'ทิพานัน' ชูผลสำเร็จคนละครึ่งเฟส 4 ตอกกลับทีมเศรษฐกิจเพื่อไทยมองตื้นเขิน

“ทิพานัน”ชูผลสำเร็จคนละครึ่งเฟส4ตอกทีมเศรษฐกิจเพื่อไทย ซัดมองหนี้สาธารณะอย่างตื้นเขิน ไม่สมเป็นทีมเศรษฐกิจ ยันรัฐบาลแก้ปัญหาเป็นระบบ ดันBCG โมเดลฉุดรายได้สูงขึ้น ลดเหลื่อมล้ำ 10 ล้านคน

13 ก.พ. 2565 – น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขตจอมทอง-ธนบุรี อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่คณะทำงานด้านเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย ออกมาวิจารณ์พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่าแจกเงินยิ่งกว่าประชานิยม แก้ปัญหาเศรษฐกิจไม่ได้ และการสร้างงานสำคัญกว่าว่า การวิจารณ์ดังกล่าวเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจบริบทเศรษฐกิจไทยที่เปลี่ยนไป จากการพึ่งรายได้จากต่างประเทศ ก็ต้องหันมาพึ่งพาการบริโภคภายในประเทศในระยะเร่งด่วน โครงการต่างๆของรัฐบาลมีเป้าหมายเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ลดค่าครองชีพของพี่น้องประชาชน กระตุ้นการใช้จ่าย ช่วยเหลือธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เพื่อประคับประคองให้คนทุกกลุ่มได้ผ่านพ้นช่วงเวลาแห่งความยากลำบากนี้ ซึ่งเป็นมาตรการเฉพาะหน้า เช่นผลสำเร็จที่เห็นอย่างชัดเจนคือ การที่พี่น้องประชาชนลงทะเบียนโครงการคนละครึ่งเฟส4 ครบ 1 ล้านสิทธิ์อย่างรวดเร็ว เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ สะท้อนถึงประสิทธิภาพของโครงการ

“แต่พรรคเพื่อไทยก็พยายามหาช่องโจมตี บิดเบือนมุมมองเรื่องหนี้สาธารณะเพื่อดิสเครดิตทางการเมือง แต่ไม่ได้มองในมิติทางด้านเศรษฐกิจ ให้สมกับเป็นคณะทำงานด้านเศรษฐกิจแต่อย่างใด ที่ต้องคิดและมองตามหลักเศรษฐศาสตร์ เพราะเรื่องหนี้สาธารณะนั้นหากจะเลือกมองแต่มูลค่าของหนี้ โดยที่ไม่พิจารณาว่าได้นำเงินกู้มาใช้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ ตรงจุดหรือไม่ ก็ถือว่าเป็นการมองอย่างตื้นเขินเกินจะบอกว่าเป็นทีมเศรษฐกิจ”น.ส.ทิพานัน กล่าว

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า รัฐบาลไม่ได้แจกเงินอย่างเดียว มีเพิ่มโอกาสให้เข้าถึงแหล่งทุนได้มากขึ้นในวงเงินที่เริ่มต้นประกอบธุรกิจได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ เช่น สินเชื่อสร้างงานสร้างอาชีพ ของธนาคารออมสิน ที่สำคัญรัฐบาลไม่ได้แค่คิดสร้างงาน สร้างอาชีพเฉพาะหน้าแต่ยังเดินหน้าโมเดล เศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียว Bio-Circular-Green Economy หรือ BCG เพื่อยกระดับการแข่งขันของประเทศ เพิ่มมูลค่าทุกด้าน เช่น รัฐบาลได้สนับสนุนให้ เอสเอ็มอี ไมโครเอสเอ็มอีและกลุ่มสตาร์ตอัพมีความเข้มแข็ง เข้าถึงสิทธิประโยชน์ที่รัฐสนับสนุน โดยมีข้อมูลว่า 9 เดือนแรกของปี 2564 มีมูลค่าโครงการที่ขอรับการการส่งเสริมการลงทุนสูงกว่า 128,000 ล้านบาทแล้ว ซึ่งตั้งเป้าหมาย เพิ่มจีดีพีให้เป็น 2 แสนล้านบาท ที่จะให้พี่น้องประชาชนมีรายได้สูงขึ้น ลดความเหลื่อมล้ำของประชาชนราว 10 ล้านคน ซึ่งตรงนี้มีระบบติดตามประเมินผลชัดเจน และปรับปรุงให้เข้ากับสถถานการณ์เสมอ เพื่อผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชน

“จะเห็นได้ว่าการใช้งบประมาณของรัฐบาล ไม่ได้แจกเงินให้ประชาชนอย่างสะเปะสะปะ อย่างที่กล่าวหา แต่เม็ดเงินลงไปอย่างเป็นระบบ เพื่อรายได้ครัวเรือนของพี่น้องประชาชนที่สูงขึ้น และเมื่อวิกฤตผ่านพ้นไปเศรษฐกิจไทยยังจะเติบโตแบบก้าวกระโดดได้ทันเวลา เว้นแต่จะมีพวกที่ทำตนเหมือนหวังดีต่อพี่น้องประชาชน แต่ประสงค์ร้ายต้องการขัดแข้งขัดขานายกรัฐมนตรี เพื่อไม่ให้ประชาชนได้มีรายได้สูงขึ้น”น.ส.ทิพานัน กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รทสช.จ่ออภิปรายงบปี 2568 แนะรัฐบาลต่อยอดโครงการลุงตู่!

รทสช. นัดประชุม สส. สัปดาห์หน้า เตรียมอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบ 2568-ประชามติ เน้นชี้แนะรัฐบาล จัดงบกระตุ้นเศรษฐกิจ ยกระดับคุณภาพชีวิตพร้อมสะท้อนความต้องการประชาชน

'ชาญชัย' จับโป๊ะ 'เศรษฐา-แพทองธาร' กางเอกสารมัดตัวก่อหนี้ประเทศ

'ชาญชัย' จับโป๊ะ 'นายกฯ-รมว.การคลัง' กางแผนก่อหนี้สาธารณะ 4 ปี จ่อเต็มเพดาน สูงถึง 14.9 ล้านล้านบาท ลั่น! ถ้าเก่งจริงต้องลดหนี้ ฟื้นเศรษฐกิจ ไม่ใช่กู้มาใช้ จี้ทบทวนนโยบายใหม่ อย่าซ้ำรอยค่าเงินบาท ปี 2540