“โครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง” อยู่ภายใต้แผนยุทธศาสตร์ของการเคหะแห่งชาติยุทธศาสตร์ที่ 3 “การฟื้นฟูชุมชนเมือง พัฒนาเมืองใหม่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม” ซึ่งคณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อ 17 สิงหาคม 2559 เห็นชอบในหลักการแผนแม่บทโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง (พ.ศ. 2559-2567) แบ่งการพัฒนาออกเป็น 4 ระยะโดยเป็นการพัฒนาโครงการรองรับผู้อยู่อาศัยเดิมจำนวน 6,546 หน่วย และการพัฒนาโครงการรองรับผู้อยู่อาศัยใหม่จำนวน 13,746 หน่วย รวมทั้งสิ้น 20,292 หน่วย
นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ เปิดเผยว่า ความคืบหน้าของโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดงขณะนี้อยู่ระหว่างพัฒนาโครงการในระยะที่ 2 รวม 2 อาคาร ได้แก่ อาคารพักอาศัยแปลง A (อาคาร A1) จำนวน 635 หน่วย และอาคารพักอาศัยแปลง D1 (อาคาร D1) สูง 32 ชั้น จำนวน 612 หน่วย ซึ่งจะดำเนินการก่อสร้างภายในปี 2564–2566
นอกจากนี้การเคหะแห่งชาติยังมีแผนดำเนินโครงการฟื้นฟูและพัฒนาเมืองอีก 3 พื้นที่ ได้แก่ “โครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนห้วยขวาง” ซึ่งเป็นชุมชนขนาดใหญ่ที่ก่อสร้างมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2499 มีหน่วยพักอาศัยจำนวน 3,360 หน่วยบริเวณรอบโครงการมีอาคารพาณิชย์ ตลาดสด และแผงร้านค้า การเคหะแห่งชาติจึงบรรจุโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนห้วยขวางไว้ในแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาที่อยู่อาศัยระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560–2579) ปัจจุบันอยู่ระหว่างการสำรวจและจัดทำข้อมูลฐานชุมชน โดยมีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เป็นผู้ดำเนินการศึกษา เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลชุมชนด้านกายภาพ สังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม รวมถึงรับฟังความคิดเห็นสร้างการมีส่วนร่วมในการฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่ให้แก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นแนวทางในการวางแผนพัฒนาและจัดทำแผนแม่บทโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนห้วยขวางในอนาคต
“โครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนรามอินทรา” ซึ่งเป็นโครงการที่อยู่อาศัยชุมชนชานเมืองที่ก่อสร้างเมื่อ พ.ศ. 2519 ขนาดพื้นที่ 52 ไร่ มีหน่วยพักอาศัย รวม 812 หน่วย ประกอบด้วยอาคารชุดพักอาศัยสูง 5 ชั้น จำนวน 490 หน่วย บ้านแถวสองชั้น จำนวน 322 หน่วย รวมทั้งร้านค้าและบริการสาธารณะ ปัจจุบันโครงการเคหะชุมชนรามอินทรามีสภาพทรุดโทรมตามกาลเวลา อีกทั้งพื้นที่โครงการดังกล่าวมีระดับต่ำกว่าถนนประมาณ 1.50 เมตร ทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วมขัง รวมทั้งสภาพความแออัดที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัย ซึ่งสวนทางกับการพัฒนาเมืองที่กำลังเกิดขึ้น การเคหะแห่งชาติจึงมีแนวทางในการดำเนินงาน “โครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนรามอินทรา” เพื่อตอบสนองความต้องการที่อยู่อาศัยของประชาชน จึงบรรจุไว้ในแผนแม่บทการพัฒนาที่อยู่อาศัยระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560–2579) โดยโครงการดังกล่าวได้ผ่านความเห็นชอบแผนแม่บทโครงการจากคณะกรรมการการเคหะแห่งชาติในเบื้องต้นแล้ว ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการนำเสนอรายละเอียดโครงการต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคือ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติกระทรวงการคลัง และสำนักงบประมาณ เพื่อขอความเห็นชอบประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีก่อนดำเนินการขออนุมัติจัดทำโครงการต่อไป
โครงการเคหะชุมชนทุ่งสองห้องเป็นโครงการที่จัดทำขึ้นตามแผนเร่งรัดของการเคหะแห่งชาติ พ.ศ. 2522–2525 เพื่อจัดสร้างที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย (ไม่เกิน 2,500 บาทต่อเดือน) ได้จัดสร้างบนที่ดินขนาด 29.82 ไร่ ประกอบด้วยห้องพักอาศัยและพื้นที่พาณิชยกรรมจำนวน 1,369 หน่วย พื้นที่จัดประโยชน์ 27 หน่วย แผงร้านค้าประมาณ 50 หน่วย และบริการสาธารณะ ปัจจุบันมีการใช้ประโยชน์ที่ดินไม่สอดคล้องกับศักยภาพของพื้นที่ โครงการมีสภาพทรุดโทรมตามกาลเวลาที่มีการอยู่อาศัยมากว่า 39 ปี โดยขณะนี้ “โครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนทุ่งสองห้อง” อยู่ระหว่างดำเนินการสำรวจและจัดทำฐานข้อมูลชุมชน โดยมีสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (AIT) เป็นผู้ดำเนินการศึกษา ซึ่งได้ดำเนินการสำรวจและจัดทำฐานข้อมูลชุมชนครบ 100% ได้ผลการสำรวจคิดเป็นร้อยละ 87.5 ของจำนวนผู้เช่าทั้งหมด ขณะนี้อยู่ระหว่างปรับปรุงรายงานฉบับสมบูรณ์
“การเคหะแห่งชาติ มุ่งมั่นพัฒนาที่อยู่อาศัยให้สอดคล้องกับศักยภาพของพื้นที่ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้อยู่อาศัย มีทั้งการปรับปรุงที่อยู่อาศัยเดิม และการพัฒนาที่อยู่อาศัยใหม่ ตามแนวทางเน้นย้ำของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ นายจุติ ไกรฤกษ์รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในการเสริมสร้างความเสมอภาค ลดความเหลื่อมล้ำสร้างโอกาสการเข้าถึงสวัสดิการสังคมด้านที่อยู่อาศัยให้แก่พี่น้องประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและกลุ่มเปราะบางจะต้องมีที่อยู่อาศัยและคุณภาพชีวิตที่ดีควบคู่กัน” ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติกล่าวย้ำ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
การเคหะแห่งชาติพาชุมชนดินแดงสุขภาพดีด้วยการแพทย์แผนไทย
นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ เปิดเผยว่า การเคหะแห่งชาติมีโครงการที่อยู่อาศัยในความดูแลกว่า 900 ชุมชน ซึ่งหัวใจหลักของชุมชนคือผู้อยู่อาศัย หากผู้อยู่อาศัยมีสุขภาพกายและใจแข็งแรงย่อมส่งผลให้เกิดสังคมที่เข้มแข็ง เศรษฐกิจที่มั่นคง เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิต ความเป็นอยู่ และนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน การเคหะแห่งชาติจัดโครงการอบรมส่งเสริมการดูแลสุขภาพผู้อยู่อาศัยชุมชนดินแดง หลักสูตร “การดูแลสุขภาพตนเองด้วยศาสตร์แพทย์แผนไทย”
การเคหะแห่งชาติ ครบรอบ 52 ปี ก้าวสู่ปีที่ 53 มุ่งเน้น “สร้างบ้าน สร้างสุข เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี”
เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2568 การเคหะแห่งชาติจัดงานวันสถาปนาครบรอบการก่อตั้ง 52 ปี โดยมี นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ นำคณะผู้บริหารและผู้ปฏิบัติงานการเคหะแห่งชาติ ร่วมพิธีทางศาสนา
การเคหะแห่งชาติผนึกกำลัง ม.เทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ เร่งพัฒนาการศึกษา เพิ่มทักษะการก่อสร้าง และบริหารโครงการอย่างมีประสิทธิภาพ
นายอณุศาสณ์ อรรถวิทยา กรรมการการเคหะแห่งชาติ เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือวิชาการระหว่างการเคหะแห่งชาติ และคณะวิศวกรรมศาสตร์และสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ
ครบรอบ 52 ปี การเคหะแห่งชาติ พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนการพัฒนาที่อยู่อาศัย ปี 2568 และภารกิจตามนโยบาย 5x5 ฝ่าวิกฤตประชากรของ “ท็อป วราวุธ” รมว.พม.
เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2568 นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ เป็นประธานในการแถลงข่าวผลการดำเนินงานครบรอบ 52 ปี การเคหะแห่งชาติ (กคช.) พร้อมแถลงผลการดำเนินงานปี 2567 และแผนการขับเคลื่อนการพัฒนาที่อยู่อาศัยปี 2568
การเคหะแห่งชาติประกาศพักหนี้ หยุดเก็บค่าเช่า ลดค่าปรับนาน 3 เดือน ช่วยลูกบ้านน้ำท่วมภาคใต้ เริ่มวันนี้ถึง 31 มีนาคม 2568
นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ เปิดเผยว่า การเคหะแห่งชาติ มีนโยบายช่วยเหลือชาวชุมชนที่พักอาศัยอยู่ในโครงการของการเคหะแห่งชาติที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ โดยออก 2 มาตรการเพื่อช่วยเหลือลูกค้าเป็นระยะเวลา 3 เดือน เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 31 มีนาคม 2568 ดังนี้ มาตรการที่ 1 พักชำระหนี้ ผู้เช่าซื้อกับการเคหะแห่งชาติ