สงครามยูเครน-รัสเซีย ที่ยังไม่มีทีท่าว่าจะจบในช่วงเวลาไหน ได้จุดประกายให้โลกมีประเด็นที่ต้องร่วมกันขบคิดถึงอนาคตอยู่มากมายหลายเรื่อง ทั้งเรื่องอาหาร ระบบขนส่ง และที่ลืมไม่ได้คงต้องยกให้หัวข้อ “พลังงานทดแทน” (Renewable Energy) ที่แม้ปัจจุบันจะมีการคิดค้นออกมาหลายแนวทาง ใช้ได้จริงบ้าง ต้นทุนสูงบ้าง ต้องรอพิสูจน์ประสิทธิภาพในอนาคตบ้าง แต่นี่คือทิศทางที่ดีของพลังงานโลก ที่บ่งบอกว่า มนุษย์ไม่ได้ละเลยเรื่องพลังงานสะอาด ไม่ได้ละเลยเรื่องการใช้พลังงานที่มีอยู่อย่างคุ้มค่ามากที่สุด
เรื่องพลังงานทดแทนนี้ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) บริษัทด้านพลังงานชั้นนำของประเทศไทย ได้ให้ความสำคัญและทุ่มเทสรรพกำลังร่วมค้นคว้าและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องกับทิศทางการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานของโลก ถือเป็นหนึ่งในภารกิจเพื่อความยั่งยืนของประเทศที่บริษัทยึดมั่นมาโดยตลอด โดย 5 พลังงานทดแทนแห่งอนาคตที่น่าสนใจ ได้แก่
1.พลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งได้ในทุกพื้นผิว (Embeddable Solar Power)
นอกจากแผงโซลาร์เซลล์แล้ว เทคโนโลยีที่เกี่ยวเนื่องกันก็คือเทคโนโลยีที่สามารถฝังหรือเคลือบเซลล์แสงอาทิตย์ลงบนพื้นผิวของวัตถุต่างๆ ในลักษณะที่โปร่งแสงไม่สามารถมองเห็นได้ แต่สามารถรับแสงอาทิตย์และแปลงเป็นพลังงานไฟฟ้าได้ ปัจจุบันแนวคิดนี้ถูกพัฒนาอย่างรวดเร็วและคาดว่าจะสามารถนำมาเคลือบบนพื้นผิวของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น หน้าจอคอมพิวเตอร์ สมาร์ตโฟน หรือต่อยอดไปสู่การใช้งานในรูปแบบอื่นๆ เช่น เคลือบบนหน้าต่าง หรือกระจกด้านนอกอาคาร เพื่อเป็นแหล่งผลิตไฟฟ้าให้แก่อาคาร เป็นต้น นวัตกรรมเหล่านี้ถูกพัฒนาควบคู่ไปกับการออกแบบแผงโซลาร์เซลล์ที่ให้ประสิทธิภาพสูงสุดและผลผลิตสูงขึ้น
2.พลังงานลม (Wind Energy)
ลม คือหนึ่งในแหล่งพลังงานที่เก่าแก่ที่สุดที่มนุษย์รู้จักนำมาใช้ประโยชน์ ปัจจุบันการใช้ศักยภาพของพลังงานลมมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว ทำให้เป็นหนึ่งในแนวโน้มหลักของพลังงานโลก ที่หลายหน่วยงานกำลังคิดค้นกังหันลมนอกชายฝั่ง และในอากาศเพื่อลดความต้องการพลังงานลมบนบกที่เราเห็นอยู่บ่อยๆ บนภูเขาสูง นวัตกรรมนี้มักจะรวมเข้ากับแหล่งพลังงานอื่นๆ เช่น กังหันลมแบบลอยน้ำ พลังงานแสงอาทิตย์ หรือพลังงานน้ำขึ้นน้ำลงเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพให้ดียิ่งขึ้น และมีความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องในการออกแบบใบพัดตามหลักอากาศพลศาสตร์ อย่างไรก็ตามการพัฒนาวัสดุใบพัดของกังหันลมให้ตอบโจทย์ความยั่งยืนเป็นหนึ่งในความท้าทายที่อุตสาหกรรมต่างๆ กำลังเผชิญอยู่ แต่ก็มีแนวโน้มที่จะสามารถหาทางออกในเรื่องนี้ได้
3. พลังงานคลื่น (Wave Power)
ความคิดที่จะนำพลังงานคลื่นมาใช้มีมาหลายทศวรรษ ซึ่งในทางเทคนิคนั้น คลื่น คือรูปแบบที่เกิดขึ้นจากพลังงานลมที่พัดผ่านทะเล พลังงานคลื่นถูกวัดเป็นกิโลวัตต์ (KW) ต่อหนึ่งเมตรของแนวชายฝั่ง เท่าที่เคยวัดได้มีศักยภาพพลังงานคลื่นประมาณ 252 พันล้านกิโลวัตต์ชั่วโมงต่อปีเลยทีเดียว ทำให้ปัจจุบันหลายประเทศมีความพยายามในการดำเนินการสร้างฟาร์มผลิตไฟฟ้าจากพลังงานคลื่น หนึ่งในประเทศที่นำหน้าในเรื่องนี้ ได้แก่ โปรตุเกส ที่ได้ตั้งฟาร์มผลิตไฟฟ้าจากพลังงานคลื่นในเชิงพาณิชย์เป็นแห่งแรกในโลกตั้งแต่ปี 2008 มีกำลังผลิตติดตั้งรวม 2.25 เมกะวัตต์
4.พลังงานไฮโดรเจน (Hydrogen Power)
เรารู้จัก ‘ไฮโดรเจน’ ในฐานเป็นก๊าซที่เป็นองค์ประกอบสำคัญของน้ำ แต่เมื่อแยกองค์ประกอบทางเคมีแล้ว ไฮโดรเจนจะมีคุณสมบัติไม่มีสี ไม่มีกลิ่น และมีมากถึง 74% จากองค์ประกอบทั้งหมดในจักรวาล ในขณะที่บนโลกเราพบได้เฉพาะเมื่อรวมกับออกซิเจน คาร์บอน และไนโตรเจน สำหรับการใช้ไฮโดรเจนจะต้องทำการกลั่นแยกออกมาจากองค์ประกอบอื่นๆ ซึ่งก๊าซที่ได้จะให้พลังงานสูง แต่เป็นก๊าซที่ไม่มีมลพิษ แต่กระบวนการในการแยกนั้นค่อนข้างจะใช้ต้นทุนที่สูงมาก ปัจจุบันหลายหน่วยงานกำลังค้นหาเทคนิคที่ทำให้การแยกไฮโดรเจนมีราคาที่ถูกลง และใช้งานได้ง่ายขึ้น โดยถูกนำมาใช้เป็นแหล่งพลังงานสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า เครื่องบิน ยานพาหนะอื่นๆ มากที่สุด รวมมีการนำมาใช้เป็นพลังงานในบ้านและอาคารบ้างแล้ว แต่ยังไม่แพร่หลายในวงกว้าง
5. พลังงานชีวภาพ (Bioenergy)
พลังงานชีวภาพเป็นพลังงานหมุนเวียนชนิดหนึ่งที่ได้มาจากแหล่งชีวมวล เชื้อเพลิงชีวภาพเหลวที่มีคุณภาพเทียบเท่าน้ำมันเบนซิน มีการผสมโดยตรงเพื่อใช้ในยานยนต์ ปัจจุบันบริษัทต่างๆ ได้ปรับปรุงกระบวนการเชื้อเพลิงชีวภาพและเทคนิคการอัพเกรด กระบวนการแปลงเชื้อเพลิงชีวภาพส่วนใหญ่ เช่น ไฮโดรเทอร์มอลเหลว (HTL) ไพโรไลซิส เทคโนโลยีพลาสมา การทำให้เป็นผงและการแปรสภาพเป็นแก๊ส ใช้การแปลงความร้อนเพื่อให้ได้เชื้อเพลิงชีวภาพ โดยกระบวนการสร้างพลังงานชีวภาพนั้นมีมากมายหลายวิธี ในประเทศไทยเน้นกระบวนการหมักที่ทำให้เกิดไบโอเอทานอล ซึ่งง่ายต่อการผสมกับน้ำมันเบนซินโดยตรง การหมักยังมีความสามารถในการแปลงของเสีย เมล็ดพืช อาหารและพืชให้เป็นเอทานอลชีวภาพ ซึ่งทำให้สามารถใช้วิธีการและวัตถุดิบได้หลากหลายมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
จะเห็นได้ว่า พลังงานทดแทนเหล่านี้ คือตัวแทนของอนาคตอย่างแท้จริง และเป็นทิศทางที่ดีที่รัฐบาลไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้หันมาสนับสนุนอย่างจริงจัง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จฯ ไปทรงเปิดสวน “เปรมประชาวนารักษ์” แลนด์มาร์กสีเขียวแห่งใหม่ริมคลองเปรมประชากร พระราชทานแก่ประชาชน
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วย สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ “เปรมประชาวนารักษ์”
'พีระพันธุ์' สั่ง ปตท. ระดมน้ำมัน-ก๊าซเข้าภาคใต้ป้องกันขาดแคลน
นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมใหญ่ในพื้นที่ภาคใต้ขณะนี้ กระทรวงพลังงานไม่ได้นิ่งนอนใจ และขอเป็นกำลังใจให้พี่น้องประชาชนที่ประสบเหตุอยู่ขณะนี้
กลุ่ม ปตท. และกลุ่มฯ โรงกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม ส.อ.ท. พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนประเทศไทย ด้วยพลังงานสะอาด และคาดการณ์ราคาน้ำมันในปี 68
เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2567 ดร.คงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า งานสัมมนา The Annual Petroleum Outlook Forum
สถาบันเทคโนโลยีจิตรลดา - ปตท. ขยายความร่วมมือ ต่อยอดพัฒนานวัตกรรมการเกษตรสร้างเกษตรกรรุ่นใหม่สู่สังคม
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ พระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาสถาบันวิทยสิริเมธี พร้อมทรงติดตามความก้าวหน้าด้านการศึกษาตลอด 10 ปี
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากสถาบันวิทยสิริเมธี
IRPC ร่วมกับกลุ่มปตท. สร้างองค์กร “คนดี คนเก่ง” ในงาน PTT Group CG Day 2024
เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2567 นายเทอดเกียรติ พร้อมมูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผศ.ดร.ชัยพร ภู่ประเสริฐ ประธานกรรมการกำกับดูแลกิจการที่ดีและความยั่งยืน