สมชายแนะ 3 แนวทางนี้แก้ปัญหา 'สภาล่ม' ได้ชัวร์

6 ก.พ. 2565 นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) โพสต์ข้อความลงบนสื่อโซเชียล ระบุว่า #สภาล่มแก้ไม่ยาก

ปัญหาแบบนี้เคยเกิดขึ้นบ่อยหลายสมัยการประชุมสนช.และบางสมัยประชุมสภาอื่นก่อนหน้า

สมัยสนช. 2557 จึงดำเนินการแก้ไขปัญหานี้อย่างได้ผลไว้ 3 ประการดังนี้

1)กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ

:ให้สิ้นสุดสมาชิกภาพเมื่อไม่แสดงตนเพื่อลงมติในที่ประชุมเกินกว่าจำนวนที่กำหนดไว้ในข้อบังคับ

2)กำหนดไว้ในข้อบังคับ

:ให้สมาชิกที่ไม่แสดงตนเพื่อลงมติในที่ประชุมสภาเกินกว่าหนึ่งในสามของจำนวนครั้งที่แสดงตนเพื่อลงมติทั้งหมดในรอบระยะเวลาเก้าสิบวัน สิ้นสุดสมาชิกภาพตามรัฐธรรมนูญ

3)กำหนดไว้ในพระราชกฤษฎีกาเงินประจําตําแหน่งและประโยชน์ตอบแทนอื่น

: สมาชิกผู้ใดไม่มาประชุมเกินกึ่งหนึ่งของกําหนดนัดประชุมในแต่ละเดือน ไม่มีสิทธิได้รับเงินเพิ่มเป็นรายเดือนสําหรับเดือนนั้น

ได้ผลดีครับ !
ทั้งการแสดงตนเป็นองค์ประชุมและการลงมติครบถ้วน

ไม่มีปัญหาสภาล่มเหมือนสภาสนช.และในสภาอื่นบางสมัยในอดีตอีก

ตัวอย่างที่ยกมา มิได้หมายความว่าอยากจะให้มีสภาอื่นมาทำหน้าที่แทนตามที่ปล่อยข่าวลือมโนว่าได้กลิ่นโน่นนี่นั่นกันนะครับ

แม้อาจไม่ตรงกับรัฐธรรมนูญและข้อบังคับในปัจจุบัน

แต่ยังสามารถนำไปคิดปรับใช้พอให้เห็นเป็นทางออก

ให้สภาเป็นที่พึ่งที่หวังของประชาชนไทยได้ต่อไปไม่ให้เกิดวิกฤติการเมืองจนต้องมีใครมาล่มสภาอีกครับ

ปล.ขอดักคอพวกชอบป้ายสีโจมตีไว้ก่อนนะครับว่า
ที่เสนอมามิใช่ต้องการมาถกกัน
เรื่องปัญหาประชาธิปไตยหรือเผด็จการใครดีเลวกว่ากัน
หากแต่เป็นเรื่องสำนึกหน้าที่และการช่วยกันหาทาง
แก้ไขปัญหาสภาล่มให้บ้านเมืองมิให้เลยเถิดไปกว่านี้ครับ

สภาล่มvsถูกล่มสภาปัญหาไหนแก้ยากกว่ากัน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เปิดทรัพย์สิน อดีต สว. 'พล.อ.ปรีชา-วันชัย-สมชาย'

สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เปิดเผยบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของสมาชิกวุฒิสภา จำนวน 130 ราย ประกอบด้วย กรณีเข้ารับตำแหน่ง 60 ราย

จับตา! แก้ รธน.สุดซอย หวังเอื้อคนที่อาจโดนครอบงำพรรค กลับมาผงาดการเมือง

ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับสุดซอยของเพื่อไทย ที่ถูกสังคมสงสัยว่าแก้เพื่อใคร ซึ่งชัดเจนว่า มิใช่ประโยชน์ของระเทศชาติและประชาชน

รัฐบาล-ฝ่ายค้าน ยื่นแก้ไขรธน. ทำเพื่อตัวเอง ไม่ได้ทำเพื่อส่วนรวม

การแก้ไขรัฐธรรมนูญ กลับมาเป็นประเด็นร้อนทางการเมืองอีกครั้ง เมื่อพรรคการเมืองทั้งฝ่ายรัฐบาลคือ พรรคเพื่อไทย และฝ่ายค้านคือ พรรคประชาชน