แฟ้มภาพ
1 ก.พ.2565 - นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำเครือข่ายไล่ประยุทธ์ (อ.ห.ต.) โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ถึงผลเลือกตั้งซ่อม ส.ส.กรุงเทพ เขต ว่าผลการเลือกตั้งซ่อมเขตจตุจักร-หลักสี่ออกมาไม่เหนือความคาดหมาย นายสุรชาติ เทียนทอง จากพรรคเพื่อไทยเป็นเต็งหนึ่งมาตลอด ถึงที่สุดก็ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง แต่ตัวเลขคะแนนที่ออกมา คะแนนของผู้ชนะเป็นการบวกกันระหว่างกระแสความนิยมของพรรคเพื่อไทย และตัวตนของคุณสุรชาติ ซึ่งเกาะติดพื้นที่ตั้งแต่วันแรกที่พ่ายแพ้การเลือกตั้ง จนมาถึงวันที่ได้รับโอกาสใหม่อีกครั้ง เป็นปัจจัย ++ ที่ทำให้ทิ้งห่างคู่แข่งขันค่อนข้างจะขาดลอย
ส่วนคะแนนของฝ่ายแชมป์เก่า คุณสิระ เจนจาคะ คราวนี้ต้องพูดกันชัดๆว่า กระแสความนิยมในตัวพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และกระแสความนิยมของพรรคพลังประชารัฐ รูดตกเหวลงไปพร้อมๆ ความเป็นพล.อ.ประยุทธ์ ไม่สามารถนำมาโฆษณาขายได้เหมือนกับการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา
ส่วนพลังประชารัฐ จากความล้มเหลวในการบริหารประเทศ ความแตกแยกภายใน ทำท่าว่าพรรคจะอยู่ด้วยกันไม่ได้ ก็ทำให้ประชาชนที่เคยให้ความเชื่อมั่น ถอนใจ ถอนตัวออกมา เหตุการณ์แบบนี้เกิดเป็นคำถามด้วยซ้ำไปว่า เลือกตั้งใหญ่คราวหน้าจะยังมีพลังประชารัฐเป็นพรรคหลักพรรคหนึ่งในสนามหรือไม่
โดยสรุปคือผลการเลือกตั้งคราวนี้เป็นความงดงามของระบอบประชาธิปไตย เมื่ออำนาจมาถึงมือประชาชน ก็พร้อมที่จะตัดสินใจใหม่ตลอดเวลา ผู้ชนะเมื่อวานไม่จำเป็นจะต้องเป็นผู้ชนะวันนี้ และผู้ชนะวันนี้อาจจะไม่ได้เป็นผู้ชนะในวันต่อไป สำคัญก็คือว่า ใครจะช่วงชิงความยอมรับ ใครจะเข้าไปนั่งในหัวใจประชาชนได้มากกว่ากันเท่านั้นเอง
การเลือกตั้งคราวนี้แม้จะไม่ส่งผลเปลี่ยนแปลงกับการเมืองในภาพใหญ่ แต่รหัสสัญญาณที่ปรากฏออกมา ก็พอจะหยิบยกมาวิเคราะห์ความเป็นไปทางการเมืองได้ พล.อ.ประยุทธ์ ถึงตรงนี้ฟันธงว่าอยู่ยาก ไม่ใช่ยากธรรมดา โคตรยาก อายุรัฐบาลเหลือปีกว่าๆ มีคำถามแล้วครับว่ารัฐบาลชุดนี้จะจบลงอย่างไร คำตอบตามวิถีการเมืองแบบสังคมไทยก็มองได้ 3 ประการด้วยกันล่ะครับ 1) นายกรัฐมนตรีลาออก เลือกนายกฯ กันใหม่ 2) เกิดการรัฐประหาร หรือ 3) ยุบสภา คืนอำนาจให้ประชาชน
ตัวเลือกที่ 1 คือการลาออก ผมไม่เชื่อว่าพล.อ.ประยุทธ์จะตัดสินใจแบบนี้ เนื่องจากว่าถ้ามีการลาออก เป้าหมายสำคัญก็หวังต้องการจะกลับมาสู่เก้าอี้นายกรัฐมนตรีอีกครั้ง แต่ลาออกคราวนี้ เผลอ ๆ จะกลับมาไม่ได้เอานะครับ เพราะขนาดอยู่ในเก้าอี้นายกรัฐมนตรีมีอำนาจเต็มยังคุมสภาพไม่อยู่ พรรคตัวเอง ลูกน้องตัวเอง แตกกันเละ ซัดกันนัว คะแนนเลือกตั้งออกมาไม่ทันข้ามคืน ร.อ.ธรรมนัส โพสต์ข้อความแสดงความยินดีกับผู้ชนะ ประกาศว่า “ศัตรูของศัตรูคือมิตรแห่งตน” ดังนั้น พล.อ.ประยุทธ์ไม่น่าจะเลือกใช้วิธีการลาออกให้ขาลอยแล้วโดนสอยไม่ได้กลับมา
เรื่องรัฐประหาร ส่วนตัวผมไม่คิดว่าจะเป็นไปได้ แม้ว่าในสังคมไทย อะไรก็เกิดขึ้นได้ก็ตามนะครับ แต่การรัฐประหารคราวนี้ใช้ต้นทุนทางการเมืองของฝ่ายอำนาจนิยมสูงอย่างยิ่ง และคาดเดาผลลัพธ์ยากเหลือเกิน แม้ว่าจะทำสำเร็จ ก็ใช่ว่าจะคุมสถานการณ์หรือปกครองได้ง่าย ๆ ที่สำคัญก็คือ ผมคิดว่าถ้าจะเป็นการรัฐประหารเพื่อกระชับอำนาจให้พล.อ.ประยุทธ์อยู่ต่อ วันนี้สถานการณ์มันเลยจุดนั้นมาแล้วหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กำลังกลายเป็นสินค้าหมดสภาพ แล้วต้องสิ้นอายุขัยไปทางการเมืองแล้วหรือเปล่า
วิธีคิดของฝ่ายอำนาจนิยมในประเทศนี้น่าสนใจอยู่อย่างหนึ่งนะครับ คือเขาจะเลือกใช้คนหรือองค์กรใดองค์กรหนึ่งจนคนกลุ่มนั้นหมดสภาพ เลิกใช้ แล้วก็เปลี่ยนไปใช้คนกลุ่มใหม่ รัฐประหารปี 49 มีบันได 4 ขั้น คมช. ชัดเจนว่าจะให้ประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล อภิสิทธิ์เป็นนายกรัฐมนตรี เลือกตั้งแพ้ก็ล้มนายกฯ สมัคร, นายกฯ สมชาย เอาอภิสิทธิ์เป็นนายกฯ ในค่ายทหารจนได้ แต่เมื่อ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ บริหารประเทศล้มเหลว เลือกตั้งพ่ายแพ้ขาดลอยต่อ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อภิสิทธิ์และประชาธิปัตย์ก็ไม่ใช่ตัวเลือกแรกอีกต่อไป
ยึดอำนาจคราวหลังสุด รัฐธรรมนูญจึงเขียนเปิดทางให้คนนอกเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีได้ และกำหนดเอาไว้เลยว่าต้องชื่อ ประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่วันนี้วันที่พล.อ.ประยุทธ์หมดสภาพขนาดนี้ ผมไม่เชื่อว่าฝ่ายกุมอำนาจจะทุ่มทุนสร้างขว้างทุนเสี่ยงเพียงเพื่อจะเอาประยุทธ์อยู่ในอำนาจต่อโดยขัดกับความต้องการของประชาชน ดังผลคะแนนเขตหลักสี่ออกมาแล้วชัดขนาดนี้
ทางออกที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุดในทัศนะของผมก็คือ การยุบสภา คืนอำนาจให้ประชาชน
จริงอยู่ครับ ยุบสภาคราวนี้ พล.อ.ประยุทธ์อาจจะไม่ได้รับคะแนนสูงสุดเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีก็เป็นได้ แม้ว่าจะมี ส.ว. 250 คนค้ำอยู่ก็ตาม แต่เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ถ้าฝ่ายคุมอำนาจหาตัวแทนเข้ามาได้ เอาพล.อ.ประยุทธ์ไปเก็บไว้ในที่ใดที่หนึ่งที่รู้สึกว่าปลอดภัย เกมมันอาจจะเดินออกมาแบบนี้ จึงเป็นหน้าที่ของพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย จึงเป็นอำนาจของประชาชนคนไทยส่วนใหญ่นี่แหละครับที่จะตัดสินใจในสนามเลือกตั้งกันอย่างไร
ถ้ายังรักยังห่วง พล.อ.ประยุทธ์ ก็หลับหูหลับตาตามเลือกกันเข้าไปนะครับ แต่ถ้าไม่แล้วต้องคว่ำกระดานเทกระจาด พรรคไหนประกาศสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรี ต้องไม่มีคะแนนจากประชาชนผู้รักประชาธิปไตย หรือถ้าเขาจะเอาคนอื่นมาเป็นตัวแทน ก็ต้องจับให้ได้ไล่ให้ทัน แล้วก็เททิ้งไปด้วยกันนั่นแหละครับ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘หนู’ ลั่นฟังแค่ ‘อิ๊งค์’ ยันร่วมรัฐบาลเป็นไฟต์บังคับ ‘ทักษิณ’ พูดไม่นำพา
"อนุทิน" ลั่น! รับสัญญาณจากนายกฯ อิ๊งค์เท่านั้น ยันที่ "ทักษิณ" พูดไม่ได้หมายถึงรัฐมนตรีจากพรรคภูมิใจไทย "ท่านทักษิณพูดถึงพรรคที่ไม่เข้าร่วมประชุม ผมก็ไม่นำพาไปฟังอะไรมาก"
'อนุทิน' ยันไม่ใส่ใจคำพูด 'ทักษิณ' โชว์ห้าวตะเพิดพรรคร่วมฯ ขอฟังแค่นายกฯอิ๊งค์
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวผ่านรายการข่าวเที่ยง ทางไทยพีบีเอส ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวในการสัมมนาพรรคเพื่อ
แกนนำคปท. จับตาท่าที 'อนุทิน-พีระพันธุ์' เอาอย่างไร หลัง 'ทักษิณ' พูดที่หัวหิน
นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศ(คปท.)โพสต์เฟซบุ๊ก ว่า เอาอย่างไร
ไม่ต้องปิดบังอีกต่อไป! สื่ออาวุโส ชี้อำนาจเด็ดขาดนำมาซึ่งการฉ้อฉลแบบเบ็ดเสร็จ
นายเทพชัย หย่อง สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่าไม่ต้องอ้อมค้อม ไปต้องปิดบังอีกต่อไป ใครใหญ่ที่สุดตอน
'วรงค์' สวน 'ทักษิณ' โคตรควาย! จะเอาแต่ผลประโยชน์ ไม่สนใจเสียดินแดนตามมา
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ที่ปรึกษาพรรคไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊กว่า #ควายหรือโคตรควาย
'ภูมิธรรม' ตีมึนไม่รู้ 'ทักษิณ' หมายถึงใคร
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์กรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พูดบนเวทีสัมม