“ปองพล”รับสมัครรวมไทยสร้างชาติแล้ว อุบตำแหน่ง รอประชุมใหญ่ เชื่อ"บิ๊กตู่" ยังทำงานได้อยู่ พรรคเตรียมประชุมใหญ่ปลาย มี.ค. ส่วนเม.ย.เปิดชื่อบิ๊กเนมร่วมพรรค
3 มี.ค.2565 - นายปองพล อดิเรกสาร อดีตรองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวสมัครสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติว่า ตนสมัครสมาชิกพรรคเรียบร้อยแล้ว ซึ่งลูกชายคือนายปรพล อดิเรกสาร อดีตส.ส.สระบุรี มาชวน ตอนนายปรพลสมัครเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ ก็มาปรึกษาบอกหลายพรรคทาบทามมา ตนก็ให้ดูพรรคไหนจริงใจ ต้องการเราจริงไหม ประเภทที่มาคุยๆแล้วบอกว่าอย่าเพิ่งตัดสินใจนะ มันไม่ได้เพราะการเมืองต้องมีการตัดสินใจ ส่วนเหตุผลกลับสู่การเมืองอีกครั้ง เพราะเราเป็นนักการเมือง และติดตามการเมืองมาตลอด แต่มีด้วยก่อนหน้านี้มีเรื่องของจังหวะเวลาและอายุที่มากขึ้น แต่พอมาเห็นการจัดตั้งพรรครวมไทยสร้างชาติแล้ว และนายปรพลไปร่วมแล้วมาชวน ตนก็ไปสมัครสมาชิกพรรค ส่วนทางพรรคแล้วแต่เขาจะใช้ หรือขอคำปรึกษา ซึ่งตนก็พร้อม และคงต้องรอให้มีการประชุมใหญ่พรรค เพื่อกำหนดตำแหน่งต่างๆของพรรคให้ลงตัว
เมื่อถามว่า มองการเมืองเวลานี้อย่างไรบ้าง นายปองพล กล่าวว่า ตนมองว่าเป็นธรรมชาติการเมืองที่ทุกประเทศมีการต่อสู้กัน 2 ฝ่ายหรือหลายฝ่ายเป็นธรรมดา และเราในฐานะประชาชนคนไทยก็ต้องสนใจการเมือง เพราะว่ามีผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของเรา ถ้ารัฐบาลตัดสินใจพลาดหรืออะไรมันก็มีผลกระทบทั่วไป ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน ถ้าตนไปอยู่ตรงนั้นก็จะมีโอกาสช่วยได้ บางทีคนเข้าไปอยู่ใกล้กับเหตุการณ์อาจจะมองไม่ค่อยเห็น ถ้าเรามองเห็นเราก็ช่วยแนะนำเขา ส่วนจะเชื่อหรือไม่เชื่อเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่เป็นความตั้งใจของตนที่ต้องการนำประสบการณ์มาช่วยพรรค และเป็นธรรมชาติของพรรคารเมืองทุกพรรคที่จะต้องหานโยบายดูแลประชาชน ในฐานะที่มีประสบการณ์ทางการเมืองมานาน หน้าที่ของตนคือช่วยดึง ไม่ใช่ดัน หมายความว่าถ้าเห็นการดำเนินการของพรรคทำไปแล้วจะมีข้อเสียหรือผลลบก็ต้องท้วงหรือแนะนำในสิ่งที่ดีกว่า เหมือนชีวิตเราที่คนเป็นปู่ ย่า ตา ยาย พ่อ แม่ ก็มีหน้าที่คอยดึงลูกหลานให้เดินไปในทางที่ถูกต้อง การเมืองก็เช่นกัน
เมื่อถามว่า นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีในฐานะผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมไทยสร้างชาติ ประกาศสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม นายปองพล กล่าวว่า
ตนก็มองตัวเลือกที่จะไปเป็นผู้นำประเทศใน 4-5 ปีข้างหน้า เห็นว่าพล.อ.ประยุทธ์ ยังทำงานได้อยู่ อายุก็ยังไม่มากจนเกินไป และผลงานในอดีตก็มี ส่วนข้อเสียมีกันทุกคนถ้าจะหา แต่ว่าเรามาดูข้อดีที่จะเป็นประโยชน์กับประชาชน ต่อประเทศชาติ ก็สนับสนุน แต่ถ้าทำอะไรไม่ถูกต้องตนก็ท้วงติงได้
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ จะมีการประชุมใหญ่สามัญประจำปีในช่วงปลายเดือนมีนาคม เพื่อวางโครงสร้างพรรค กำหนดข้อบังคับพรรค แก้ไขระเบียบพรรค เปลี่ยนแปลงโลโก้พรรคให้แล้วเสร็จเพื่อรายงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)
จากนั้นจะมีการประชุมใหญ่สามัญประจำปีอีกครั้งช่วงเดือนเมษายน ก่อนเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งจะมีการเปิดตัวแกนนำพรรค และเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคถือเป็นการเปิดตัวพรรคอย่างเป็นทางการ ขณะเดียวกันเริ่มมีการวางตัวผู้สมัครส.ส.ในบางพื้นที่บ้างแล้ว อาทิ น.ส.ชนากานต์ ชัยศรี อดีตมิสไทยแลนด์เวิลด์ ปี 1990 ที่จะมาลงสมัครเลือกตั้ง ส.ส.กทม. ส่วนที่ทำการพรรคตั้งอยู่ที่ซอยอารีย์สัมพันธ์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
คนเสื้อแดงแห่รับ 'ทักษิณ' เตรียมปราศรัยหาเสียงนายกอบจ. วันเดียว 3 เวที
นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้ช่วยหาเสียง ของนางสลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช ผู้สมัครนายก
ย้อนวิบาก...3ป.67 ปิดฉาก...ก้าวไกล เปลี่ยน...นายกฯ เปิด...ระบอบทักษิณ I อิสรภาพแห่งความคิด กับ..สำราญ รอดเพชร
อิสรภาพแห่งความคิด กับ..สำราญ รอดเพชร : วันเสาร์ที่ 04 มกราคม 2568
'ธนกร' แนะฝ่ายค้านเปิดศึกซักฟอกรัฐบาล อย่าแค่เล่นละคร ต้องตรวจสอบให้จริงจัง
นายธนกร วังบุญคงชนะ รองหัวหน้าพรรคและสส.บัญชีรายชื่อพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคร่วมฝ่ายค้านเตรียมยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลแบบลงมติ
นายกฯรวยหมื่นล้าน อิ๊งค์แจงบัญชีทรัพย์สิน ใช้จ่ายส่วนตัวปีละ45ล.
“ป.ป.ช.” เปิดทรัพย์สิน “นายกฯ อิ๊งค์” รวยมโหฬารกว่า 1.3 หมื่นล้านบาท แบกหนี้กู้เงินญาติพี่น้อง 4.4 พันล้าน สะสมนาฬิกา 75 เรือน มูลค่า 162 ล้านบาท มีกระเป๋า 217 ใบ
โฆษก รทสช. ขอบคุณแรงเชียร์ ผลโพลชี้ความนิยม 'รทสช.-พีระพันธุ์' เพิ่มขึ้น
นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี เขต 4 และโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดเผยว่า ขอขอบคุณทุกการสนับสนุนและความไว้วางใจจากพ่อแม่พี่น้องประชาชนทุกคนในปีที่ผ่านมา ที่ให้การสนับสนุนและให้ความไว้วางใจพรรคเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
'วันนอร์' ชี้นักการเมืองไม่ใช่อาชญากร บทลงโทษไม่ควรรุนแรงถึงขั้นตัดสิทธิ-ยุบพรรค
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์กรณีสถานการณ์การเมืองปี 2568 มีโอกาสเกิดคดีความที่นำมาสู่การยุบพรรคการเมือง และตัดสิทธิ สส. ว่า เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับองค์กรที่มีหน้าที่วินิจฉัย