“นิกร” ระบุ ชาติไทยพัฒนาพร้อมโหวตกฎหมายลูก 2 ฉบับ 24 – 25 ก.พ.นี้ ชี้พรรคเล็กไม่เสียบเปรียบมากนัก
20 ก.พ.2565 – นายนิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ให้สัมภาษณ์ถึงจุดยืนในการพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองของพรรคชทพ. ว่า พรรคสนับสนุนร่างของพรรคร่วมรัฐบาล เพราะส.ส.ของพรรคที่ไม่ได้เป็นรัฐมนตรีลงนามในร่างของพรรคร่วมรัฐบาลไปเรียบร้อยแล้วทุกคน ขณะนี้ร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ตรงกับร่างของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ยื่นโดยคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้ว
นายนิกร กล่าวว่า เพราะเดิมร่างของกกต.มีปัญหาเรื่องเบอร์จากเมื่อก่อนที่ร่างของกกต.ทำเป็นเบอร์เดียวกันหมายความว่าเป็นบัตร 2 ใบแต่เบอร์เดียวกัน แต่มันอาจขัดรัฐธรรมนูญ เพราะในมาตรา 90 กำหนดว่าการสมัครแบบบัญชีรายชื่อต้องสมัครแบบเขต “แล้ว” ซึ่งคำว่า “แล้ว” มีนัยยะ คือ ต้องได้เบอร์จ่ายเงินค่าสมัครเรียบร้อย “แล้ว” ถึงจะสมัครได้ ดังนั้นจึงจะเหมือนกันไม่ได้ ซึ่งตอนหลังร่างของกกต. ได้มีการปรับปรุงแล้วเป็นบัตร 2 ใบแต่คนละเบอร์ โดยในเขตเลือกตั้งก็จะจับฉลากเบอร์ใครเบอร์มัน
“ ซึ่งตอนเลือกตั้งประชาชนจะต้องจำเบอร์ของส.ส.ในเขต แม้จะไม่เหมือนแบบที่เราอยากได้แต่เป็นข้อบังคับตามรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ตาม ก็มีข้อดีคือในเขตเบอร์จะไม่ถูกเว้นว่างเรียงตามลำดับส.ส.สมัคร 5 คนก็ 5 เบอร์ ถ้าเบอร์เดียวจะกลายเป็นเบอร์ 1 ,3 ,21 อย่างนี้จะโบ๋และกากบาทยาก” นายนิกร ระบุ
นายนิกร กล่าวด้วยว่า และในทางการเมืองเห็นว่าจะทำให้พรรคการเมืองต้องแบ่งหาเสียงเป็น 2 ส่วน 1.พรรคการเมืองมีนโยบายอะไรก็สู้กัน 2.ส.ส.ในเขตเลือกตั้งใครอยู่ใกล้ชิดประชาชนก็ได้เปรียบไป ซึ่งจะแยกกันเดินถือเป็นการพัฒนาทางการเมือง อีกอย่างหนึ่งและพรรคชทพ.ในฐานะที่ไม่ได้เป็นพรรคขนาดใหญ่ถ้าเป็นเช่นนี้จะไม่เสียเปรียบนัก ไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นพรรคขนาดใหญ่ได้เปรียบพรรคมาก ส่วนเรื่องการนับคะแนนร่างของครม.และพรรคร่วมรัฐบาลตรงกัน คือ คะแนนโดยการหารหาค่าเฉลี่ยและหากต่ำกว่าค่ากลางให้เรียงแล้วตัดจนกระทั่งเศษหมดไป
นายนิกร กล่าวว่า กฎหมายพรรคการเมืองมีปัญหาคือ ร่างของครม.แก้ไปเพียงนิดเดียว เพราะเขาไม่สามารถจะแก้เพื่อแก้ปัญหาของพรรคการเมือง จึงยึดเอาร่างของพรรคร่วมรัฐบาลเป็นหลัก ซึ่งร่างของพรรคร่วมรัฐบาลได้แก้ไขไปหลายอย่าง เช่น ตัวแทนประจำจังหวัด ถอดการลงไพรมารี เป็นต้น ถือว่าแก้ไขครอบคลุมมากกว่า
“ อย่างไรก็ตามในวาระแรกขั้นรับหลักการที่จะมีขึ้นในวันที่ 24 -25 กุมภาพันธ์นี้ ไม่ว่าจะเป็นร่างของครม.หรือพรรคอื่นๆที่มีหลักการเดียวกันทางพรรคชทพ.จะรับหลักการและค่อยไปปรับปรุงแก้ไขในชั้นกรรมาธิการ” นายนิกร ระบุ
ผู้สื่อข่าวถามว่ากฎหมายทั้งสองฉบับควรทำเสร็จในช่วงเวลาใด นายนิกร กล่าวว่า จะมีการตั้งคณะกรรมาธิการชุดเดียวทำกฎหมายทั้ง 2 ฉบับ เนื่องจากเป็นกฎหมายที่เหมือนกัน คาดว่าจะพิจารณาไม่เกิน 2 เดือนก็เสร็จทั้ง 2 ฉบับ หากคณะกรรมาธิการพิจารณาทันก่อนเปิดสมัยประชุมสามัญก็อาจขอเปิดสมัยวิสามัญ แต่ถ้าพิจารณาไม่ทันก็จะพิจารณาต่อในสมัยสามัญ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ป.ป.ช.สะดุ้ง! ยก 6 เหตุผลปราบคอร์รัปชันไร้ประสิทธิภาพ คนโกงจึงเหิมลำพอง
สาเหตุที่การป้องกันและปราบปรามการทุจริตไม่ได้ผลไร้ประสิทธิภาพและพวก คนโกงคนชั่วหรือเหิมลำพอง อยู่ได้ก็เพราะ
'รวมแผ่นดิน' เปลี่ยนชื่อใหม่พรรคก้าวอิสระ 'มาดามหยก' นั่งหัวหน้า 'แว่น สิริรัตน์' โฆษก
นายมาโนช อุณหกาญจน์กิจ รองหัวหน้าพรรครวมแผ่นดิน เป็นประธานจัดการประชุมใหญ่ สามัญประจำปี ครั้งที่ 2/2567 สืบเนื่องจาก นายมนตรี พรมวัน ลาออกจากหัวหน้าพรรค เพื่อไปลงเลือกตั้งท้องถิ่น ทำให้ต้องมีการประชุมเพื่อเลือกหัวหน้าพรรค
'แพทองธาร' นำประชุมใหญ่สามัญเพื่อไทย 19 พ.ย. ยังไม่ปรับโครงสร้างพรรค
พรรคเพื่อไทย (พท.) มีกำหนดการจัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2567 พรรค พท. เพื่อรับรองผลการดำเนินงานของพรรค ตามกฎหมายคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)
'นักกฎหมาย' โต้ยิบ 'กรมที่ดิน' ปมที่ดินเขากระโดง
ดร.ณัฐวุฒิ วงศ์เนียม หรือ “ ดร.ณัฏฐ์” นักกฎหมายมหาชน กล่าวถึงกรณีกรมที่ดินชี้แจง 5 ประเด็นเกี่ยวกับที่ดิน 'เขากระโดง' ว่าคำแถลงของกรมที่ดิ
'นายกฯอิ๊งค์' ถกหัวหน้าส่วนราชการ ลุยลงทุน 9.6 แสนล้าน กระตุ้นจีดีพีประเทศ
นายกฯ ถกหัวหน้าส่วนราชการฯ กำชับผลักดันเม็ดเงินลงทุน 9.6 แสนล้าน สู่ระบบเศรษฐกิจ กระตุ้น ‘จีดีพี’ ประเทศ
ด้อมส้วมดิ้น! 'เพนกวิน' ย้อนพรรคส้ม ไม่ควรฟ้องปิดปากประชาชน
นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน ผู้ต้องหาคดี 112 ซึ่งหลบหนีออกไปต่างประเทศ โพสต์เฟซบุ๊กกล่าวถึงกรณีที่พรรคประชาชนประกาศว่า จะดำเนินการฟ้องร้องประชาชน