สนามเลือกตั้งซ่อม สส.นครศรีธรรมราช เขต 8 คึกคัก! “ภูมิใจไทย” วางหมากส่ง “ไสว เลื่องสีนิล” ปะทะ “บิ๊กโอ” แห่งพรรคกล้าธรรม “ธรรมนัส-นฤมล” นำทีมปราศรัยแน่นเวที ประกาศปักธงภาคใต้ ด้าน “นายกฯ น้ำ” ขอโอกาสเจาะใจคนใต้ด้วยผลงานจริง
25 เมษายน 2568 - ศึกเลือกตั้งซ่อม สส.นครศรีธรรมราช เขต 8 เริ่มร้อนระอุ เมื่อพรรคใหญ่สองขั้วอย่าง พรรคภูมิใจไทย และ พรรคกล้าธรรม เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ชนกันเต็มรูปแบบช่วงโค้งสุดท้าย ก่อนถึงวันลงคะแนน 27 เม.ย. นี้
น.ส.วาริน ชินวงศ์ ผู้ช่วยหาเสียงของ นายไสว เลื่องสีนิล ผู้สมัครจากพรรคภูมิใจไทย หมายเลข 1 เปิดเผยว่า นายไสวคือ “ของจริง” ด้านเกษตร เป็นเกษตรกรที่คลุกคลีกับพื้นที่กว่า 30 ปี เชื่อว่าจะเป็นตัวแทนเสียงเกษตรกรได้ตรงจุด โดยชูจุดแข็งด้านภูมิปัญญาเกษตรและความรู้ในพื้นที่ภาคใต้
เธอระบุว่า “ผลเลือกตั้งครั้งนี้สะท้อนทั้งคะแนนนิยมระดับประเทศ และบทพิสูจน์ว่าใครเข้าใจหัวใจคนใต้” พร้อมชี้ว่า คนใต้สมัยนี้ใช้ “เหตุผล” มากกว่า “อารมณ์” ในการเลือกผู้แทน
สำหรับข้อครหาที่พรรคส่งสามีลงแทนภรรยา เธอชี้ว่าไม่ใช่ประเด็นหลัก สิ่งสำคัญคือตัวผู้สมัครต้องมีศักยภาพจริง ซึ่งนายไสวเป็นเกษตรกรโดยสายเลือดและเข้าใจประชาชนระดับรากหญ้าอย่างแท้จริง
ขณะเดียวกัน เวทีหาเสียงของ พรรคกล้าธรรม ที่จัดขึ้นที่ ต.ละอาย อ.ฉวาง ได้รับความสนใจอย่างคึกคัก โดยมีแกนนำพรรค อาทิ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรค, นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค, และ นายไผ่ ลิกค์ เลขาธิการพรรค ร่วมขึ้นเวทีช่วยหาเสียงให้กับ นายก้องเกียรติ เกตุสมบัติ (บิ๊กโอ) ผู้สมัคร สส. หมายเลข 5
นายไผ่ ลิกค์ ระบุชัดว่า “เวทีนี้ไม่ใช่สนามของคนสอบตก แต่คือเวทีของคนบ้านฉวางที่พร้อมรับใช้บ้านเกิด” พร้อมเดิมพันว่า หากนายก้องเกียรติชนะแล้วไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้จริง พรรคกล้าธรรมจะไม่กลับมาเหยียบพื้นที่นี้อีก
ด้าน นายอรรถกร ศิริลัทยากร สส.ฉะเชิงเทรา กล่าวถึง “บิ๊กโอ” ว่าเป็นคนหนุ่มที่เคยตั้งใจลงสมัครตั้งแต่ปี 66 แต่ถอยเพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งในพื้นที่ จนทำให้ อ.ฉวาง “เสียโอกาสใช้คนรุ่นใหม่” ไปถึงสองปี
ส่วน นางนฤมล ประกาศหนักแน่นว่า ไม่ได้หวังตำแหน่งรัฐมนตรีเพิ่มจากการเลือกตั้งครั้งนี้ แต่ต้องการ สส.เพื่อเข้าไปรับใช้ประชาชนในพื้นที่ พร้อมย้ำว่า “พรรคกล้าธรรมไม่ได้พูดเยอะ แต่ทำจริง”
ขณะที่ นายก้องเกียรติ กล่าวว่าพื้นที่เขต 8 โดยเฉพาะ อ.ฉวาง ยังขาดการพัฒนา เทียบกับพื้นที่อื่นในประเทศ ตนจึงขอคะแนนเสียงให้ชนะขาด เพื่อเข้าทำงานอย่างเต็มที่
ปิดท้ายเวทีด้วยปราศรัยของ ร.อ.ธรรมนัส ที่กล่าวว่า “อย่าเลือกคนที่พูดจาไพเราะแต่ทำอะไรไม่ได้” พร้อมย้ำว่า พรรคกล้าธรรมถูกมองว่าเป็นพรรคนักเลง เพราะพูดน้อยแต่กล้าทำ และถ้าประชาชนต้องการพัฒนา ต้องเลือก “คนกล้า” อย่างก้องเกียรติ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘ขิง-ศุภมาศ’ นำทีม ภท. สมัคร สส.กทม. 33 เขต ลั่นพร้อมแบกรับภาระคนกรุง
“เอกนัฏ-ศุภมาศ” นำทัพผู้สมัคร สส.กทม. พรรคภูมิใจไทย ยื่นใบสมัครเป็นพรรคแรก มั่นใจตัวผู้สมัครและนโยบายช่วยแบ่งเบาภาระคนกรุงเทพฯ ด้านศุภมาศย้ำมีเป้า สส. แต่ขอเวลาให้ผู้สมัครลงพื้นที่ก่อน พร้อมยืนยันจะได้เห็น “เอกนิติ-ศุภจี” ช่วยหาเสียงแน่
'อนุดิษฐ์' นำทัพ 'กล้าธรรม' ขึ้นรถสไลด์ เข้าสมัคร สส.กทม. 33 เขต
น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ประธานยุทธศาสตร์พรรคกล้าธรรม ได้นำว่าที่ผู้สมัคร สส.กทม.ทั้ง 3
'อนุทิน' แจงเหตุไม่ร่วมดีเบต เป็นสไตล์ส่วนตัวไม่ชอบตอบโต้ ขอเอาเรื่องอธิปไตยให้จบก่อน
"อนุทิน" แจงเหตุไม่ร่วมดีเบต ภารกิจแน่น มองเรื่องความมั่นคงสำคัญกว่า เอาเรื่องอธิปไตยก่อน ยอมรับพูดไม่เก่ง ไม่ชอบตอบโต้ พยายามหลีกเลี่ยงทะเลาะกัน เผยจุดอ่อนให้พูด 3 ชั่วโมง ทำได้ แต่ให้พูด 2 นาที ทำไม่ได้
'เท้ง' โวย 'อนุทิน' สร้างวาทกรรม ปชน. แก้ ม.112 ทั้งที่พูดเรื่องนิรโทษกรรมคดีหมิ่นสถาบัน
นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวตอบโต้นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ว่า ต้องบอกว่าการยกมือในวันนั้น ไม่ใช่การเห็นด้วยกับการแก้ไขมาตรา 112 แต่เป็นการผลักดันเรื่องนิรโทษกรรมของนักโทษที่โดนคดีทางการเมือง
กังขา 'ปชน.' ไม่จับมือ 'กธ.' แต่จับมือ 'พท.' แม้ 'ทักษิณ-ประเสริฐ' แนบแน่น 'เบน สมิธ'
นายไทกร พลสุวรรณ แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน โพสต์ข้อความผ่าน เฟซบุ๊กระบุว่า พรรคประชาชนไม่จับมือตั้งรัฐบาลกับพรรคกล้าธรรม เพราะ ธรรมนัส สนิทกับ เบนสมิธ
โฆษกรัฐบาล ยัน 'ศุภจี' ไม่ขาดคุณสมบัติ ไม่ไปเลือกตั้งท้องถิ่นจริง แต่ทำหนังสือแจ้งเหตุแล้ว
"สิริพงศ์" ระบุ "ศุภจี" มีเหตุไม่ไปเลือกตั้งท้องถิ่นจริง แต่แจ้งเหตุแล้ว ยันไม่ขาดคุณสมบัติดำรงตำแหน่งการเมือง วอนอย่าสร้างความสับสน ให้คนทำงานเสียกำลังใจ

