
นักกฎหมายมหาชนชี้ เกมการเมืองหลังสงกรานต์ร้อนแรง รัฐบาลแพทองธารอาจไม่ยุบสภาแต่เลือก ‘ปรับ ครม.’ แบบลดบทบาทภูมิใจไทย ดองเค็มไม่ให้กล้าต่อกรกลางสภา ย้ำ กระทรวงมหาดไทย คือเป้าหมายหลักในยุทธศาสตร์คืนอำนาจ ก่อนศึกเลือกตั้ง 2570
20 เม.ย.2568 - การเมืองหลังเทศกาลสงกรานต์ยังคงคุกรุ่น โดยเฉพาะความขัดแย้งระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทย ภายหลังการชะลอร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงแบบไม่มีกำหนด ซึ่งมีคาสิโนเป็นหนึ่งในสาระสำคัญ ทำให้เกิดกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตามมาอย่างต่อเนื่อง
ดร.ณัฏฐ์ ณัฐวุฒิ วงศ์เนียม นักกฎหมายมหาชน วิเคราะห์ว่า แม้ขณะนี้อยู่ในช่วงปิดสมัยประชุมสภา แต่สถานการณ์ทางการเมืองยังร้อนแรง โดยเฉพาะการปรับ ครม. ที่อาจมาในรูปแบบ “ดองเค็ม” พรรคภูมิใจไทย คือไม่ปรับออกจากรัฐบาล แต่ลดบทบาทด้วยการยึดกระทรวงสำคัญกลับมา
ดร.ณัฏฐ์ระบุว่า หลังการหารือระหว่าง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย มีแนวโน้มว่ารัฐบาลจะยังรักษาเสถียรภาพด้วยการประคองพรรคภูมิใจไทยไว้ แต่ลดบทบาทในเชิงอำนาจลง โดยเฉพาะจากกรณีที่ นายไชยชนก ชิดชอบ บุตรชายนายเนวิน ชิดชอบ แสดงจุดยืนคัดค้านนโยบายหลักของพรรคเพื่อไทยอย่างเปิดเผยกลางสภา
ทั้งนี้ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์เชิงเหน็บแนมว่า “ภูมิใจไทย ก็คือภูมิใจไทย” ซึ่งตีความได้หลายนัย แต่นักวิเคราะห์มองว่าเป็นสัญญาณไม่พอใจและเตรียมตอบโต้เชิงยุทธศาสตร์
เกมภายในพรรคภูมิใจไทยเองก็ไม่เป็นเอกภาพ เมื่อมีการแบ่งเป็นสองก๊ก คือ ก๊กของนายอนุทิน และก๊กของกลุ่มชิดชอบ โดยเฉพาะบทบาทของนายไชยชนกในฐานะเลขาธิการพรรค ที่ถูกมองว่าเป็นตัวแทนสายเนวินโดยตรง ต่างจากนายอนุทินที่ยังต้องคุมสมดุลกับรัฐบาลชุดนี้
อย่างไรก็ตาม นายอนุทิน ยังไม่เลือกย้ายไปเป็นฝ่ายค้าน เนื่องจากเคยปรามาสพรรคประชาชน (ก้าวไกล) ไว้มากในช่วงตั้งรัฐบาลปี 2566 จึงไม่อาจกลับลำได้ง่าย อีกทั้งยังอ้างว่านายไชยชนกแสดงความเห็นในนามส่วนตัว ไม่ใช่มติพรรค
ดร.ณัฏฐ์จึงชี้ว่า รัฐบาลอาจเลือก “เชือดไก่ให้ลิงดู” ด้วยการยึด “กระทรวงมหาดไทย” คืน ซึ่งเป็นกระทรวงสำคัญต่อเกมเลือกตั้ง โดยสลับให้พรรคภูมิใจไทยไปคุมกระทรวงรองที่มีบทบาทน้อยลง เป็นการลดอิทธิพลของพรรคสีน้ำเงินในรัฐบาลผสมอย่างมีนัย
แนวทางนี้สะท้อนรูปแบบ “ดองเค็ม” ที่เคยใช้กับ ส.ส.ที่ไม่ปฏิบัติตามมติพรรค คือไม่ขับออก แต่ลดบทบาททางการเมืองให้ไร้อิทธิพล และเป็นโมเดลที่รัฐบาลผสมในหลายยุคเคยใช้มาแล้ว
แม้ พรรคภูมิใจไทย จะยังคุมเครือข่ายองค์กรอิสระ และ ส.ว.สีน้ำเงินบางส่วนไว้ แต่หากถูกลดบทบาทใน ครม. อาจทำให้พรรคสูญเสียแรงส่งในสนามเลือกตั้ง และเผชิญปัญหาการตรวจสอบอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะกรณีที่ดินเขากระโดงซึ่งยังคาราคาซัง
การเคลื่อนไหวล่าสุดจึงเป็นการวางเกมล่วงหน้าเพื่อครองความได้เปรียบในช่วงรักษาการรัฐบาล หากอยู่ครบเทอมถึงปี 2570 ซึ่งเป็นเป้าหมายของเพื่อไทย โดยการ “ดองเค็ม” พรรคพันธมิตรที่เริ่มแข็งข้อ ถือเป็นจังหวะปรับทิศทางอำนาจอย่างไม่เปิดศึกแตกหัก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ภท.-ปชน.' แตกหักปม112 'พท.' ตัวแปรรอร่วมรัฐบาล
การเลือกตั้งวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 กำลังเดินหน้าเข้าสู่ช่วงโค้งสำคัญ พรรคการเมืองต่างเร่งนำเสนอนโยบาย แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และทีมรัฐมนตรี เพื่อขอโอกาสประชาชนเข้ามาบริหารประเทศในอีก 4 ปีข้างหน้า
‘อัครนันท์’ ชูหาเสียงไม่รบกวนชุมชน ตั้งหลักคิดคุณภาพชีวิตมาก่อน
“อัครนันท์” ออกแนวทางการหาเสียงไม่กระทบกับชาวบ้านในพื้นที่ ปรับเวลารถแห่ จาก 08.00 น.เป็น 10.00 น. หวังลดผลกระทบด้านเสียง เอาใจ คนในพื้นที่
‘สมศักดิ์’ นำผู้สมัครเพื่อไทย 3 จังหวัด สักการะมหาราชก่อนจับเบอร์
“สมศักดิ์” นำผู้สมัคร สส. เพื่อไทย “ตาก-สุโขทัย-พิษณุโลก” สักการะมหาราชทั้ง 3 พระองค์ “ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช-พระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราช-ศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช” เอาฤกษ์เอาชัย ก่อนลุยจับเบอร์สู้ศึกเลือกตั้ง
‘อนุทิน’ เผย ‘วราวุธ’ ลำดับ 3 ปาร์ตี้ลิสต์ สะท้อนภูมิใจไทยพูดแล้วทำ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการประกาศ
สมัคร สส.บุรีรัมย์ 10 เขต วันแรกคึกคัก ภท.-ปชน.ลงครบ
เปิดรับสมัคร สส.บุรีรัมย์ 10 เขต วันแรกบรรยากาศคึกคัก หลายพรรคส่งผู้สมัครครบทุกเขต “ไชยชนก” นำทีมภูมิใจไทย ขณะที่ “ศิริกัญญา” นำทัพพรรคประชาชน ขอปักธงส้มในพื้นที่
‘พิพัฒน์’ นำทัพ ภท. ลุยนครศรีฯ ประกาศทวงโอกาสให้ชาวใต้
“พิพัฒน์ รัชกิจประการ” ประเดิมเดินสายภาคใต้ ให้กำลังใจผู้สมัคร ส.ส.ภูมิใจไทย นครศรีธรรมราช ครบ 9 เขต ปลุกพลังหาเสียง ย้ำขอเป็นตัวแทนทวงสิทธิ์และโอกาส หลังชาวใต้ถูกละเลยมานานหลายสิบปี พร้อมขอคะแนนให้ภูมิใจไทยเข้าไปทำงานดูแลพื้นที่อย่างเต็มที่

