'ไทยสร้างไทย' ฟุ้งนโยบายดูแลชีวิตคนไทยตั้งแต่เกิดจนแก่ ชี้ต้องพักใช้กม. 1,300 ฉบับ

"ไทยสร้างไทย" เปิดนโยบาย ดูแลประชาชนตั้งแต่เกิดจนแก่ มุ่งขจัดอุปสรรค รัฐราชการอำนาจนิยม ขอเพื่อปลดปล่อย เสริมสร้างอำนาจให้ประชาชนมีชีวิตที่มีคุณภาพอย่างมีศักดิ์ศรี

11 ก.พ.2565 - ที่พรรคไทยสร้างไทย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรค นายโภคิน พลกุล ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนประเทศ นายพงศกร อรรณนพพร ประธานคณะกรรมการบริหารพื้นที่ นายวัฒนา เมืองสุข ประธานคณะกรรมการด้านการเมืองและกฏหมาย นายประวัฒน์ อุตตะโมช รองประธานคณะกรรมการบริหารพื้นที่ ร่วมกันแถลงหลักแนวทางนโยบาย ดูแลประชาชนตั้งแต่เกิดจนแก่ ให้ได้มีชีวิตที่มีคุณภาพอย่างมีศักดิ์ศรี

ทารกตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา ต้องได้รับการดูแลอย่างดีที่สุดในระหว่างตั้งครรภ์จนคลอด เพื่อเป็นแรงจูงใจให้ประชาชนที่เป็นพ่อและแม่อยากมีลูก เพื่อเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ จากนั้นเด็กจะต้องได้รับการศึกษาอย่างดี และทุกคนต้องจบปริญญาตรี ซึ่งปัจจุบันระยะเวลาการศึกษาของเด็กไทยตั้งแต่อายุ 3-22 ปีต้องใช้เวลาถึง 19 ปี เป็นการสร้างภาระให้กับผู้ปกครองและเด็กเป็นอย่างมากกว่าจะเรียนจบปริญญาตรี ปัจุบันมีผู้กู้ยืมเงิน กยศ.มากถึง 5.4 ล้านคน เป็นหนี้กว่า 6 หมื่นล้านบาท พรรคไทยสร้างไทย จึงเห็นว่าหากมีการลดระยะเวลาการศึกษาลง 4 ปี จนจบปริญญาตรีในอายุไม่เกิน 18 ปี จะช่วยลดภาระให้กับผู้ปกครอง รวมถึงเด็กนักเรียนก็ไม่ต้องเป็นหนี้ กยศ. ทำให้พ่อแม่และเด็กไม่ต้องกังวลถึงคุณภาพชีวิตและอนาคตของบุตรหลาน

เมื่อเข้าสู่การทำงานทำมาหากินในด้านต่างๆ ประชาชนยังต้องเผชิญ กับอุปสรรคที่ยิ่งใหญ่อีกประการหนึ่งคือกฎหมายและกฎระเบียบที่ไม่จำเป็น ล้าหลังหลายกรณี เป็นการกฎหมายที่เอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มทุนใหญ่ กดทับประชาชนคนตัวเล็ก ประกอบกับแนวคิด “อำนาจนิยม” ผ่านกลไก“รัฐราชการ” ที่ ด้อยประสิทธิภาพ ล้าหลัง แทนที่จะส่งเสริมสนับสนุน กลับมาทำการควบคุม สร้างภาระให้กับประชาชนเป็นบ่อเกิดของการทุจริตคอรัปชั่นที่ยิ่งนับวันยิ่งกินลึกเข้าไปในโครงสร้างของสังคม

พรรคไทยสร้างไทย เห็นว่าการแก้ปัญหาดังกล่าว ถ้าจะใช้วิธีการปลดปล่อย โดยการพักใช้กฎหมายที่เป็นอุปสรรคในการทำมาหากิน ประมาณ 1,300 กว่าฉบับ เป็นเวลา 3 ปี เพื่อทำ Legal Sandbox คงเหลือกฎหมายที่จำเป็น ประมาณ 100-200 ฉบับ เพื่อให้ประชาชนทำมาหากินโดยไม่ต้องรอการอนุมัติ หรืออนุญาตที่ล่าช้าในเรื่องที่ไม่จำเป็น รวมถึงการปรับปรุงการให้บริการของระบบราชการ เพื่อเป็นหุ้นส่วนกับประชาชน ไม่ใช่เป็นนายเป็น ผู้กำหนดทุกอย่างเช่นที่เป็นอยู่

นอกจากนี้ จะต้องเสริมสร้างอำนาจให้ประชาชน โดยการรวมกลุ่ม ของผู้ประกอบการแต่ละด้านแต่ละระดับให้เกิด Economies of scale สร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนในการบริหารจัดการชุมชน การเข้าถึงแหล่งทุน และเสริมสภาพคล่องทางการเงิน เพื่อเสริมสร้างพลังแก่ ประชาชนคนตัวเล็ก ผ่านกองทุนเอสเอ็มอี กองทุนสตาร์ทอัพ กองทุนธุรกิจท่องเที่ยว กองทุนวิสาหกิจชุมชน และกองทุนเคดิตประชาชน (กองทุนคนตัวเล็ก) เพื่อเสริมสร้างกำลังผลิตและกำลังซื้อของประชาชน ในลักษณะที่ประชาชนเข้าถึงกองทุนดังกล่าวได้ง่าย ไม่ยุ่งยากซับซ้อน ดอกเบี้ยต่ำ เปิดโอกาสให้ ตัวแทนของกลุ่มผู้ผลิตและผู้ประกอบการเข้ามีส่วนร่วมในการอนุมัติสินเชื่อต่างๆ กองทุนเคดิตประชาชนจะช่วยให้ คนตัวเล็กมีเงินใช้จ่ายในยามฉุกเฉินไม่ต้องพึ่งการกู้นอกระบบที่ดอกเบี้ยแพงมหาโหด

เมื่อเข้าสู่วัยเกษียณ ก็จะได้รับนโยบายบำนาญประชาชนเดือนละ 3,000 บาท เพื่อเป็นการตอบแทนผู้สูงอายุที่ได้สร้างคุณูปการให้กับประเทศชาติมาทั้งชีวิต ให้สามารถอยู่ได้อย่างมีศักดิ์ศรี ลดภาระลูกหลานในวัยทำงานที่กำลังสร้างเนื้อสร้างตัว ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม แก้ปัญหาความยากจนเพื่อสร้างประเทศไทยที่ดีที่สุดแข็งแรงที่สุด ให้คนไทย หายจน หมดหนี้ มีรายได้ตลอดทั้งปี ตามหลักแนวนโยบายพรรคตั้งแต่เกิดจนแก่

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'อิ๊งค์' ยิ้มรับ 'พ่อ-เพื่อไทย' รอดล้มล้างปกครอง ชาวเน็ตชี้จากนี้ไป 'ทักษิณ' ใส่เกียร์เหลิง

จากกรณีตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีมติไม่รับไว้พิจารณาวินิจฉัย คำร้องที่นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ในฐานะประชาชน ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ

ระทึกสุดขีด! 22 พ.ย. ศาลรธน.ลงมติ 'รับ-ไม่รับ' คำร้อง 'ทักษิณ-เพื่อไทย' ล้มล้างการปกครอง

คอนเฟิร์ม ศุกร์นี้ 22 พ.ย. 9 ตุลาการศาลรธน.นัดประชุมวาระพิเศษ หลังงดมาสองรอบ เตรียมนำหนังสือ-ความเห็นอัยการสูงสุด กางบนโต๊ะประชุม ก่อนลุ้นโหวตลงมติ”รับ-ไม่รับคำร้อง”คดีทักษิณ-เพื่อไทย โดนร้องล้มล้างการปกครองฯ

'แพทองธาร' โชว์วิชั่น การเมืองมีเสถียรภาพ ประเทศไทยจะดีขึ้น!

นายกฯ โชว์วิชั่น Forbes ไทยสงบ สันติ หวังรัฐบาลเปลี่ยน นายกฯเปลี่ยน แต่นโยบายเพื่อปชช.เดินหน้า บอกต่างชาติเจอคำถามแรกถามพ่อ-อาเป็นอย่างไร ย้ำการเมืองมั่นคง มีเสถียรภาพแน่นอน

ไทยในสายตาต่างชาติ (ตอนที่ 48: พระราชกฤษฎีกา 1 เมษายน 2476 คือ การทำรัฐประหารเงียบหรือ ?)

ในตอนที่แล้ว ผู้เขียนได้สรุปเหตุการณ์สำคัญต่างๆที่เป็นเงื่อนไขที่นำมาสู่การประกาศพระราชกฤษฎีกาวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2476

รู้ไว้ซะ 'ปิยบุตร' เผย 'ทักษิณ' ได้กลับบ้าน เพราะก้าวไกลชนะเลือกตั้ง!

นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊กว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา มีเรื่องหนึ่งที่ถูกหยิบยกมาถกเถียงกันอีกครั้ง

ปากไว! นายกฯ อบรม 'พ่อนายกฯ' รอที่ประชุมเคาะก่อนไปพูดบนเวทีแจกเงินหมื่น

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขึ้นเวทีปราศัยหาเสียงเลือกตั้งท้องถิ่น มอง