
29 เม.ย. 2568- นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะรองหัวหน้าพรรคฝ่ายเศรษฐกิจ พปชร. แถลงถึงกรณีรัฐมนตรีคลังเตรียมกู้เงิน 5 แสนล้าน ซึ่งอ้างว่าเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจฝ่าวิกฤตภาษีสหรัฐ ภายหลังจากกองทุนการเงินฯ (IMF) หั่นจีดีพีไทยของปี 2567 จากเดิม 2.9% เหลือ 1.8% และของปี 2568 จากเดิม 2.6% เหลือ 1.6%
โดยหากรัฐบาลเลือกที่จะกู้เงิน 5 แสนล้านบาท ก็จะทำให้หนี้สาธารณะจากปัจจุบัน 64.21% ของจีดีพี เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 3% นั้น นายธีระชัยเตือนว่า หนี้ที่รัฐบาลกู้ 10.69 ล้านล้านบาท หารด้วยจำนวนคนไทย 66 ล้านคนนั้น เป็นภาระต่อคนกว่า 160,000 บาทอยู่แล้ว จึงขอให้ประชาชนคัดค้านการก่อหนี้เพิ่มถ้าหากไม่สร้างประโยชน์อย่างแท้จริง โดยแนะนำให้ประชาชนจับตารัฐบาลใน 5 เรื่อง
- รัฐบาลควรลดการกู้เพื่อแจกอุดหนุนอุปโภคบริโภค เพราะถึงแม้จะทำให้จีดีพีสูงขึ้นบ้าง แต่เป็นเพียงชั่วคราว การใช้กระสุนแบบนี้ไม่เพิ่มประสิทธิภาพของประเทศ จึงจะไม่ช่วยเพิ่มรายได้อนาคตที่จะเอามาใช้คืนหนี้ ดังเห็นได้ว่าโครงการแจกเงินหมื่นที่ใช้งบประมาณไปแล้วถึง 1.75 แสนล้านบาท ก็ได้ผลในการกระตุ้นเศรษฐกิจน้อยมาก และไม่เกิดแรงส่งที่ยั่งยืน
- เงินที่จะใช้กระตุ้นเศรษฐกิจจะต้องเกลี่ยจากงบประมาณให้เต็มที่ก่อน โดยรัฐบาลจะต้องเด็ดขาดในการตัดลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นหรือไม่เร่งด่วน จะต้องแสดงผลงานด้านนี้ให้ประชาชนเห็นก่อน
- สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟต์โลน) เป็นเรื่องปลายทาง แต่กระทรวงการคลังควรเร่งหารือกับแบงค์ชาติในเรื่องต้นทาง 4 เรื่องก่อน คือ
(ก) ด้านผ่อนคลายนโยบายการเงิน
(ข) ด้านเพิ่มการแข่งขันในระบบสถาบันการเงิน
(ค) ด้านการปรับโครงสร้างหนี้ที่จริงจังโดยให้สถาบันการเงินต้องควักกำไรสะสมเข้ามารับภาระมากขึ้น และ
(ง) ด้านการบีบลดกำไรส่วนต่างดอกเบี้ยของสถาบันการเงิน
- รัฐบาลควรประกาศยกเลิกการแจกเงินหมื่นเฟส 3 ทันที เพราะสถานการณ์โลกข้างหน้ามีหลายความเสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวัง จึงควรเก็บกระสุนการคลังเอาไว้เพื่อใช้ยามจำเป็น
- รัฐบาลควรปรับโครงสร้างเศรษฐกิจให้มีศักยภาพสูงขึ้น ทั้งด้านการศึกษาของเยาวชน การช่วยให้ผู้ใหญ่ใช้ปัญญาประดิษฐ์ การเพิ่มทักษะของแรงงาน และการจับมือกับประเทศภูมิภาคเพื่อเร่งการค้าและการลงทุนระหว่างกัน
“ประชาชนควรจับตาว่า ท่ามกลางวิกฤตภาษีสหรัฐ รัฐบาลนี้จะพยายามขายฝัน ’เปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาส‘ แต่แทนที่จะเป็นโอกาสสำหรับพี่น้องไทยกลับจะเป็นโอกาสเพื่อนายทุนพรรคมากกว่าหรือไม่” นายธีระชัยกล่าว.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ฮือฮา! 'เรืองไกร' ลงสนาม กทม. ชิงเก้าอี้เขต 4
พปชร. เคาะ 30 ผู้สมัคร กทม. 'ผู้กองมาร์ค' มั่นใจคว้าเก้าอี้ สส. ไม่น้อยกว่า 10 ที่นั่ง 'ฮือฮา 'เรืองไกร' ลงชิงเก้าอี้เขต 4
'บิ๊กป้อม' ลั่นพอแล้ว! เปิดบ้านป่ารอยต่อฯ อวยพรปีใหม่
'บิ๊กป้อม' เปิดมูลนิธิป่ารอยต่อฯ อวยพรปีใหม่ ลั่นอายุ 80 ปี พอแล้ว ท่ามกลางปัญหาสุขภาพรุมเร้า ถอนตัวแคนดิเดตนายกฯ เตรียมวางมือการเมือง ขณะที่อดีตบิ๊กทหารตบเท้าร่วมรับพร
ข่าวดี!‘ธอส.’มอบของขวัญปีใหม่ลูกค้าผ่อนดี ได้รับเงิน1,000บาท
ข่าวดี! ‘ธอส.’ มอบของขวัญปีใหม่ตอบแทนลูกค้าสถานะบัญชีปกติที่มีวงเงินกู้ไม่เกิน 2 ล้านบาท และมีประวัติผ่อนชำระดีย้อนหลัง 48 งวด ได้รับเงิน 1,000 บาท นัดโอนรอบแรก ม.ค. 2569
'สามารถ' ยัน พปชร. ไม่ระส่ำ 'บิ๊กป้อม' ยังเป็นผู้นำพรรคสู้ศึกเลือกตั้ง
นายสามารถ แก้วมีชัย กรรมการบริหารพรรค พปชร.และว่าที่ผู้สมัครสส.เชียงราย ให้สัมภาษณ์กรณีพรรค พปชร. ถูกจับตามองเกิดความสั่นคลอนและจะล่มสลาย หากพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพปชร.วางมือทางการเมืองว่า
ห่วงยุบสภาทำราชการเกียร์ว่างมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอืด
ส.อ.ท.ลั่นไม่แปลกใจที่ “อนุทิน”ยุบสภาฯ แต่ห่วงข้าราชการปล่อยเกียร์ว่าง นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจอืด หวังปลัดทุกกระทรวงจะเดินหน้าขับเคลื่อนงานที่ค้างคา เร่งแก้3ปัญหาใหญ่งเยียวยาน้ำท่วมใต้ ปัญหาชายแดน และการเจรจากับสหรัฐฯ
‘สุรเดช’ รับคำสั่ง ‘ลุงป้อม’ คุมภาคเหนือ ลั่นสู้ศึกเลือกตั้งด้วยผู้สมัครเกรด A
นายสุรเดช ยะสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังได้รับมอบหมายให้ดูแลพื้นที่ภาคเหนือว่า ตนได้รับมอบหมายจากพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ให้ดูแล

