ต้องมีเงินแบบแม้ว 'เต้น' หยาม 'บิ๊กตู่' ตั้งพรรคเองไปไม่รอด เพราะไม่มีกระเป๋าให้ควัก

ณัฐวุฒิแฟ้มภาพ

12 ก.พ.2565 - นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำเครือข่ายขับไล่ประยุทธ์ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กช่วงหนึ่งว่าภายในรัฐบาลประยุทธ์วันนี้มีความขัดแย้งเกิดขึ้นจริง และคู่ขัดแย้ง ก็ไม่ใช่พลเอกประยุทธ์กับร้อยเอกธรรมนัส แต่เป็นระหว่างพลเอกประยุทธ์กับพลเอกประวิตร เพียงแต่ฝ่ายของพลเอกประวิตรมีร้อยเอกธรรมนัสเป็นตัวเดิน

เป้าหมายของสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่นี้ ก็มีความรุนแรงถึงขั้นพังกันไปข้างหนึ่ง จากเดิมที่ฝ่ายของพลเอกประวิตร อาจต้องการเพียงที่จะจัดสรรอำนาจใหม่ จัดระเบียบอำนาจในฝ่ายรัฐเสียใหม่ให้กลุ่มตัวเองพวกตัวเองอยู่ในสถานะที่แข็งแรงกว่านี้ หรืออย่างน้อยที่สุดให้ขั้วอำนาจของตัวเองเป็นเหมือนตอนรัฐบาล คสช. ยุคแรกๆ

แต่หลังจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อเดือนกันยายนปีก่อน มันมีเหตุการณ์ที่ถึงขั้นเป็นคดีพยายามฆ่า หมายความว่าในเหตุการณ์นั้นฝ่ายร้อยเอกธรรมนัสและพวก เตรียมจะโหวตล้มพลเอกประยุทธ์ ความวางไว้วางใจสนิทแนบแน่นดังเก่าจึงไม่มี

พอมันมาถึงปัจจุบันประกอบกับมรสุมรอบด้าน ร้อยเอกธรรมนัสก็พาพรรคพวกออกไปเป็นพรรคเศรษฐกิจไทยแล้วก็กำลังเดินเกมเขย่ารัฐบาลทุกวัน นี่คือเกมที่แรงขึ้น ในช่วงที่รัฐบาลขาลงสุดๆ เหตุการณ์มันบีบให้พลเอกประยุทธ์ต้องตัดสินใจ ความเคลื่อนไหวของซีกพลเอกประวิตร ถ้าล้มได้ก็คงคิดว่าอยากจะล้ม

การวิเคราะห์ของสื่อมวลชนบางส่วนที่บอกว่า พลเอกประยุทธ์ต้องการจะอยู่ยาว ก็ไม่ผิด เพราะพลเอกประยุทธ์ มีเป้าหมายที่อยากเป็นเจ้าภาพเอเปค อยากเป็นนายกรัฐมนตรีจนครบเทอมแล้วเป็นอีกที แต่ในความเป็นจริงวันนี้พลเอกประยุทธ์อยู่ยากแล้ว ที่บอกว่าจะผ่าทางตันโดยการปรับครม. ให้เก้าอี้ที่ฝ่ายพลเอกประวิตรที่ร้อยเอกธรรมนัสต้องการ จะเป็นจริงไปได้หรือ การปรับ ครม. ยามนี้ใครจะเป็นคนที่ได้แต้ม ?

ถ้าพลเอกประยุทธ์ปรับ ครม. ตามที่พลเอกประวิตรหรือร้อยเอกธรรมนัสต้องการก็เท่ากับว่านายกรัฐมนตรีสิ้นสภาพ ลูกน้องตัวเองขู่ได้ บีบได้และได้ตามต้องการด้วย ทางฝ่ายของคนได้เก้าอี้ ถ้าหากว่ามีเก้าอี้เสร็จแล้วจากที่พยศอยู่กลับเรียบร้อยเป็นผ้าพับไว้ ประกาศว่าต่อไปจะทำงานกับพลเอกประยุทธ์เต็มกำลัง นำพาบ้านเมืองแก้วิกฤต คนในสังคมก็บอกว่าที่ปั่นป่วนกันมาทั้งหมดก็แค่อยากได้เก้าอี้นี่เอง แล้วก็จบไม่มีอะไร ก็จะเสียรังวัดเหมือนกัน

ยังไม่รวมถึงว่าคนจะมาเป็นรัฐมนตรีใหม่ในยามนี้คิดหรือครับว่าจะอยู่ได้นาน อายุรัฐบาลเต็มๆ 1 ปี ปรับ ครม.มาแล้วก็ยังไม่รู้จะไปวันไหน มันคุ้มกันหรือเปล่าที่จะต้องแลกกับสิ่งที่สังคมเขาจะตัดสินว่าที่คุณวุ่นวายกันอยู่ในพวกคุณเนี่ยเพียงแค่ว่าเล่นเกมตบหัวจะเอาเก้าอี้ จะเอาผลประโยชน์ในทางการเมืองก็แค่นั้น

ดังนั้นผมจึงเชื่อว่าในความขัดแย้งนี้ไปถึงขั้นว่าพลเอกประยุทธ์ต้องพ้นอำนาจ เวลานี้ฝ่ายที่สมประโยชน์กันอยู่ในรัฐบาล แต่ละพรรคแต่ละกลุ่มเริ่มคิดเหมือนกันว่า ให้ความพังทั้งหมดใน 8 ปีไปลงที่พลเอกประยุทธ์คนเดียว ให้พลเอกประยุทธ์พังไปคนเดียว คนอื่นก็ยังเดินต่อได้ แต่ถ้ากอดคอกันไปเป็นหนึ่งเดียวกันไปแบบนี้ก็จะพังไปด้วยกันทั้งหมด ดังนั้นเวลานี้พลเอกประยุทธ์จึงเป็นตำบลกระสุนตกอย่างแท้จริง

แล้วในมุมนี้จะต้องดูดีๆ ถ้าเหตุการณ์วิกฤตไปกว่านี้ พลเอกประยุทธ์พังลงไปกว่านี้ ดีไม่ดีพรรคร่วมรัฐบาลจะเป็นฝ่ายชิงถอนตัว ซึ่งในทางการเมืองเป็นการ ‘ถอนเอาแต้ม’ เพื่อให้สามารถอธิบายบายได้ว่าพวกเขานี่แหละคือแจ็คผู้ฆ่ายักษ์ เป็นคนที่ทำให้อำนาจของพลเอกประยุทธ์ตลอด 8 ปี พังไปต่อหน้า แล้วเอาอำนาจกลับมาคืนประชาชน

วันนี้ พลเอกประยุทธ์ ตาเดินน้อยมากแล้ว เพียงแต่ไม่มีทางเลือกจึงต้องพยายามทุกอย่างเพื่อที่จะไปต่อให้ได้ การให้เสกสกลไปทำพรรคการเมือง ซึ่งไม่แน่ใจว่าจะเป็นพรรคที่พลเอกประยุทธ์จะไปอยู่จริงๆ หรือไม่ แต่ลักษณะส่วนตัวพลเอกประยุทธ์จะไม่เหมือนพลเอกประวิตร และผมตั้งคำถามในใจเลยว่าถ้าพลเอกประยุทธ์จะไปทำพรรคการเมืองของตัวเอง เพื่อขับเคลื่อนพรรคการเมืองนี้ให้ตัวเองเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีอีกรอบนั้น มีคำถามง่ายๆ ว่า ‘ใครจ่าย ใครจัดการพรรคการเมือง’ นี้

“พลเอกประยุทธ์แกเป็นทหารบกแต่แกนุ่งกางเกงทหารเรือ ซึ่งไม่มีกระเป๋า ดังนั้นพลเอกประยุทธ์ไม่ควักจ่ายแน่ๆ ไม่เหมือนพลเอกประวิตรที่แม้จะเป็นทหารบกแต่นุ่งกางเกงรบพิเศษ กระเป๋าเยอะเต็มขาไปหมด และแม้พลเอกประวิตรอาจเดินช้าแต่ควักเร็วแน่นอน นี่อาจจะเป็นฉายา ‘ป้อมโอนไว’ ฉะนั้นในพรรคพลังประชารัฐ ในขุมอำนาจ คสช.ทั้งหมดตลอด 8 ปีที่ผ่านมาทุนถึงมาจากพลเอกประวิตร

ดังนั้นถ้าพลเอกประวิตรไปทำพรรค ผมเชื่อว่ามีคนตามไปแน่นอน เพราะว่าอย่างที่บอก ป้อมโอนไว เป็นทหารบกที่ใส่กางเกงรบพิเศษกระเป๋าเยอะ แต่ถ้าพลเอกประยุทธ์ไปทำพรรคแล้วไปเองคนเดียว แล้วก็บอกว่าจะพาองคาพยพไป คนก็จะเห็นอย่างที่ผมเห็นนั่นแหละว่าพลเอกประยุทธ์เป็นทหารบกที่นุ่งกางเกงทหารเรือ อย่าว่าแต่ตัวเองจะล้วงกระเป๋าเองเลย คนอื่นจะไปล้วงก็ล้วงไม่ได้ เพราะไม่มีกระเป๋า” อ่านต้นฉบับ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ระทึกสุดขีด! 22 พ.ย. ศาลรธน.ลงมติ 'รับ-ไม่รับ' คำร้อง 'ทักษิณ-เพื่อไทย' ล้มล้างการปกครอง

คอนเฟิร์ม ศุกร์นี้ 22 พ.ย. 9 ตุลาการศาลรธน.นัดประชุมวาระพิเศษ หลังงดมาสองรอบ เตรียมนำหนังสือ-ความเห็นอัยการสูงสุด กางบนโต๊ะประชุม ก่อนลุ้นโหวตลงมติ”รับ-ไม่รับคำร้อง”คดีทักษิณ-เพื่อไทย โดนร้องล้มล้างการปกครองฯ

'แพทองธาร' โชว์วิชั่น การเมืองมีเสถียรภาพ ประเทศไทยจะดีขึ้น!

นายกฯ โชว์วิชั่น Forbes ไทยสงบ สันติ หวังรัฐบาลเปลี่ยน นายกฯเปลี่ยน แต่นโยบายเพื่อปชช.เดินหน้า บอกต่างชาติเจอคำถามแรกถามพ่อ-อาเป็นอย่างไร ย้ำการเมืองมั่นคง มีเสถียรภาพแน่นอน

ไทยในสายตาต่างชาติ (ตอนที่ 48: พระราชกฤษฎีกา 1 เมษายน 2476 คือ การทำรัฐประหารเงียบหรือ ?)

ในตอนที่แล้ว ผู้เขียนได้สรุปเหตุการณ์สำคัญต่างๆที่เป็นเงื่อนไขที่นำมาสู่การประกาศพระราชกฤษฎีกาวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2476

รู้ไว้ซะ 'ปิยบุตร' เผย 'ทักษิณ' ได้กลับบ้าน เพราะก้าวไกลชนะเลือกตั้ง!

นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊กว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา มีเรื่องหนึ่งที่ถูกหยิบยกมาถกเถียงกันอีกครั้ง

ปากไว! นายกฯ อบรม 'พ่อนายกฯ' รอที่ประชุมเคาะก่อนไปพูดบนเวทีแจกเงินหมื่น

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขึ้นเวทีปราศัยหาเสียงเลือกตั้งท้องถิ่น มอง

พิราบขาว ตามจิกทักษิณ ยกปราศรัยหาเสียงที่อุดร หลักฐานมัดครอบงำเพื่อไทย

ที่สำนักคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายนพรุจ วรชิตวุฒิกุล แกนนำกลุ่มพิราบขาว 2006 ยื่นเอกสารเพิ่มเติมต่อกกต.กรณีคำร้องยุบ 6 พรรคการเมือง