เฮ้อ!นึกว่าจะไขก๊อก 'ราเมศ' แค่ลดบทบาทในปชป. กรณีเฟ้นหาผู้สมัครส.ส.พังงา

26 ก.พ.2565 - ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงกรณีกระแสข่าวจะลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ ว่าพรรคประชาธิปัตย์คือชีวิต แต่การดำเนินกิจกรรมทางการเมืองย่อมมีปัญหาอุปสรรค ที่ผ่านมาตนลงพื้นที่เขต 2 จ.พังงา ประกอบด้วย 4 อำเภอ คือ อ.ตะกั่วป่า ท้ายเหมือง คุระบุรี และ อ.กะปง ซึ่งเป็นเขตเลือกตั้งที่เพิ่มขึ้นจากการไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญฉบับที่ผ่านมา ซึ่งในส่วนของพรรคยังไม่มีผู้สมัครในเขตดังกล่าว

นายราเมศ กล่าวต่อว่าจากการที่ตนลงพื้นที่ได้ทราบปัญหาจำนวนมาก เพราะตนคลุกคลีในพื้นที่มาตลอด และตนได้ขออาสาทำงานให้ประชาชนในบ้านเกิด ตามกระบวนการของพรรค และข้อบังคับพรรค โดยทำหนังสือแสดงเจตจำนงต่อ 2 ท่าน คือ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค และนายเดชอิศม์ ขาวทอง ส.ส.สงขลา ในฐานะรองหัวหน้าพรรครับผิดชอบภาคใต้ ในการเสนอตัวเป็นผู้สมัครส.ส. เขต 2 จ.พังงา

นายราเมศ กล่าวว่าที่ผ่านมาตนทำงานให้พรรคมาตลอด ระหว่างลงพื้นที่มีการปล่อยข่าวต่างๆนานา ว่ามีการกำหนดตัวผู้สมัครในเขตเลือกตั้งที่ 2 จ.พังงา ทั้งที่ยังไม่มีการกำหนด ทุกอย่างอยู่ในกระบวนการข้อบังคับพรรค และรัฐธรรมนูญ และมีการพูดถึงว่าไม่มีใครรู้จักตน ตรงนี้เป็นเหตุผลที่เปิดแคมเปญตามหาคนรู้จัก เพื่อพิสูจน์ให้พี่น้องเขต 2 พังงา ได้รู้ว่าตนคือลูกหลานของพี่น้องประชาชน และจะเดินไปพบพี่น้องให้ได้มากที่สุด ยังมีการยกเรื่องฐานะความเป็นอยู่ของตน เรื่องส่วนตัว ฐานะส่วนตัวว่าไม่มีฐานะร่ำรวย เป็นลูกชาวบ้าน ซึ่งไม่ปฏิเสธข้อกล่าวหานี้ เพราะป็นเรื่องจริง และลูกชาวบ้านไม่เป็นอุปสรรคต่อการทำงานให้พี่น้องประชาชน และถ้าเกิดเป็นลูกชาวบ้านแล้วสิ้นหวัง แล้วจะให้ชาวบ้านหวังอะไรได้ต่อจากนี้

นายราเมศ กล่าวต่อว่า เมื่อตนแจ้งความประสงค์จะลงพื้นที่เวลาทุกนาทีต่อจากนี้มีค่าที่สุด จึงจำเป็นต้องขอลดบทบาทเรื่องกฎหมายในส่วนกลางของพรรคลง ทุกอย่างที่ตนรับผิดชอบอยู่มีจำนวนมาก ทั้งคดีของพรรค และคดีส่วนตัวของแต่ละคน ทั้งที่อยู่ในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ศาลรัฐธรรมนูญ และศาลยุติธรรม ตนได้ส่งต่อทั้งหมดให้ผู้มีอำนาจหน้าที่เรียบร้อยแล้ว แต่งานกฎหมายของพรรคเรื่องใดที่ตนพอช่วยได้ ก็พร้อมรับคำสั่งจากนายเฉลิมชัยเท่านั้น ขอให้ท่านแจ้งมา ตนพร้อมที่จะทำงานตามบัญชาของท่าน

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะลาออกจากตำแหน่งโฆษกพรรคด้วยหรือไม่ นายราเมศ กล่าวเพียงสั้นๆว่า “ตำแหน่งโฆษกพรรคที่ประชุมใหญ่ของพรรคเลือกตนมา”

เมื่อถามว่า เหตุใดจึงฟังคำสั่งเฉพาะนายเฉลิมชัย แต่ไม่รับคำสั่งนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายราเมศ กล่าวว่า การดำเนินงานภายในของพรรค เลขาธิการพรรคเป็นผู้บริหารจัดการเรื่องนี้

ถามย้ำว่า ไม่ได้เกิดความขุ่นเคืองใจกับหัวหน้าพรรค เนื่องจากจะมีการสนับสนุนบุคคลอื่นลงสมัครในเขตดังกล่าวแทนใช่หรือไม่ นายราเมศ กล่าวว่า ตามข้อบังคับ และรัฐธรรมนูญทุกคนมีสิทธิ ถ้าเป็นสมาชิกพรรคต้องแข่งขันกันตามกระบวนการ และความเป็นธรรม

“นายจุรินทร์เป็นนักการเมืองคนแรกที่ผมรู้จัก และวิ่งตามในสมัยที่หาเสียงในเขต 2 จ.พังงา ไม่มีเหตุอันใดที่ผมจะไปขัดข้องหมองใจกับหัวหน้าพรรค ผมยังมีความเคารพในฐานะที่ท่านเป็นหัวหน้าพรรค ไม่มีเหตุอะไรต้องน้อยใจ ผมอยู่พรรคมา 10 กว่าปี ผ่านอะไรมามากพอสมควร” นายราเมศ กล่าว

ถามต่อว่า ถ้าไม่ได้ลงสมัครในเขต 2 จ.พังงา ยังจะทำงานกับพรรคหรือไม่ นายราเมศ กล่าวว่า ตนเชื่อมั่นในกระบวนการของพรรค และเชื่อมั่นว่าถ้ามีการทำโพล โพลนั้นจะให้โอกาสตน ให้ความเป็นธรรมกับตน ซึ่งเป็นหลักการปกติถ้ากระบวนการต่างๆตรงไปตรงมามีความเป็นธรรม

ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้าทำโพลแล้วปรากฎว่าไม่ได้ อนาคตกับพรรคจะเป็นอย่างไร นายราเมศ กล่าวว่า ถ้ายังไม่มีข้อยุติก็เป็นเรื่องของอนาคต และพร้อมยอมรับถ้ากระบวนการถูกต้องชอบธรรม ซึ่งตนเชื่อว่าจะตรงไปตรงมา เพราะพรรคเป็นสถาบันการเมือง ซึ่งหลักการทำโพลมีอยู่ว่าต้องถามทั้งสมาชิกพรรค และประชาชนทั่วไป

เมื่อถามว่า ได้พูดคุยกับนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ แกนนำภาคใต้พรรคสร้างอนาคตไทย บ้างหรือไม่ นายราเมศ กล่าวว่า คุยกันปกติ เพราะนายนิพิฏฐ์เป็นคนที่ตนให้ความเคารพที่สุดมากอีกหนึ่งคน แต่ไม่ได้มีการชักชวนให้ไปอยู่ด้วยและหากมีการชักชวนตนก็จะบอกคำตอบเดิมว่าพรรคประชาธิปัตย์คือชีวิต

แหล่งข่าว เผยว่าสำหรับเรื่องตัวผู้สมัครส.ส.นั้น กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ยังไม่ได้มีการประชุมและกระบวนการคัดเลือกก็ยังไม่ได้เริ่ม อย่างไรก็ตามมีชื่อ นายบำรุง ปิยนามวาณิช อดีตนายกอบจ. พังงา 2 สมัย ซึ่งอาจได้รับการพิจารณาให้ลงสมัครส.ส.เขต 2 พังงาด้วยเช่นกัน

"บำรุง เขาเป็นคนหนึ่งที่คอยช่วยงานพรรคมาตลอด และไปทุกงานของชาวบ้านมานานแล้ว เป็นที่ยอมรับ อยู่ติดพื้นที่เป็นลูกชาวบ้าน และมีเครือข่ายท้องถิ่นทั้งจังหวัด" แหล่งข่าวระบุและว่า นอกจากนี้แล้วยังมีบุคคลอื่นๆเสนอตัวอีก2-3 คน ดังนั้นเชื่อว่ากรรมการบริหารพรรคคงไม่นำเงื่อนไขการกดดันจากสื่อ หรือผู้ใดมาตัดสินว่าใครจะได้ลงสมัครรับเลือกตั้งหรือไม่.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ก้าวไกลเพ้อชนะยุบพรรค!

ใจดีสู้เสือ! "ชัยธวัช" เชื่อ "ก้าวไกล" มีโอกาสชนะสูง อ้างยิ่งศาล รธน.ปิดไต่สวน "คดียุบพรรค" ก็ยิ่งมั่นใจในคำแถลงปิดคดี ปลุกกองเชียร์ 7 ส.ค.

'ก้าวไกล' มองคดียุบพรรคไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ตอนนี้เตรียมพร้อมเป็นรัฐบาล เลือกตั้งครั้งหน้า

นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคก้าวไกล, นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อและประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวเปิด 3 วิสัยทัศน์พัฒนาเชียงใหม่ พร้อมกับเปิดตัว นายพันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ว่

'ก้าวไกล' เหยื่อระบอบทักษิณ! ตราบใดกระแส 'อนุรักษ์นิยม' ยังไม่ฟื้น

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่าพรรคก้าวไกล เหยื่อของระบอบทักษิณ!

'จุรินทร์' ซัดเต็มๆ ดิจิทัลฯ เป็นแค่น้ำข้าวต้มที่จะสร้างพายุหมุนหนี้ให้ประเทศ

'จุรินทร์' ซัดงบกลางปี 67 กู้มาแจกเงินหมื่นเท่านั้น ฉะโครงการล่าช้าเพราะความโหลยโท่ยของ รบ. ย้ำ 'ดิจิทัลวอลเล็ต' ได้ไม่คุ้มเสีย เข้าทำนองประเทศเสียหายไม่ว่าขอให้ข้าได้หาเสียง

'วัชระ' ช่วยทหารเรือชั้นผู้น้อยยื่น ป.ป.ช.สอบทุจริตจัดซื้อปืนกล 30 มม.

"วัชระ เปิดใจยื่นเรื่องนี้แทนกำลังพลชั้นผู้น้อยที่รักชาติไม่ยิ่งหย่อนกว่านายพล เพื่อตอบแทนพี่น้องทหารเรือที่ช่วยนักศึกษามาตลอดตั้งแต่สมัย 6 ตุลาคม 2519 จนถึงเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ..."