“เรืองไกร” ร้อง กกต.ตรวจคำร้องสมาชิก พปชร.กว่า 100 คน ร้องมติขับ “ก๊วนธรรมนัส” เป็นสมาชิกพรรคจริงหรือไม่ ชี้ อาจผิด ม.101 พ.ร.ป.พรรคการเมือง
6 ก.พ. 2565 – นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า กรณีมีข่าวสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ จำนวนกว่า 100 คน ร้องกกต. ให้ตรวจสอบมติพรรคพลังประชารัฐที่ขับ ส.ส. 21 คน ดังปรากฏเป็นข่าวโดยทั่วไปนั้น โดยคำร้องดังกล่าวอ้าง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 42 ซึ่งวรรคหนึ่ง บัญญัติว่า ในกรณีสมาชิกซึ่งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรคนหนึ่งคนใด หรือสมาชิกจำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งร้อยคน เห็นว่ามติของพรรคการเมืองที่ตนเป็นสมาชิกอยู่ขัดต่อพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้หรือกฎหมายอื่น ให้มีสิทธิร้องขอต่อคณะกรรมการเพื่อพิจารณาวินิจฉัย
นายเรืองไกร กล่าวว่า คำว่า สมาชิกจำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งร้อยคน จึงเป็นเงื่อนไขในการใช้สิทธิ ดังนั้น เพื่อให้แน่ใจว่า การใช้สิทธิดังกล่าวเป็นไปตามกฎหมาย กกต. ประกอบกับระเบียบ กกต. กำหนดให้มีการตรวจมูลกรณี ดังนั้นกกต. จึงควรตรวจสอบก่อนว่า ผู้ร้องทุกคนยังเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐจริงหรือไม่ เลขที่ใด ประเภทใด ตั้งแต่เมื่อใด คำร้องดังกล่าวผู้ร้องทั้งหมดได้อ่านและลงนามโดยตนเอง หรือไม่ คำร้องดังกล่าวผู้ร้องทุกคนยืนยันรับรองคำร้องที่ลงนาม หรือไม่ คำร้องดังกล่าวผู้ใดเป็นผู้ทำขึ้น คำร้องดังกล่าวผู้ร้องทุกคนรู้อยู่ว่าเป็นความจริงไม่ใช่ความเท็จ หรือไม่ และหากคำร้องดังกล่าวเป็นความเท็จ จะเข้าข่ายเป็นความผิดตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 101 หรือไม่
นายเรืองไกร กล่าวว่า การใช้สิทธิของสมาชิกตามมาตรา 42 อาจมีโทษตามมาได้ ตามมาตรา 101 วรรคหนึ่ง ซึ่งบัญญัติว่า ผู้ใดแจ้งหรือกล่าวหาพรรคการเมืองหรือบุคคลใดว่ากระทำความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ต่อคณะกรรมการหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐโดยรู้อยู่ว่าเป็นความเท็จ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอน สิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้นั้น
“กรณีจึงมีเหตุที่ควรขอให้ กกต. ทำการตรวจมูลกรณีตามระเบียบ กกต. ด้วยการเชิญผู้ที่ลงนามทุกคนมาให้ถ้อยคำเพื่อยืนยันตนเองก่อนว่า ผู้ร้องทั้งหมดเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐจริงหรือไม่ ผู้ร้องทุกคนยืนยันรับรองว่าได้อ่านก่อนที่จะลงนาม หรือไม่ คำร้องดังกล่าวผู้ใดเป็นผู้ทำขึ้น คำร้องดังกล่าวผู้ร้องทุกคนรู้อยู่ว่าไม่ใช่ความเท็จ ใช่หรือไม่ และหากคำร้องดังกล่าวเป็นความเท็จ จะเข้าข่ายเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง 101 หรือไม่ ดังนั้น วันที่ 7 ก.พ. จะส่งหนังสือทางไปรษณีย์ EMS ไปถึง กกต. เพื่อขอให้ตรวจมูลกรณีตามคำร้องของสมาชิกกว่า 100 คน” นายเรืองไกร ระบุ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
พปชร.จี้รัฐบาลเคลียร์ให้ชัด เมียนมาไม่ปล่อย 4 ลูกเรือประมงไทยตามกำหนด
ที่รัฐสภา สส.พรรคพลังประชารัฐ นำโดย นายฉกาจ พัฒนกิจวิบูลย์ สส.พังงา และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ, นายชัย
จับตา! สรรพากร-สตง. สอบที่มาทรัพย์สิน 'นายกฯอิ๊งค์' รวยหมื่นล้าน
นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า นายกฯอุ๊งอิ๊ง ผวาที่มาทรัพย์สิน 1.3 หมื่นล้าน อาจถูกตรวจสอบที่มาของรายได้ และภาระภาษี 30%
ระทึก! หินยักษ์หนัก 10 ตัน ร่วงจากภูเขา ถล่มทับถนนหน้าวัดชุมพร
สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดชุมพร ได้รับแจ้งจากพระราชวิจิตรปฏิภาณ เจ้าคณะจังหวัดชุมพร เจ้าอาวาสวัดราชบูรณะ อ.หลังสวน จ.ชุมพร ว่า ได้มีก้อนหินขนาดใหญ่หล่นจากภูเขา
สั่ง สคบ. คุมเข้มกระเช้าปีใหม่ 'ตรงปก-สินค้าครบ-ราคาชัด'
'จิราพร' สั่ง สคบ. คุมเข้มกระเช้าของขวัญปีใหม่ ต้องตรงปกสินค้าครบราคาชัด ตัดตอนผู้ประกอบการเอาเปรียบผู้บริโภค
กกต.ฟันอาญา สส.พรรคส้ม ยื่นบัญชีใช้จ่ายเลือกตั้งไม่ตรงจริง
กกต.สั่งดำเนินคดีอาญา"ชวาล" สส.ปชน.ยื่นบัญชีค่าใช้จ่ายเลือกตั้งไม่ตรงความเป็นจริง โทษหนักทั้งจำคุก-ตัดสิทธิ 5 ปี
จี้รัฐบาลประท้วงกัมพูชา
"สนธิรัตน์" นำทีมพลังประชารัฐลงพื้นที่ตราด "ดร.ม.ล.กรกสิวัฒน์" ชี้อันตรายมาก แนวสันเขื่อนดินที่กัมพูชาสร้างต่อเติมออกไป หากไม่มีการประท้วงหรือไม่มีข้อคัดค้านใดๆ ก