"ชลน่าน" นำเสนอหลักการกฎหมายพรรคการเมือง ปัดสอดไส้เปิดช่องคนภายนอกบงการพรรค อ้างแค่เขียนให้ชัด ทำอะไรได้บ้าง ป้องกันถูกกลั่นแกล้งทางการเมือง ชี้ยุบพรรค มีเหตุเดียว ล้มล้างการปกครองฯ อ้อนสมาชิกสภา รับหลักการวาระ 1 ก้าวไกล เอาด้วย ชี้พรรคต้องตั้งง่าย ยุบยาก ส.ส.ซีกรัฐบาล รับการทำไพรมารีโหวตซับซ้อน ชี้ต้องแก้ไข
24 ก.พ.2565 - เวลา 18.40น. นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำเสนอร่างพรป.ว่าด้วยพรรคการเมือง อภิปรายนำเสนอว่า พรป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 มีอุปสรรคบางประการ มีการจำกัดเสรีภาพประชาชน ไม่ว่าจะเป็นการบังคับใช้สมาชิกพรรค ชำระค่าสมาชิกพรรค ไม่สอดคล้องกับเสรีภาพของบุคคล และมีปัญหาทางปฏิบัติ การกำหนดเหตุยุบพรรคมากเกินไป ที่อาจมีการใช้กฎหมายยุบพรรคการเมืองได้ง่ายเกินไป เพื่อให้เกิดความชัดเจน พรรคเพื่อไทย จึงขอเสนอสาระสำคัญที่ควรแก้ไขมีทั้งสิ้น 29 มาตรา เช่นเรื่องการกำหนดคุณสมบัติสมาชิกพรรคการเมือง ไม่ควรใช้คุณสมบัติเดียวกับผู้สมัครรับเลือกตั้งส.ส. จึงขอให้มีการยกเลิก เรื่องการเก็บค่าบำรุงพรรคการเมือง เป็นการละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐาน ที่มีการกำหนดให้เขาต้องจ่ายค่าสมาชิก เพื่อมาเป็นสมาชิกพรรคการเมืองสร้างปัญหา สุ่มเสี่ยงใช้เงื่อนไขนี้ ทำให้เกิดการกระทำผิด จึงขอยกเลิกบทบัญญัติมาตรานี้ แล้วไปเขียนไว้ในข้อบังคับพรรคแทนว่า จะมีการเก็บค่าสมาชิกพรรคอย่างไร
การแก้ไขมาตรา 28-29 ที่มีการพูดถึงกันมาก พรรคเพื่อไทยถูกกล่าวหามีการยัดไส้ เปิดโอกาสให้คนภายนอกมาครอบงำ ชี้นำ กิจกรรมของพรรคการเมือง แต่สิ่งที่พรรคเห็นและปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นจริงคือ มีการใช้มาตรานี้กลั่นแกล้งทางการเมือง พรรคจึงขอเสนอแก้ไขเพิ่มเติมเข้ามา โดยใช้คำว่า การกระทำในวรรคหนึ่ง มิให้รวมถึงการชี้แนะ การให้คำปรึกษา การให้ข้อมูล เพื่อประกอบการทำกิจกรรมพรรคการเมือง เราได้ขยายความให้ชัดเจนมากขึ้นว่า บรรดาการให้คำปรึกษา แนะนำ ชี้แนะ ให้ข้อมูลเสนอแนะ แล้วพรรคนำไปประกอบการทำกิจกรรมในพรรคการเมือง ไม่ถือเป็นการชี้นำ เรื่องนี้ไม่ได้มีการสอดไส้ใดๆ แต่เป็นการป้องกันการตีความเพื่อกลั่นแกล้งทางการเมือง พรรคการเมืองต้องเป็นสถาบันการเมือง ไม่จำเป็นต้องเป็นสมาชิกเท่านั้น ที่จะมีส่วนร่วมได้ บุคคลทั่วไปก็สามารถทำได้ กลไกการมีส่วนร่วม เป็นกลไกทางสาธารณะ เป็นการรับฟังความเห็นเชิงสาธารณะ เพราะถ้าตีความเพื่อเอาผิด หากเราไปรับฟังความเห็น การทำประชาพิจารณ์ แล้วมาตีความบุคคลภายนอกครอบงำ มาหาเหตุให้ยุบพรรคได้ จึงต้องเขียนป้องกันเอาไว้
หัวหน้าพรรคเพื่อไทย อภิปรายอีกว่า ประเด็นการยุบพรรคการเมือง หลายพรรคหวั่นไหวมาก เช่น พรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล เราจึงเขียนให้ชัด เหตุการณ์ยุบพรรคได้นั้น จะมีเพียงกรณีเดียวคือ การล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขเท่านั้น และคำวินิจฉัยศาลต้องมีหลักฐาน โดยปราศจากข้อสงสัย ไม่ใช่เพียง มีเหตุอันเชื่อได้ว่า แล้วยุบพรรคการเมือง ซึ่งทำให้การมีส่วนร่วมของประชาชน และพรรคการเมืองหายไป ที่ผ่านมาพรรคไทยรักไทยมีสมาชิกพรรค 19 ล้านเสียงต้องหายไป ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้น นอกจากนี้ พรรคได้เขียนบทเฉพาะกาลให้นำไปใช้ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ขอให้สมาชิกรัฐสภา รับร่างของพรรคเพื่อไทย ขณะเดียวกันเมื่อพรป.ว่าด้วยพรรคการเมืองทั้ง 6 ร่าง มีหลักการใกล้เคียงกัน อยากให้สมาชิกสภารับหลักการทั้งหมดทุกร่าง เหมือนกับที่ได้รับหลักการวาระ1 ทุกร่างของร่างพรป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.
นายวรภพ วิริยะโรจน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ชี้แจงว่า พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 มีบทบัญญัติที่เป็นอุปสรรคต่อการพรรคการเมือง สร้างภาระขั้นตอนทางธุรการ มีบทกำหนดโทษที่ไม่ได้สัดส่วน จึงเป็นโอกาสที่ดีจะได้มาแก้ไขผลพวงของรัฐบาลสมัยคสช.ที่ออกพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ทำให้พรรคการเมืองอ่อนแอ เพราะผู้ร่างไม่ได้ใช้ ผู้ใช้ไม่ได้มีโอกาสร่าง ร่างพ.ร.ป.พรรคการเมืองที่พรรคก้าวไกลเสนอนั้น ยืนบนหลักการว่า พรรคการเมืองต้องเข้มแข็ง เพื่อจะได้เป็นสถาบันการเมืองที่สะท้อนความต้องการและเจตนารมณ์ของประชาชน พรรคการเมืองจะเข้มแข็งได้พรรคต้องตั้งง่าย แต่ยุบยาก ต้องไม่บังคับการเก็บค่าสมาชิก รวมทั้งต้องเปลี่ยนหลักเกณฑ์การอุดหนุนเงินกองทุนพัฒนาพรรคการเมืองมาเป็นตามสัดส่วนจำนวนสมาชิกพรรค เพราะจะทำให้พรรคเข้มแข็ง มีทุนเพื่อดำเนินกิจกรรมทางการเมืองได้ ยกเลิกการกำหนดให้พรรคการเมืองต้องมีเงินทุนประเดิม 1 ล้านบาท เป็นต้น
นายวรภพกล่าวว่า เมื่อจุดเริ่มต้นของพรรคการเมืองมาจากประชาชนที่มีอุดมการณ์เดียวกัน ไม่ควรมีอำนาจใดที่จะมีสิทธิตัดสินยุบพรรคการเมืองได้ เพราะมันคือการทำลายหลักการประชาชนเป็นผู้ทรงอำนาจสูงสุดของประเทศ พรรคการเมืองไม่สามารถอยู่ได้ หากไม่มีประชาชนสนับสนุน ประชาชนจึงควรเป็นผู้ตัดสินพรรคการเมืองผ่านการเลือกตั้ง โดยโทษยุบพรรค ถูกกลายเป็นเครื่องมือทางการเมืองที่ใช้เป็นบ่อนทำลายพรรค ทำให้พรรคตั้งยากแต่ยุบง่าย และอ่อนแอ ดังนั้น การยุติและยกเลิกการใช้อำนาจที่นอกเหนือจากประชาชนอย่างศาลรัฐธรรมนูญเป็นข้อเสนอที่สำคัญที่สุดของการพัฒนาประชาธิปไตยไทย ด้วยเหตุนี้พรรคก้าวไกลจึงเสนอยกเลิกโทษยุบพรรคการเมือง
นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ ส.ส.นราธิวาส พรรคประชาชาติ กล่าวว่า เหตุที่พรรคเสนอแก้ไขมาตรา 28-29 เรื่องบุคคลภายนอก มาชี้นำ ครอบงำพรรคการเมืองจนขาดความเป็นอิสระ เพราะต้องการให้มีการเปิดกว้างให้ประชาชนมีส่วนร่วม ไม่ควรมีกฎกติกามาบีบรัดการเจริญเติบโตของพรรคการเมือง ไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามเมื่อมีอำนาจ อาศัยเป็นช่องทางมายุบพรรคการเมืองได้ง่ายๆ ที่เป็นอันตรายต่อประชาธิปไตย นอกจากนี้การเปิดโอกาสให้บุคคล นิติบุคคลบริจาคเงินเกินกว่า 10 ล้านบาทต่อปีได้ ตรงนี้ไม่อันตรายกว่าหรือ พรรคประชาชาติเห็นว่า ถ้ามีการกำหนดเพื่อไม่ให้เกิดการชี้นำ ครอบงำพรรคได้ ต้องทำให้มีความชัดเจนมากกว่านี้ พร้อมนำไปถกเถียงต่อในชั้นกรรมาธิการฯ
นายวิเชียร ชวลิต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ เป็นตัวแทนชี้แจงหลักการและเหตุผลร่างของพรรคร่วมรัฐบาลว่า ในร่างแก้ไขของพรรคร่วมรัฐบาลมีทั้งหมด 13 มาตรา มีที่มาคือการเปลี่ยนแปลงเขตการเลือกตั้ง จึงมีเหตุผลและความจำเป็นต้องแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวกับพรรคการเมือง การเลือกตั้งส.ส.เขตนั้นจะนำไปสู่เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงประชากรในปีใด ถ้าจะมีการเลือกตั้งเมื่อใดก็ตามให้คำนวนจำนวนส.ส. กระจายเป็นเขตในแต่ละจังหวัด โดยใช้ประกาศจำนวนประชากรปีก่อนการเลือกตั้ง เพราะแต่ละปีมีการเปลี่ยนแปลงจำนวนประชากรตลอดเวลา การจะส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง ต้องตั้งตัวแทนพรรคการเมืองประจำเขตเลือกตั้ง นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงตัวแทนพรรคการเมืองประจำเขตการเลือกตั้งนั้นที่ไม่ได้เป็นสำนักงาน แต่เกิดการรวมตัวของสมาชิกพรรคการเมืองตามจำนวนที่กฎหมายกำหนด และจัดตั้งให้มีตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดขึ้น การเคลื่อนไหวเหล่านี้เป็นการเปลี่ยนแปลงที่ยุ่งยาก ซ้ำซ้อนและผูกพันการสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองที่ต้องชำระค่าธรรมเนียมสมาชิก ทำให้กระทบกับการตั้งตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงเขต และกระทบสมาชิกที่ต้องเสียค่าธรรมเนียมจำนวนมาก เป็นกระบวนการที่ซ้บซ้อน ยุ่งยากเป็นภาระประชาชน และพรรคการเมืองที่ต้องทำงานธุรการที่ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับกิจกรรมการเมือง ทำให้มีภาระค่าใช้จ่ายและใช้บุคลากรจำนวนมาก ทำให้พรรคการเมืองไม่มีความเข้มแข็ง อีกทั้งกระบวนการทำไพรมารีโหวตที่นั้นมีความซับซ้อน จึงต้องแก้ไขให้สอดคล้องกับบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ การเสนอแก้ไขนี้ไม่ได้หนีไปจากหลักการที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ และไม่ได้หนีไปจากสิ่งที่เจตนารมณ์พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองเดิมที่ใช้บังคับอยู่
นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การเสนอแก้ไขมาตรา 28-29 ไม่ได้ทำเพื่อพรรคเพื่อไทย แต่ที่ผ่านมามีการใช้มาตรานี้ กลั่นแกล้งทางการเมือง ทั้งนี้ถ้ามีการแนะนำทั่วไป เรื่องเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว ซึ่งมีประโยชน์กับประชาชน โดยพรรคเพื่อไทย ไม่ได้ทำเพื่อพรรคเพื่อไทย ทำเพื่อทุกพรรคไม่ให้ถูกกลั่นแกล้ง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'นายกฯอิ๊งค์' ลั่นรัฐบาลยินดีให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบเวชระเบียน 'ทักษิณ ชั้น 14'
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ขอเวชระเบียนการรักษาตัวของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
'ทวี' การันตีไม่มีสักนาทีที่ 'ทักษิณ' ออกจากชั้น14 ยินดีให้ข้อมูล ป.ป.ช.
ที่ทำเนียบรัฐบาล พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เรีย
เลือกตั้งนายก อบจ.นครพนม แชมป์เก่าออกปาก 'น่ากลัวทุกคน'
นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) รวมถึง สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) ทั่วประเทศ จะดำรงตำแหน่
'บิ๊กต่าย' ชี้เวชระเบียน 'ทักษิณ' เป็นอำนาจ รพ.ตำรวจ มีคกก.พิจารณามอบให้ ป.ป.ช. หรือไม่
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจอห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีมีกระแสข่าวคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. พยายามขอเวชระเบียนการรักษาตัวของนายทักษิณ ชินวัตร
'ปชน.' ตีปี๊บ! 1 ปีฝ่ายค้านผลงานเพียบ เมินเรตติ้งร่วง โต้ฮั้ว พท.
'พรรคประชาชน' โวผลงานฝ่ายค้าน 1 ปี' เสนอกฎหมาย 84 ฉบับ ตั้งเป้าทำงานผสมผสานได้ทั้ง 'รุก-รับ' ปัดฮั้ว 'เพื่อไทย' เมินผลโพลคะแนนร่วง เปรียบ 'เตะบอล' ต้องรอจบ 90 นาที
‘อดีตรองหน.เพื่อไทย’ เตือนสติ ‘ไว้ใจ-ศรัทธา’ คือพื้นฐานเสถียรภาพความมั่นคงรัฐบาล
สามารถ แก้วมีชัย อดีตรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เตือนสติรัฐบาล