อัยการสูงสุด ยื่นฟ้อง 3 อดีต ส.ส.ภูมิใจไทย เสียบบัตรแทนกันขณะพิจารณางบ

แฟ้มภาพ

3 ก.พ.2565 - ที่ศาลฎีกา แผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง (อม.) สนามหลวง อัยการสูงสุด (อสส.) ได้ยื่นฟ้องนายฉลอง เทอดวีระพงศ์, นายภูมิศิษฏ์ คงมี, นางนาที รัชกิจประการ อดีตส.ส. พรรคภูมิใจไทย เป็นจำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 ต่อศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตามคดีหมายเลขดำที่ อม. 7/2565

โดยกล่าวหาว่า จำเลยที่ 1 ได้รับเลือกตั้งเป็นส.ส. เขตเลือกตั้งที่ 2 จ.พัทลุง จำเลยที่ 2 ได้รับเลือกตั้งเป็นส.ส. เขตเลือกตั้งที่ 1 จ.พัทลุง จำเลยที่ 3 ได้รับเลือกตั้งเป็นส.ส. แบบบัญชีรายซื่อ ต่อมาในระหว่างการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 เมื่อวันที่ 10 ม.ค. 2563 เวลา 19.30 น. ถึงวันที่ 11 ม.ค. 2563 เวลาประมาณ 17.38 น. จำเลยที่ 1 ไม่อยู่ในที่ประชุม เมื่อวันที่ 10 ม.ค. 2563 เวลา 19.30 น. ถึงวันที่ 11 ม.ค. 2563 เวลาประมาณ 11.10 น. จำเลยที่ 2 ไม่อยู่ในที่ประชุม เมื่อวันที่ 11 ม.ค. 2563 เวลา 14.28 น. ถึงเวลา 15.46 น. จำเลยที่ 3 ไม่อยู่ในที่ประชุม แต่จำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 ร่วมกับผู้อื่นหรือยินยอมให้ผู้อื่น ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของจำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 แสดงตนและลงมติเรียงตามรายมาตรา เป็นเหตุให้ร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว วาระที่สองและที่สาม ตราขึ้นโดยไม่ถูกต้องตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ อันเป็นการปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ราชการและประชาชน หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ขอให้ลงโทษตามพ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 4, 172

โดยวันนี้ จำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 มาศาล และได้รับอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว ศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดฟังคำสั่งว่าจะประทับรับฟ้องหรือไม่ และนัดพิจารณาครั้งแรกในวันที่ 19 พ.ค. 2565 เวลา 9.30 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ทั้งสามคน ได้ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ยื่นฟ้อง หมายเลขคดีดำที่ คมจ. 3/2564 ในข้อกล่าวหาฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรง จากการเสียบบัตรแทนกันในการลงมติร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ พ.ศ. 2563 เช่นเดียวกัน โดยในคดีดังกล่าว ศาลฎีกา อม. นัดตรวจพยานหลักฐานคดี ในวันที่ 10 มี.ค. 2565 เวลา 10.00 น.