11 ก.พ.2565 - ดร.ปลอดประสพ สุรัสวดี อดีตรองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ โพสต์เรื่อง "โรคเบื่อกำลังแซง Omicron" มีรายละเอัยดดังนี้ น้ำมันรั่วอีกจนได้ คราวนี้ 5,000 ลิตร เป็นน้ำมันที่ค้างท่อที่ชำรุดอยู่เดิมซึ่งยังคงฝังไว้ใต้ทะเล (คงลืมเอาออกมั๊ง) คนของบริษัทStar Petroleum Refining ไปรื้อท่อโดยยังไม่ได้ขออนุญาตกรมเจ้าท่าซึ่งเขาเคยมีคำสั่งให้ปิดไว้ และลืมขออนุญาตตำรวจเพราะท่อถือเป็นหลักฐานคดีที่ยังฟ้องร้องกันอยู่ แต่มาความแตกเมื่อกรมควบคุมมลพิษ เขาไม่ยอมให้ใช้สารเคมี dispersant จำนวนมากมายพ่นลงทะเลเพิ่มเติมไปกว่าเดิมอีก
ลูกน้องผมเล่าว่า บริษัทมาอ้างเจ้าหน้าที่กองทัพเรือจะช่วยใช้ Helicopter บินไปพ่นให้ ซึ่งเป็นวิธีที่ไม่ถูกต้องเลย ที่จริงต้องเอาBoomล้อมไว้แล้วดูดน้ำมันออก ไม่ใช่ใส่สารเคมีเพื่อให้น้ำมันจม เพราะในที่สุดก็จะมีผลกระทบต่อชายฝั่ง ประเทศไทยนี่แปลกมีคนใหญ่คนโตเยอะจริงๆ เรื่องคอขาดบาดตายซ้ำซากแบบนี้ นายกฯจะอยู่แต่บนหอคอยงาช้างอีกไม่ได้แล้ว นี่คือเหตุผลหนึ่งที่คนเขาเบื่อไม่เอาท่านไง สมัยผม นายกฯมอบอำนาจเด็ดขาดให้รองนายกฯสั่งการในพื้นที่ของสถานการณ์คนเดียวเลย ต่างกับปัจจุบัน นายกเลือกสั่งการตามที่โฆษกอธิบายแทนการมอบหมายให้บุคคลระดับสูงกว่ารัฐมนตรีลงไปสั่งการอยู่ในพื้นที่ ซึ่งจะมีประสิทธิภาพมากกว่า
สองอาทิตย์ที่ผ่านมา ผมไปประชุมกรรมาธิการเรื่องหมูและเรื่องแก้ไขกฎหมายเดินเรือไทยที่สภาฯบ่อยมากถึงอาทิตย์ละ 3 วัน จึงมีโอกาสได้คุยกับเพื่อนสส.เก่ารุ่นโตๆ จากทั้งฟากรัฐบาลและฝ่ายค้าน ทุกคนบ่นเหมือนๆกันคือ เบื่อและไม่พอใจนายกประยุทธ์ เขาบอกว่า พวกเขาช่วยกันเบี้ยวการประชุมเอง (กรณีไม่ใช่กฎหมายสำคัญ) เพื่อให้นายกฯใส่ใจต่อสภาผู้แทนราษฎรบ้าง ไม่ใช่ทำตัวลอยอยู่เหนือปัญหา โดยอ้างว่า เป็นเรื่องการเมือง ไม่อยากยุ่งเกี่ยว ตัวนายกอยากจะทำงาน (เพื่อชาติ)อย่างเดียว พวกสส.เขาฟังไม่ขึ้น คราวนี้ท่านนายกฯเข้าใจหรือยังว่า ทำไมสภาฯล่มถึง 17 ครั้ง ผมถามพวกเขาว่า ไม่กลัวยุบสภาหรือ ทุกคนบอกว่า มันเหลืออดแล้ว ยุบก็เลือกใหม่ไม่เห็นเป็นไร แต่นายกประยุทธ์ไม่ได้เป็นอีกแน่
คราวนี้มาถึงเรื่องบอยคอตครม. ผมพยายามทบทวนความจำ ซึ่งผมมั่นใจว่า เรื่องแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเลย สำหรับผม 4 ปี ผมขาดประชุม ครม. เพียงครั้งเดียว เพราะท่านนายกฯใช้ให้ไปต่างประเทศ ผมจึงกระซิบถามบางท่านซึ่งสนิทกัน(ยอมเผยความลับ) เขาบอกว่า เซ็งนายกฯคนนี้มากเพราะหลายครั้งแล้วที่ชอบลอยตัวอยู่เหนือปัญหา (อีกแล้ว!) ไม่ยอมมาพูดคุยถกแถลงกันอย่างตรงไปตรงมา เช่น เรียกคนที่เห็นต่างมาคุยกันต่อหน้า เลือกที่จะเชื่อเฉพาะพวกพ้องโดยเฉพาะจากสายทหารด้วยกัน หรือไม่ก็พวกเจ้าสัวชื่อเสียงโด่งดังทั้งหลายเพราะคิดว่า เป็นกูรูเศรษฐกิจ เขาก็เลยตัดสินใจไม่ร่วมประชุมให้รู้สึก(สำนึก) เสียบ้าง และอีกอย่างก็คือ ไม่อยากจะร่วมสังฆกรรมในวงอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งที่จะมาถึงและต่อๆไปด้วย
ท่านนายกประยุทธ์ที่เคารพครับ สภาฯเขาก็เบื่อ คณะรัฐมนตรีเขาก็เบื่อ ประชาชนจากการเลือกตั้งล่าสุด 3 ครั้งก็แสดงความเบื่อออกมาชัดเจน ท่านช่วยเบื่อเป็นนายกรัฐมนตรีอีกสักคนสิครับ เรื่องมันจะได้จบเสียที เปรียบหมากรุก ตอนนี้โคน ม้า เรือก็ถูกกินเรียบแล้ว เหลือแต่เบี้ยอย่างเดียว มันจะสู้ไหวหรือ?
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สส.เพื่อไทย ดี๊ด๊า ประเทศไทยมีระบบที่เป็นมาตรฐาน!
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่าประชาชนที่ติดตามเรื่องนี้คงสบายใจขึ้นที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับ
'อิ๊งค์' ยิ้มรับ 'พ่อ-เพื่อไทย' รอดล้มล้างปกครอง ชาวเน็ตชี้จากนี้ไป 'ทักษิณ' ใส่เกียร์เหลิง
จากกรณีตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีมติไม่รับไว้พิจารณาวินิจฉัย คำร้องที่นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ในฐานะประชาชน ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ
ระทึกสุดขีด! 22 พ.ย. ศาลรธน.ลงมติ 'รับ-ไม่รับ' คำร้อง 'ทักษิณ-เพื่อไทย' ล้มล้างการปกครอง
คอนเฟิร์ม ศุกร์นี้ 22 พ.ย. 9 ตุลาการศาลรธน.นัดประชุมวาระพิเศษ หลังงดมาสองรอบ เตรียมนำหนังสือ-ความเห็นอัยการสูงสุด กางบนโต๊ะประชุม ก่อนลุ้นโหวตลงมติ”รับ-ไม่รับคำร้อง”คดีทักษิณ-เพื่อไทย โดนร้องล้มล้างการปกครองฯ
'แพทองธาร' โชว์วิชั่น การเมืองมีเสถียรภาพ ประเทศไทยจะดีขึ้น!
นายกฯ โชว์วิชั่น Forbes ไทยสงบ สันติ หวังรัฐบาลเปลี่ยน นายกฯเปลี่ยน แต่นโยบายเพื่อปชช.เดินหน้า บอกต่างชาติเจอคำถามแรกถามพ่อ-อาเป็นอย่างไร ย้ำการเมืองมั่นคง มีเสถียรภาพแน่นอน
ไทยในสายตาต่างชาติ (ตอนที่ 48: พระราชกฤษฎีกา 1 เมษายน 2476 คือ การทำรัฐประหารเงียบหรือ ?)
ในตอนที่แล้ว ผู้เขียนได้สรุปเหตุการณ์สำคัญต่างๆที่เป็นเงื่อนไขที่นำมาสู่การประกาศพระราชกฤษฎีกาวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2476
รู้ไว้ซะ 'ปิยบุตร' เผย 'ทักษิณ' ได้กลับบ้าน เพราะก้าวไกลชนะเลือกตั้ง!
นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊กว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา มีเรื่องหนึ่งที่ถูกหยิบยกมาถกเถียงกันอีกครั้ง