสำเร็จส่วนใหญ่ไม่มีการปรับขึ้นราคาแม้ราคาวัตถุดิบจะมีการปรับขึ้นลงบ้างตามสถานการณ์แต่ละช่วงเวลา ส่วนกรณีก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ที่มีราคาสูงขึ้นถังละ 15 บาท แม่ค้าข้าวราดแกง อาหารตามสั่ง และก๋วยเตี๋ยว แจ้งว่าไม่ได้มีผลกับต้นทุนอาหารมากนัก เพราะก๊าซ 1 ถังใช้ทำอาหารได้เป็นจำนวนมาก โดยแทบทุกร้านยังคงมีเมนูประหยัดให้ลูกค้าเลือกซื้อได้ในราคา 30-40 บาท เช่น บะหมี่หมูแดง ชามละ 35 บาท ข้าวราดแกงกับ 1 อย่าง 30 บาท กับ 2 อย่าง 40 บาท บาท ข้าวมันไก่ จานละ 40 บาท เป็นต้น ทั้งนี้ ต้องขอบคุณเจ้าของตลาดและผู้ค้าทุกรายที่ให้ความร่วมมือกับกรมการค้าภายในเป็นอย่างดีมาโดยตลอด

ในการลงพื้นที่ห้างโลตัส สาขาจรัญสนิทวงศ์ พบว่าสินค้าอุปโภคบริโภคและของใช้จำเป็นต่างๆ ไม่มีการปรับขึ้นราคา นอกจากนี้ยังมีการจัดโปรโมชั่นลดราคาสินค้าหลายรายการ เช่น ข้าวสารหอมมะลิบรรจุถุง 5 กก. ซอสปรุงรส ผงซักฟอก น้ำยาปรับผ้านุ่ม สบู่เหลว แชมพู ยาสีฟัน และเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีการลดราคาทั้งแผนก อาทิ หม้อหุงข้าว เตาไฟฟ้า พัดลม และเครื่องปรับอากาศ เป็นต้น สำหรับเรื่องสต็อกและปริมาณสินค้า ผู้จัดการสาขายืนยันว่าไม่มีปัญหา มีการเติมสินค้าบนชั้นวางอย่างต่อเนื่อง โดยได้มีการวางแผนและบริหารจัดการตามที่กรมการค้าภายในได้ขอความร่วมมือไว้แล้ว

รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมฯ ได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกสำรวจติดตามสถานการณ์ราคาและปริมาณสินค้ามาเป็นประจำทุกวันและจะดำเนินการอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เพื่อดูแลให้พี่น้องประชาชนได้รับความเป็นธรรมทางการค้า ในส่วนของผู้ค้า ผู้ประกอบการ ขอให้ปิดป้ายแสดงราคาสินค้าและบริการให้ชัดเจนและห้ามฉวยโอกาสจำหน่ายสินค้าในราคาแพงเกินสมควร ทั้งนี้ หากประชาชนพบการจำหน่ายสินค้าและบริการที่ไม่เป็นธรรม สามารถแจ้งได้ทางสายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 ทางแอพลิเคขั่นไลน์ Mr.DIT หรือแจ้งต่อสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ จะมีการตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“พาณิชย์” รับลูก นายกฯ “ดูแลประชาชน” ลุยตรวจ ”ปั๊มน้ำมัน -ขนส่ง-สนามบิน“ ย้ำ ขอให้ประชาชนมั่นใจ เดินทางราบรื่นช่วงปีใหม่

กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภายใน ส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบเข้มสร้างความมั่นใจให้ประชาชนในการเดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่ ครอบคลุมทุกการเดินทางของประชาชน ทั้งการตรวจสอบมาตรวัดน้ำมันเชื้อเพลิง ให้ได้น้ำมันเต็มลิตร-เน้นย้ำผู้ประกอบการตามสถานีขนส่งปิดป้ายแสดงราคาให้ชัดเจน-

“สุชาติ” รมช. พาณิชย์ ยืนยันไม่ได้หายไปไหน เดินหน้าผลักดันส่งออก ชี้ ต้องการทำให้ FTA มีประโยชน์สูงสุด

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้เปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า “ตนได้ทำงานในฐานะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์อย่างเต็มที่ โดยที่ผ่านมาได้เดินหน้าทำงานต่อเนื่อง สร้างผลงานดันเจรจา FTA

“พิชัย” คิกออฟ New Year Mega Sale 2025 ลดราคาสินค้า-บริการ 4 หมื่นรายการ สูงสุด 80% เป็นของขวัญปีใหม่

“พิชัย” คิกออฟโครงการ “พาณิชย์ลดราคา New Year Mega Sale 2025” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจของรัฐบาล เป็นของขวัญปีใหม่ให้คนไทยทั้งประเทศ ผนึกกำลังผู้ผลิต

พาณิชย์คลอดมาตรการ ‘อนุญาตให้นำเข้า' ก่อน ‘ห้ามนำเข้า’ เศษพลาสติก

กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าต่างประเทศออกกฎกำหนดมาตรการนำเข้าเศษพลาสติก 2 ฉบับ เพื่อรักษาสภาวะแวดล้อมและป้องกันอันตรายต่อสุขภาพของประชาชน โดยเป็นการดำเนินการตามนโยบายกำกับการนำเข้าเศษพลาสติก ที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2566

'พิชัย' ชวนสมาชิกหอการค้าอเมริกันลงทุนไทยเพิ่ม

“พิชัย” ชวนสมาชิกหอการค้าอเมริกัน AMCHAM ลงทุนไทยเพิ่ม เร่งใช้แต้มต่อ FTA ไทย ผลักดัน ศก. ไทยเติบโตรวดเร็ว หลังเตรียมเยือนดาวอส ประกาศความสำเร็จ FTA ไทย-เอฟตา ฉบับแรกกับยุโรป