17 ก.พ.2565 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 13.45 น. นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศิวิไลย์ ที่ประกาศตัวเป็นสมาชิกกลุ่ม 16 เพื่อตรวจสอบรัฐบาล อภิปรายว่า ประเด็นแรกขอพูดถึงการร่วมทุจริต กักตุนหมูจนทำให้หมูแพง ส่งผลทุกสินค้าแพงทั้งแผ่นดิน และค่าครองชีพของประชาชนสูงขึ้น ขอกล่าวหา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่กำกับกรมการค้าภายใน และนายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่กำกับกรมปศุสัตว์ การร่วมกันทุจริต กักตุนหมู ทำให้หมูแพง และสินค้าแพงทั้งแผ่นดิน
นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า ราคาสุกรที่เกษตรกรขายได้ในปี 2564 เฉลี่ยกิโลกรัมละ 72.71 บาท ส่วนราคาส่งออกเนื้อสุกรเย็นแช่แข็งเฉลี่ยกิโลกรัมละ 122.76 บาท โดยสุกรขาดตลาดมาจากสาเหตุโรคอะหิวาต์แอฟริกาในสุกร และอาหารสุกรราคาแพงขึ้น เนื่องจากเจ้าสัวเป็นผู้กำหนดราคา ทั้งนี้ ตลาดผู้เลี้ยงสุกร รวม 18 ล้านตัว แบ่งเป็นมาจากฟาร์มบริษัทใหญ่แห่งหนึ่ง 5 ล้านตัวต่อปี คิดเป็น 27.77% ที่ครองตลาดสูงสุด และที่เหลือมาจากฟาร์ม นักการเมือง ฟาร์มเกษตรกรรายย่อย โดยโรคอะหิวาต์แอฟริกาในสุกร เริ่มระบาดมาตั้งแต่ปลายปี 2562 จนถึงปัจจุบัน ตนจึงถามไปยังอธิบดีกรมปศุสัตว์ และนายประภัตร ว่าเหตุใดจึงต้องปกปิดข้อมูล หรือกลัวว่าจะกระทบฟาร์มเจ้าสัวใหญ่หรือไม่ จนทำให้ราคาสุกรสูงขึ้น เพราะสุกรขาดตลาด ต่อมาก็ค่อยไปตามจับสุกรแช่แข็งแค่ 2 ที่ ถามว่าเป็นการจับพอเป็นพิธีหรือไม่ เพื่อบอกว่าอย่างน้อยก็ยังทำงาน เมื่อเดือนสิงหาคม 2564 ราคาสุกรอยู่ที่ 154 บาทต่อกิโลกรัม
ต่อมาเดือนมกราคม 2565 ราคาขึ้นมาที่ 220 บาทต่อกิโลกรัม แค่ 6 เดือนราคาเพิ่มขึ้น 66 บาทต่อกิโลกรัม คิดเป็นเพิ่มขึ้น 42.8% ทำให้เจ้าสัวสุกรเจ้าใหญ่และนักการเมืองที่เลี้ยงสุกรแต่ละจังหวัดฟันกำไร 42 บาทต่อกิโลกรัมในช่วง 3 เดือน กว่า 18,900 ล้านบาท ราคาสุกรเพิ่มขึ้น แต่รายได้ประชาชนเท่าเดิม แต่ทำไมนายกฯ นายประภัตร และนายจุรินทร์ จึงไม่วางแผน และไม่มีมาตราการมาแก้ไขปัญหา ถือเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่เพื่อปกป้องเจ้าสัวรายใหญ่หรือไม่ มีประชาชนคนไหนเชื่อว่าว่าพวกท่านไม่ได้ทุจริต บนคราบน้ำตาประชาชน
นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า ประเด็นที่สอง คือ ราคาน้ำมันเบนซิน ดีเซล แก๊ส ราคาแพง และค่าแรงถูก ขอกล่าวหา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ที่ปล่อยปละละเลย ด้อยปัญญา ความรู้น้อย โง่แต่ขยัน บริหารทำให้ราคาน้ำมันแพง เพราะประเทศไทยเก็บภาษี หลายชนิด เช่น ภาษีสรรพสามิตร ภาษีมูลค่าเพิ่ม และกองทุนน้ำมัน เป็นต้น เก็บได้ร่วมลิตรละ 10-11 บาท เป็นการรีดภาษีจากประชาชนปีละ 230,860 ล้านบาทต่อปี การที่ออกมติครม. ลดภาษีสรรพสามิตร ลิตรละ 3 บาท 3 เดือน ก็ไม่ได้ทำให้ราคานำมันลด
“นายกฯ เคยถามว่าใครเดือดร้อนจากน้ำมันแพง ซึ่งความจริงคือ ประชาชนคนไทยทุกคน 66.19 ล้านคนเดือดร้อน ยกเว้นนายกฯ เพราะมีสวัสดิการมากกว่าประชาชน อาทิ รถหลวงฟรี น้ำมันฟรี คนขับรถฟรี ค่าบ้านหลวงฟรี ค่าไฟฟ้าฟรี ค่าน้ำฟรี ค่าข้าวฟรี ค่าพลทหารทำความสะอาดบ้านซักผ้า ล้างจาน และตัดหญ้าฟรี” นายมงคลกิตติ์ กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สส.เพื่อไทย เย้ยฝ่ายค้าน ซักฟอกรัฐบาลอิ๊งค์ ต้องมีข้อมูลไม่ใช่แค่พิธีกรรมทำตามฤดูกาล
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส. บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีพรรคประชาชน (ปชน.) ขู่เตรียมยื่นอภิปรายไม่ไว้วาง