
‘ณัฐพงษ์’ ย้ำชัดเลือกตั้งสมัยหน้า หาก ‘พท.’ ยอมรับว่าทำผิดกับ ปชช. ก็อาจจับมือด้วย ออกตัวไม่ขอตั้งเงื่อนไขล่วงหน้า เหตุสถานการณ์เปลี่ยนได้ตลอด
27 เม.ย.2568 – ที่ The Idle Hotel & Residence ภายหลังการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2568 ของพรรคประชาชน นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน พร้อมด้วย นายศรายุทธิ์ ใจหลัก เลขาธิการพรรค และ นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรค ร่วมกันแถลงข่าวมติที่ประชุม
โดยนายศรายุทธิ์ ระบุว่า ในวาระการประชุม มีการปรับปรุงข้อบังคับพรรคให้การทำงานของพรรคสะดวกมากขึ้น รายงานผลการดำเนินงาน 1 ปี ที่ผ่านมา และเรื่องงบการเงินของพรรค รวมถึงการเตรียมความพร้อมถึงการเลือกตั้งในอนาคต ก่อนการประชุมครั้งนี้ได้มีการจัดสัมมนาระหว่างวันที่ 25 – 26 เมษายนที่ผ่านมา ในหัวข้อการสร้างพรรคมวลชนที่เข้มแข็ง ไปวางเป้าหมายให้มีจำนวนสมาชิกเพิ่มขึ้น เพิ่มการมีส่วนร่วมของสมาชิก และการทำให้กลไกโครงสร้างอำนาจภายในพรรคยึดโยงกับสมาชิกพรรคมากขึ้น รวมถึงเรื่องการเงินของพรรคที่จะต้องการเงินของพรรคมาจากประชาชนเป็นส่วนใหญ่ เป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้พรรคการเมืองเข้มแข็ง
“สำหรับการเตรียมความพร้อมเลือกตั้ง แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือนโยบาย ที่จะต้องสร้างขึ้นให้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชน ในปี 2570 และการเตรียมผู้สมัครซึ่งเรามีกระบวนการให้ผู้ประสงค์จะลงเลือกตั้งสามารถเข้ารับการคัดสรรได้ ซึ่งได้มีการเปิดการอบรมนักการเมืองของพรรคไปแล้วช่วงต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา และยังคงเปิดต่อไปจนถึง 13 มิถุนายน เพราะยังมีความต้องการผู้ประสงค์จะลงเลือกตั้ง และทำงานการเมืองร่วมกับเรา ไม่สามารถเข้ามาได้อีกมาก” นายศรายุทธิ์ ระบุ
นายศรายุทธิ์ ระบุว่า ด้านนโยบายเองก็เพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น เรายังขาดนโยบายอีกมากที่จะตอบสนองต่อพี่น้องประชาชนทั้งในระดับภูมิภาคและระดับประเทศ จึงยังต้องการพี่น้องประชาชนจำนวนมากที่ประสงค์จะมีส่วนร่วมจัดทำนโยบายร่วมกับเรา จึงขอเชิญชวนทุกท่านที่อยากเห็นความเปลี่ยนแปลง
นายณัฐพงษ์ เสริมว่า เรื่องที่เราสื่อสารมาตลอด 3 วันนี้ต่อองคาพยพต่างๆ ของพรรค เน้นย้ำว่าในการเลือกตั้งครั้งหน้าหากเรามองโจทย์ของประเทศ คงไม่ได้หมายถึงว่าเราต้องการชนะการเลือกตั้งอย่างเดียว แต่เราต้องการสร้างรัฐบาลที่ดีที่สุด ตามที่ได้ประกาศไว้ตั้งแต่วันก่อตั้งพรรคประชาชน หากดูจากสถานการณ์ทั้งภายในและภายนอกประเทศ มีการทุจริตคอรัปชั่น มีรัฐบาลที่บริหารราชการแผ่นดินล้มเหลว ทางออกสำหรับประเทศของพวกเราคือการเสนอรัฐบาลที่ดีที่สุด และสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน
นายณัฐพงษ์ ระบุว่า ในอดีตพรรคอนาคตใหม่เคยเป็นความหวังให้กับประชาชน เราชนะการเลือกตั้ง แต่โจทย์ต่อไปหากมองย้อนกลับมาที่พรรคประชาชนเอง ภายในพรรคเองก็ต้องมีการทำงานกับประชาชนอย่างเข้มข้น รวมถึงเตรียมนำเสนอนโยบายในอนาคต ประกอบด้วย 3 เสา คือการเมือง ปฏิรูประบบราชการ และเศรษฐกิจ ส่วนตัวมองว่าประชาชนเห็นความชัดเจนของพรรคมาโดยตลอด
“สิ่งสุดท้ายที่เชื่อว่าจะเป็นความหวังให้กับประชาชนได้คือนโยบายเศรษฐกิจ ซึ่งเคยเป็นจุดแข็งของพรรคเพื่อไทย แต่ก็พิสูจน์แล้วว่าไม่สามารถสร้างทางออกให้กับประชาชนได้ ดังนั้น ก็พร้อมที่จะเสนอตัวอาสามาทำงานในจุดนี้ และเตรียมสื่อสารนโยบายด้านเศรษฐกิจต่อประชาชนต่อไป” นายณัฐพงษ์ กล่าว
สำหรับข้อสังเกตว่า คะแนนจากการเลือกตั้งของอดีตพรรคก้าวไกลเมื่อการเลือกตั้งคราวที่แล้ว อาจเป็นคะแนนจากกลุ่มประชาชนที่ ‘เบื่อลุง’ นายณัฐพงษ์ ระบุว่า ไม่ว่าจะเป็นคนที่เบื่อลุงหรือคนที่ยึดมั่นในหลักการประชาธิปไตย หรือคนที่อยากเห็นการเมืองโปร่งใสปราศจากการทุจริตคอรัปชัน เชื่อว่าตอนนี้เห็นอยู่แล้วว่ารัฐบาลที่มัดรวมจัดตั้งรัฐบาลด้วยดีลแลกประเทศแบบนี้ ไม่ใช่ทางออก ทางออกของประชาชนทุกกลุ่ม คือนโยบายเศรษฐกิจที่แก้ไขปัญหาปากท้อง ปราศจากการทุจริตคอรัปชัน เชื่อว่าประชาชนไม่ว่าจะเป็นกลุ่มไหนในอดีต ล้วนต้องการนโยบายแบบนี้ ซึ่งทุกอย่างพรรคประชาชนพร้อมผลักดันและเสนอเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดให้กับประชาชน
เมื่อถาม การประเมินการเลือกตั้งครั้งหน้าอาจมีคนที่ลงคะแนนงดออกเสียงมากขึ้น นายณัฐพงษ์ระบุว่า หากสื่อสารทางความคิดรณรงค์กับประชาชนได้ดีเพียงพอ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจนถึงการเลือกตั้งครั้งหน้าในทุกนโยบายที่ได้บอกไป เชื่อว่าประชาชนก็ยังมีความหวังอยู่ สามารถเชื่อมั่นฝากความหวังไว้กับพวกเราได้จากการทำหน้าที่ สส. และตัวแทนของพรรค
เมื่อถามว่า บางกลุ่มคาดหมายว่าในการเลือกตั้งรอบหน้าพรรคสีแดงก็จะมาจับมือกับพรรคสีส้ม นายณัฐพงษ์ย้ำว่า ได้พูดไว้ชัดเจนแล้วว่า การจัดตั้งรัฐบาลแบบที่เป็นอยู่ พรรคประชาชนไม่สามารถเข้าร่วมได้ เพราะไม่ได้นำประชาชนมาเป็นศูนย์กลางในสมการการตัดสินใจ และไม่สามารถแก้ไขปัญหาใดๆ ได้เลย ทั้งนโยบายเรื่องปฏิรูปกองทัพ ทลายทุนผูกขาด และอีกหลายเรื่อง ตราบใดที่ประชาชนถูกถอดออกจากสมการการตัดสินใจของผู้มีอำนาจ ปัญหาเชิงโครงสร้างทุกเรื่องก็ไม่สามารถแก้ไขได้
เมื่อถามย้ำว่าในการเลือกตั้งรอบหน้าจะไม่รวมกับพรรคเพื่อไทยใช่หรือไม่ นายณัฐพงษ์ ตอบว่า สิ่งที่เราสื่อสารมาโดยตลอด ว่าถ้าพรรคเพื่อไทยจะสามารถรวมกับพวกเราได้ ก็อาจจะต้องมีเงื่อนไขบางอย่าง
“ยกตัวอย่างว่า อาจจะต้องมีการสื่อสารว่าการกระทำที่ผ่านมา เขาทำผิดต่อประชาชนจริงๆ และมีการสื่อสารเรื่องนี้อย่างชัดเจน ไม่อยากให้มองว่าเงื่อนไขการจับกับไม่จับมือกับพรรคใด เป็นเงื่อนไขที่พรรคประชาชนตั้งขึ้นมาเองแต่เพียงฝ่ายเดียวเท่านั้น จริงๆ พรรคอื่นๆ ฝั่งอื่นๆ ก็ตั้งเงื่อนไขกับเราเช่นเดียวกัน” หัวหน้าพรรคประชาชน ระบุ
นายณัฐพงษ์ กล่าวต่อไปว่า ดังนั้น สิ่งที่พรรคประชาชนให้ความสำคัญในตอนนี้ ก็คือการทำงานทางความคิด หาทางออกให้กับประชาชนเป็นหลัก สุดท้ายจะส่งผลต่อการตัดสินใจลงคะแนนเลือกตั้งในอนาคต ส่วนผลออกมาเป็นอย่างไรจะจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่อย่างไร ยืนยันว่าจุดยืนของพรรคประชาชนคือ เราเสนอกับพี่น้องประชาชนว่าอย่างไรก่อนเลือกตั้ง หลังเลือกตั้งเราก็จะยืนยันแบบเดิม ไม่กลับไปกลับมา ว่าหาเสียงไว้แบบหนึ่งทำแบบหนึ่งแน่นอน
เมื่อถามว่า หมายถึงพรรคประชาชนไม่ได้ปิดประตูตายในการจับมือกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ ใช่หรือไม่ หากต่างฝ่ายต่างมีเงื่อนไขในการจัดตั้งรัฐบาลร่วมกัน นายณัฐพงษ์ ตอบว่า เป้าหมายที่เราต้องการไม่ใช่แค่ชนะการเลือกตั้ง แต่คือหาทางออกให้กับประเทศ หากวันนี้ตนเองในฐานะหัวหน้าพรรคประชาชนสื่อสารไปแล้วว่ามีเงื่อนไขใดที่ทำให้จัดตั้งรัฐบาลกับพรรคใดไม่ได้ ซึ่งสถานการณ์มีการเปลี่ยนแปลงตลอด อย่างเรื่องของกำแพงภาษีสหรัฐก็เพิ่งเกิดขึ้นสดๆ ร้อนๆ
“เมื่อถึงเวลาที่เงื่อนไขของโลกเปลี่ยน แต่เงื่อนไขที่ผมตั้งไว้ล่วงหน้า อาจจะยังถูกตั้งคำถามได้ในอนาคต อาจจะกลายเป็นว่าอาจเป็นการปิดประตูให้กับประเทศหรือเปล่า ดังนั้น สิ่งที่เราสื่อสารมาตลอดว่า เราต้องการหาทางออกให้กับประเทศ เงื่อนไขในการจับหรือไม่จับมือกับพรรคใด ควรจะต้องไปหารือในช่วงใกล้ๆ การเลือกตั้ง แล้วก็อาจจะไม่ยุติธรรมที่จะมาถามพรรคประชาชนฝ่ายเดียว จริงๆ คนที่ตั้งเงื่อนไขกับพวกเราก็อาจจะเป็นพรรคอื่นๆ ด้วย จึงอยากให้ตั้งคำถามกับพวกเขาด้วยเช่นเดียวกัน” หัวหน้าพรรคประชาชน ระบุ
นายณัฐพงษ์ ระบุว่า ส่วนจะสามารถจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้ในสมัยหน้าหรือไม่นั้น ก็อยู่ที่ความไว้วางใจของประชาชน ซึ่งสะท้อนผ่านการทำงานของพวกเราด้วย วันนี้ในการประชุมใหญ่เราได้มีการพูดคุยกันหลายเรื่อง ทั้งการปรับข้อบังคับพรรค การควบคุมวินัย ทำอย่างไรให้ประชาชนเห็นว่าสามารถฝากผีฝากไข้ ฝากความมั่นใจกับตัวแทนของพรรคประชาชนได้ เรามีข้อเสนอนโยบายด้านเศรษฐกิจที่สามารถแก้ปัญหาปากท้องให้กับพี่น้องประชาชน เชื่อว่าถ้าเราทำงานอย่างดีเพียงพอแก้ไขปัญหาที่ผ่านมาในพรรค จะสะท้อนถึงคะแนนที่จะได้รับในอนาคต และหากคะแนนถึงในการเลือกตั้งเราก็สามารถจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้
เมื่อถามถึง คดี 44 สส. อดีตพรรคก้าวไกล นั้น นายณัฐพงษ์ระบุว่า ทีมกฎหมายทำงานกันอย่างเต็มที่ สส.แต่ละคนที่ถูกดำเนินคดีก็มีทีมกฎหมายเฉพาะแต่ละบุคคล และคดีก็ไม่ได้ส่งผลกระทบถึงสมาธิในการทำงาน ยังคงตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ โดยไม่ได้ประมาท.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เพื่อไทยเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร คนรุ่นใหม่เพียบ ดึงคนใกล้ชิดมดดำ เสริมทีมเลือกตั้ง
เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครพรรคเพื่อไทย คนรุ่นใหม่เพี๊ยบ น้องชาย-คนสนิท มดดำ / มดเล็ก-รวีภัทร์ อดีต สส.กอล์ฟ กาญจนบุรี จั๋ง พงศ์ศรัณย์ อดีตรองเลขาธิการนายกฯ
พท. ตีปี๊บ! 'ยศชนัน' เรตติ้งพุ่ง นำทัพ กทม. สมัคร 27 ธ.ค.
'ประเสริฐ' เชื่อ 'ยศชนัน' ดึงคะแนนคนที่ยังไม่ตัดสินใจเลือกใครได้ เตรียมเปิดตัว สส. ทั้ง 500 คน 25 ธ.ค. เคลียร์ปม 'จาตุรนต์' ลาออกปธ.ยุทธศาสตร์
ธกส. ช่วยคนชายแดน ยกหนี้กรณีเสียชีวิต ให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ
ธกส. ออกมาตรการช่วยลูกค้าได้รับผลกระทบชายแดนไทย-กัมพูชา ยกหนี้กรณีลูกหนี้เสียชีวิตหรือสาบสูญ พร้อมปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ วงเงิน 2 หมื่นบาท
เริ่มแล้ววันนี้! รัฐบาล ชวนฝากบ้านกับตำรวจ 4.0 อุ่นใจเดินทางไกลปีใหม่ 2569
สำนักงานตำรวจแห่งชาติเดินหน้าโครงการ ตำรวจร่วมใจ ยกระดับความปลอดภัยบ้านประชาชนช่วงเทศกาลสำคัญ (ฝากบ้าน 4.0)
ดักคอ 'เพื่อไทย' ปั่นกระแส 'ดร.เชน' หวังสกัดเลือดไหล เชื่อไร้ผลก่อนวันสมัครเลือกตั้งไปอีก
เทพไท ชี้การปั่นกระแสของดร.ยศชนัน ว่าเป็นคนรุ่นใหม่ มีเสียงตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี ก็เพื่อต้องการที่หยุดกระแสเลือดไหลออกจากพรรคเพื่อไทย
เพื่อไทยโวปักธง‘สุพรรณบุรี’
"ยศชนัน" นำทัพเพื่อไทยประเดิมหาเสียง "อยุธยา-สุพรรณฯ" ประกาศปักธงไม่สนบ้านใหญ่

