'ณฐพร' ขึงขังอีก 3 เดือนเอาผิดกราวรูด 'ผู้บงการ' ล้มล้างการปกครองฯ

26 ก.พ.2565 - นายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษา ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวถึงความคืบหน้าในการแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีกับเครือข่ายกลุ่มที่เรียกตัวเองว่าราษฎร ทั้งแกนนำและผู้บงการเบื้องหลัง หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 การกระทำของนายอานนท์ นำภา นายภาณุพงศ์ จาดนอก และ น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล ที่ชุมนุมปราศรัยเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข  ว่ากลุ่มบุคคลองค์กรเหล่านี้กระทำการเข้าข่ายการล้มล้างการปกครอง ตนเอง และทีมงานดำเนินการที่จะเอาผิดกับกลุ่มคนเหล่านี้ มากว่า 3-4 ปี

"คาดว่าภายในอีก 3 เดือนข้างหน้านี้จะสามารถแจ้งข้อกล่าวหาในคดีกบฏล้มล้างการปกครองตามมาตรา 113 ส่วนคดีอื่นที่อาจจะมีพ่วงตามมา ก็ต้องดูพฤติกรรมในการก่อเหตุอีกครั้งถึงจะแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมกับกลุ่มคนเหล่านี้ได้" นายณฐพร

โดยคดีดังกล่าวนี้ ไม่ต้องใช้เวลาในการสอบสวนนานหรือยุ่งยาก เพียงขอสำนวนที่ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา มาดำเนินคดี ซึ่งจะมีข้อเท็จจริง และพยานหลักฐาน ครบถ้วน อีกทั้งก่อนหน้านี้ ตนเองพยายามรวบรวมพยานหลักฐาน ทั้งภาพถ่าย คลิปวีดีโอ และการบันทึกเสียง ของกลุ่มคนดังกล่าวกว่า 30 รายชื่อ ซึ่งหนึ่งในนั้นมี นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล หรือ เจี๊ยบ ส.ส.พรรคก้าวไกล รวมถึง ส.ส.พรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกล รวมไปถึงนักวิชาการและนายทุน

นายณฐพร กล่าวต่อว่า สำหรับนางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล(เจี๊ยบ) ส.ส. พรรคก้าวไกลนั้น มีทั้งพยานหลักฐานการกระทำความผิดที่เข้าข่ายการล้มล้างการปกครอง ซึ่งเป็นประจักษ์พยานหลักฐาน ในฐานะนักการเมืองแทนที่จะไปดูแลพี่น้องประชาชนในเรื่องของปากท้อง แต่กลับเข้าร่วมกิจกรรมทางการเมือง

และยังพบว่ามีการเข้าร่วมประชุมทางการเมืองอย่างต่อเนื่อง เช่นชวนเด็กทิ้งหนังสือ ถืออาวุธ ขายความผิดตามจริยธรรมนักการเมือง โดยคำร้องฟ้องเอาผิดกับกลุ่มคนเหล่านี้ทาง DSI และ สำนักงานตำรวจแห่งชาติก็ดำเนินการในส่วนการดำเนินคดีด้วยเช่นกัน คาดว่าไม่นานเกินรอ ก็จะสามารถออกหมายเรียก เรียกกลุ่มคนเหล่านี้เข้ามารับทราบการแจ้งข้อกล่าวหาได้

นอกจากนี้ นายณฐพร ตั้งข้อสังเกตว่านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และนักโทษหนีคดีและนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า อาจเป็นนายทุนและผู้บงการอยู่เบื้องหลังการล้มล้างการปกครอง โดยนายทักษิณใช้ปฏิญญาฟินแลนด์เป็นตัวเชื่อมโยง ส่วนนายธนาธรใช้ ปฏิกษัตริย์นิยม มีแนวความคิดที่ต้องการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของสังคมไทย โดยมีนายปิยบุตร เป็นต้นคิด ที่มาจากหนังสือที่นายปิยบุตรเขียนที่ต้องการจะเปลี่ยนแปลงประเทศ ที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งจะดำเนินคดีกับตัวการหรือผู้จ้างวานอย่างแน่นอน

"เราจะเห็นได้ว่ากลุ่มคนที่จะล้มล้างการปกครองนั้นมักจะออกมาเคลื่อนไหวการทำกิจกรรมในลักษณะที่ทำให้สังคมเคยชินกับการด่าสถาบันทำให้เห็นว่าสังคมสามารถก้าวล่วงสถาบันกษัตริย์ได้" นายณฐพร ระบุ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'รังสิมันต์' รับสภาพคงสู้คดียุบพรรคยากขึ้นหลังศาลรัฐธรรมนูญขีดเส้นตาย

'โรม' รับคงสู้คดียากขึ้น หลังศาล รธน.นัดชี้ขาดยุบก้าวไกล 7 ส.ค.นี้ ย้ำความสำคัญอยู่ที่กระบวนการ ยกพยานปากสำคัญควรได้ขึ้นไต่สวน ยันพรรคไม่ได้ล้มล้างการปกครอง

อดีตผู้สมัครสว.ชงอสส.ยื่นศาลฯฟันกกต.ล้มล้างการปกครอง เหตุจะทำให้เกิดวิกฤตร้ายแรง

นายพลภาขุน เศรษฐญาบดี ตัวแทนผู้ประสานงาน คณะราษฎรไทยแห่งชาติ (ครช.) และอดีตผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภา(สว.) กลุ่ม 17 จ.นครปฐม เปิดเผยว่า ได้ยื่นเรื่องขอให้อัยการสูงสุด ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 กรณี บุคคล 8 คน

'พีระพันธุ์' นำลูกพรรคดูหนัง 2475 รุ่งอรุณแห่งการปฏิวัติ ย้ำจุดยืนไม่นิรโทษคดี 112

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) พร้อมด้วย นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค นายหิมาลัย ผิวพรรณ ผู้อำนวยการพรรค และสมาชิกพรรค

'เรียงหิน' เชื่อคดี 'นช.ทักษิณ' ไม่กระทบรัฐบาล ส่วนคดี 'เศรษฐา' ก็จะชินไปเอง

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีอัยการเตรียมนำตัวนาย