'เท้ง' บอกไม่น่าเป็นไปได้อยู่แล้ว 'ปชน.' เข้าร่วม 'รัฐบาล' ในสมัยนี้ ชี้มีความเป็นไปได้ 'พท.' ผลัก 'ภท.' ออกพรรคร่วม เหตุ 'ฝ่ายค้าน' ยังมีคดี 44 สส.อยู่อาจทำตัวเลขสมการการเมืองเปลี่ยนได้
23 เม.ย. 2568 - นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคประชาชน แสดงความเห็นถึงกระแสข่าวรัฐบาลจะผลักพรรคภูมิใจไทยออก แล้วเอาพรรคพลังประชารัฐเข้าไปแทน ว่า เป็นสิ่งที่พรรคเพื่อไทยเองต้องตัดสินใจ หากจะมองต่อไป ในเรื่องสมการ และตัวเลขทางการเมือง หรือ จำนวน สส.ของฝ่ายค้าน ก็ยังมีส่วนของคดี 44 สส. ที่อาจจะส่งผลกระทบต่อ 25 สส.ของพรรคประชาชนที่อยู่ในสภาฯ ด้วย และตัวแปรนี้ ก็อาจส่งผลกระทบทางการเมือง
นายณัฐพงษ์ ระบุว่า เราคงตอบแทนรัฐบาลไม่ได้ แต่สิ่งที่เราทำได้อย่างเต็มที่ คือการเตรียมตัวในการต่อสู้คดี และผลักดันนโยบาย ส่วนรัฐบาลจะเอาอย่างไร ก็อยู่ที่ตัวนายกรัฐมนตรีเอง แต่สิ่งสำคัญที่สุดที่ประชาชนอยากเห็น คือเสถียรภาพของรัฐบาล ในการเดินหน้าแก้ปัญหาของประเทศ ซึ่งนายกรัฐมนตรีควรให้ความชัดเจนได้มากกว่านี้
เมื่อถามถึงความเป็นไปได้ ที่พรรคเพื่อไทยจะเอาพรรคภูมิใจไทยออก แล้วเอาพรรคประชาชนเข้าไปแทน นายณัฐพงษ์ มองว่า ไม่น่าเป็นไปได้อยู่แล้ว เรื่องนี้น่าจะตอบได้ค่อนข้างชัด เพราะที่ผ่านมาตนยืนกรานไปหลายครั้งว่า ในสภาชุดนี้ พรรคประชาชนจะไม่เข้าร่วมรัฐบาล
เมื่อถามว่ามีการเจรจาเบื้องลึกเบื้องหลังกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ สำหรับการเลือกตั้งรอบหน้า นายณัฐพงษ์ ยืนยันว่า ตอนนี้ยังไม่มีการพูดคุยเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคร่วมรัฐบาลใดๆ ทั้งสิ้น รวมถึงพรรคอื่นด้วย ก็ไม่มีการพูดคุยกัน เพราะก่อนก็จะมีการพูดคุยกันเรื่องนี้ น่าจะอยู่ในช่วงใกล้การเลือกตั้งครั้งหน้า ที่จะต้องหารือกันเรื่องจุดยืน อุดมการณ์ทางการเมือง และจุดยืนในการดำเนินนโยบายต่างๆ
"ตอนนี้ยืนยันว่า อย่างไรก็ตาม พรรคประชาชนไม่มีทาง ไม่เคยมีโอกาสเข้าไปคุย และไม่คิดจะเข้าไปคุย" นายณัฐพงษ์ กล่าว
ส่วนที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ การอภิปรายของพรรคประชาชนไม่ดุเดือดเท่าการอภิปรายในสมัยรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นเพราะเอาไว้ต่อรองในการเลือกตั้งรอบหน้า นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ไม่ได้คิดว่าจะจับหรือไม่จับกับพรรคไหน แต่พรรคประชาชนเราชัดเจนว่าต้องการเสนอนโยบายที่เป็นผลประโยชน์สูงสุดของประชาชนเป็นหลัก ยังคงยืนยันในจุดเดิม
การทำหน้าที่ของฝ่ายค้านในขณะนี้ คือการทำหน้าที่ฝ่ายค้านเชิงรุก ผลักดันกฎหมาย และยังคงเดินหน้าทำงานต่อไป ส่วนจุดยืนว่าจะจับกับใครนั้น ในการหาเสียงเลือกตั้งครั้งหน้า คงมีการแสดงจุดยืนชัดเจนมากกว่านี้
เมื่อถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ ที่พรรคเพื่อไทยจะนำพรรคภูมิใจไทยออก และส่งผลต่อสมการทางการเมือง จนทำให้เสียงปริ่มน้ำหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ถ้ามองตัวเลขทางการเมือง ก็มีความเป็นไปได้ หากมีเรื่อง 44 สส.เข้ามา แต่อย่างไรก็อยู่ที่ตัวนายกรัฐมนตรี ตนไม่สามารถตอบแทนพรรคเพื่อไทยได้
เมื่อถามถึงเสถียรภาพของรัฐบาลในขณะนี้ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า แน่นอนว่าในกรอบใหญ่ หรือบริบทการค้าโลก เราอยากได้รัฐบาลที่มีเสถียรภาพ ในการไปเจรจาผลประโยชน์ประชาชน ถักประชาชนแสดงความคิดเห็นทำทุกอย่างตรงไปตรงมาอย่างสร้างสรรค์ ไม่ได้เอาทุกอย่างมาเป็นประเด็นทางการเมือง เพื่อที่จะสั่นคลอนเสถียรภาพของรัฐบาลเป็นหลัก ดังนั้น คงต้องมองเป็นเรื่องๆ เรื่องไหนที่เราสนับสนุนรัฐบาล เพื่อประโยชน์ของประเทศ เราก็พร้อมทำงาน ถ้าเรื่องไหนที่รัฐบาลทำผิด เราก็พร้อมแสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘เท้ง’กลัวไม่ได้ตั้งรัฐบาล
กกต.เผยรับสมัคร สส.ทั้ง 400 เขตเรียบร้อยดี เตรียมรับสมัคร สส.บัญชีรายชื่อวันอาทิตย์นี้ เตือนประชาชนโพสต์ข้อความผิด กม.เลือกตั้ง เจอคุก 10 ปี
‘อนุทิน’ เผย ‘วราวุธ’ ลำดับ 3 ปาร์ตี้ลิสต์ สะท้อนภูมิใจไทยพูดแล้วทำ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการประกาศ
สมัคร สส.บุรีรัมย์ 10 เขต วันแรกคึกคัก ภท.-ปชน.ลงครบ
เปิดรับสมัคร สส.บุรีรัมย์ 10 เขต วันแรกบรรยากาศคึกคัก หลายพรรคส่งผู้สมัครครบทุกเขต “ไชยชนก” นำทีมภูมิใจไทย ขณะที่ “ศิริกัญญา” นำทัพพรรคประชาชน ขอปักธงส้มในพื้นที่
‘พิพัฒน์’ นำทัพ ภท. ลุยนครศรีฯ ประกาศทวงโอกาสให้ชาวใต้
“พิพัฒน์ รัชกิจประการ” ประเดิมเดินสายภาคใต้ ให้กำลังใจผู้สมัคร ส.ส.ภูมิใจไทย นครศรีธรรมราช ครบ 9 เขต ปลุกพลังหาเสียง ย้ำขอเป็นตัวแทนทวงสิทธิ์และโอกาส หลังชาวใต้ถูกละเลยมานานหลายสิบปี พร้อมขอคะแนนให้ภูมิใจไทยเข้าไปทำงานดูแลพื้นที่อย่างเต็มที่
'เท้ง' นำทัพผู้สมัคร ปชน.สมัครวันแรก โวลั่นภารกิจตัดสีเทาออกจากประเทศ
ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน นำทีมผู้สมัคร สส.กทม. 33 เขต นั่งรถเมล์ไฟฟ้าสีส้มเข้าสมัครรับเลือกตั้งวันแรก
‘ขิง-ศุภมาศ’ นำทีม ภท. สมัคร สส.กทม. 33 เขต ลั่นพร้อมแบกรับภาระคนกรุง
“เอกนัฏ-ศุภมาศ” นำทัพผู้สมัคร สส.กทม. พรรคภูมิใจไทย ยื่นใบสมัครเป็นพรรคแรก มั่นใจตัวผู้สมัครและนโยบายช่วยแบ่งเบาภาระคนกรุงเทพฯ ด้านศุภมาศย้ำมีเป้า สส. แต่ขอเวลาให้ผู้สมัครลงพื้นที่ก่อน พร้อมยืนยันจะได้เห็น “เอกนิติ-ศุภจี” ช่วยหาเสียงแน่

