'เท้ง' ยันไม่เสียของแน่นอน ซักฟอก 'นายกฯอิ๊งค์' ไม่เป็นผล เตรียมยุทธการโรยเกลือต่อ ไม่ขอประเมินอายุรัฐบาล แต่ถ้า 'แพทองธาร' อยู่ต่อ คนไทยจะอายุสั้นลง
26 มี.ค.2568 - นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะหัวหน้าผู้นำฝ่ายค้าน แถลงภายหลังที่ประชุมสภามีมติไว้วางใจนายกรัฐมนตรีให้ทำหน้าที่ต่อ ว่า ผลการลงมติที่ออกมาพรรคฝ่ายค้านถือว่าครบถ้วน ในส่วนของพรรคประชาชนมี 2 พรรคที่ทราบสถานะคือน.ส.วรรณวิภา ไม้สน สส.บัญชีรายชื่อ ที่มีการแอดมิดส่งเข้าโรงพยาบาลเมื่อวานนี้ และนายสิริน สงวนสิน สส.กทม. มีปัญหาเรื่องสุขภาพ เราเองก็ติดตามดูอยู่ด้วยความเป็นห่วง ส่วนที่เหลือก็ต้องติดตามกันดูในพรรคร่วมฝ่ายค้าน
เมื่อถามว่า ภายหลังการลงมติเสร็จแล้วระหว่างถ่ายรูปได้คุยอะไรกับนายกรัฐมนตรี นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ตอนที่ไปถ่ายรูปตั้งใจไปถามคำถามให้นายกฯ ชี้แจงในหลายๆอย่าง จากที่เมื่อคืนยังไม่ได้ชี้แจง ตั้งใจจะไปถามนายกฯโดยตรง แต่ก็ยังไม่ได้รับคำตอบอะไร นายกฯก็แค่ยิ้ม และถ่ายรูป
เมื่อถามย้ำว่าตั้งใจจะไปถามเรื่องอะไรกับนายกฯ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เวลาสั้นๆที่เดินไปแสดงสปิริตเมื่อสักครู่นี้ คงไม่ใช่เรื่องที่จะไปไล่ถามทุกคำถาม
“ผมก็ถามสั้นๆ ประโยคสั้นๆว่า ท่านนายกฯครับ เมื่อวานที่ได้รอนายกฯชี้แจง ผมก็ย้ำนายกฯหลายครั้ง เมื่อคืนให้ท่านชี้แจง ท่านก็กลับเงียบ และไม่ได้ชี้แจงใดๆ ได้แต่ยิ้มและหันหน้าขึ้นไปถ่ายรูป”นายณัฐพงษ์ กล่าว
ส่วนประเด็นที่จะโรยเกลือต่อที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เรากำลังดูเรื่องข้อกฎหมาย มีหลายประเด็น ซึ่งยุทธการโรยเกลือยังมีช่องทางอีกหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นการขับเคลื่อนในกรรมาธิการ หรือไปยื่นตามที่ต่างๆ มีตามมาแน่นอนไม่ต้องห่วง และเรากำลังพูดคุยกันภายในพรรคว่าจะจัดการอย่างไรต่อ พร้อมย้ำว่าเริ่มทำงานตั้งแต่วันนี้ทันที ก่อนมาแถลงข่าวนี้ก็ประชุมกันในพรรคมีการพูดคุยกันหลายประเด็นแล้ว
เมื่อถามถึงกรณีที่พรรคประชาชนต่อต้านการที่นายกฯถูกถอดถอนโดยศาลหรือองค์กรอิสระ แต่วันนี้จะทำเอง นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นจุดยืนของเรามาโดยตลอดว่าเราไม่เห็นด้วยกับกระบวนการนิติสงคราม รวมถึงกระบวนการที่สืบถอดมาจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในการกลั่นแกล้งทางการเมือง ดังนั้น ที่ยังไม่ลงรายละเอียดมากเพราะเรากำลังดูช่องทางที่ถูกต้องตรงไปตรงมา ไม่ใช้กลไกที่เราไม่เห็นด้วย จึงต้องดูในรายละเอียดก่อน
“ผมเชื่อว่ามีหลายช่องทางที่เราสามารถดำเนินการทำได้ เช่น เรื่องภาษีถึงแม้ไม่ต้องร้องเรียนต่อหน่วยงานต่างๆ แต่การทำหน้าที่ตรวจสอบ โดยการนำข้อมูลมาเปิดเผยในสภา ก็สามารถทำให้ครอบครัวของนายกฯจ่ายภาษีได้ เราทุกคนก็ได้ประโยชน์ รวมถึงยังมีอีกหลายช่องทางมากมาย เป็นสิ่งที่พวกเราศึกษากันอยู่ ” นายณัฐพงษ์ กล่าว
เมื่อถามว่า นายกฯเรียกร้องให้พรรคประชาชนประกาศจุดยืนไปเลยว่าจะไม่จับมือกับพรรคไหนบ้างในการเลือกตั้งครั้งหน้า นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า จุดยืนของพรรคประชาชนชัดเจนมาโดยตลอด ในสภาฯชุดนี้ จะไม่มีการไปร่วมรัฐบาลแน่นอน คิดว่าการที่เรามีความชัดเจน เราก็พูดชัดเจนอยู่แล้ว แต่ในมุมกลับกันตนต้องถามจุดยืนทางเมืองเมืองของนายกฯเช่นเดียวกัน ว่าจุดยืนของท่านเป็นอย่างไร ดูย้อนแย้งหรือตรงข้ามกับสิ่งที่เคยเป็นจุดยืนของพรรคเพื่อไทยมาโดยตลดอหรือไม่ ฉะนั้น ยังเร็วไปที่จะถามคำถามนี้ เราเห็นมาโดยตลอดแต่ละพรรคโดยฉพาะอย่างยิ่งสภาชุดปัจจุบัน อาจจะมีสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป บางทีก็ย้ายไปฝั่งรัฐบาลบ้าง ฝั่งฝ่ายค้านบ้าง ฉะนั้น จุดยืนเราไม่เคยเปลี่ยน
เมื่อถามย้ำว่าช่วงไหนถึงจะพอดีกับดีจะประกาศว่าร่วมกับพรรคไหน นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า รอมีกระแสใกล้ๆ ช่วงมีการยุบสภา เลือกตั้งใหม่ ช่วงนั้นอาจจะมีความชัดเจนมากขึ้น
เมื่อถามว่า หลังจากอภิปรายครั้งนี้จะต้องปกป้องคนในพรรคด้วยหรือไม่ เพราะออกมาแฉเรื่องไอโอกองทัพ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า สิ่งที่พวกเราไม่อยากเห็น คือการถูกฟ้องร้องดำเนินคดีหรือฟ้องปิดปาก แต่อย่างไรก็ตามสิ่งเหล่านี้คงไม่ได้ยับยั้งการทำหน้าที่ของพวกเรา ส่วนเรื่องปฏิบัติการไอโอสิ่งที่น่าเสียดายคือไม่ได้อภิปรายจนจบ เพราะเราอยากสะท้อนให้ทุกคนเห็นว่าฝ่ายการเมืองทุกฝ่ายเป็นเป้าโจมตีของกองทัพ
เมื่อถามว่าพอใจภายพรวมการอภิปรายหรือไม่ เพราะฝั่งรัฐบาลก็ระบุว่าเหมือนเป็นการสรุปข่าวให้ฟัง ไม่มีข้อมูลใหม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ต้องขอบคุณทุกคนโดยเฉพาะอย่างยิ่งพรรคร่วมฝ่ายค้าน อย่างพรรคพลังประชารัฐ หลายคนมีบริบททางการเมืองที่เปลี่ยนไป แต่ก็ทำหน้าที่ของตัวเองเต็มที่ ซึ่งเรานำเสนอข้อมูลใหม่หลายด้าน ถ้ามองในกรอบรัฐบาลที่มองว่าพรรคฝ่ายค้านไม่มีข้อมูลอะไรมาก ตนอยากถามนายกฯและรัฐบาลเช่นเดียวกัน ว่าหลายปัญหาของประเทศในขณะนี้ ไม่ใช่ข้อมูลใหม่ เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นในอดีตหลายปี ในเมื่อคุณเดินเข้าสู่อำนาจแล้วมีเจตจำนงหรือความตั้งใจที่จะแก้ไขปัญหาเหล่านั้นให้กับประชาชน
เมื่อว่าเกมของฝ่ายค้านจบแล้วในสภามีการเตรียมรับมือกับเกมของฝั่งรัฐบาลอย่างไรบ้าง นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดในการเป็น สส. คือการทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ไม่ใช่พูดอย่างทำอย่าง ส่วนเกมการเมืองเช่นที่หลายฝ่ายวิเคราะหห์ว่าการถ่ายภาพร่วมกันจะเป็นเกมที่ทำให้เราเสียภาพหรือไม่ ตนมองว่าเป็นประเด็นเล็กๆน้อยๆ สิ่งที่ประชาชนมองเห็นคือการทำหน้าที่ของเราอย่างคงเส้นคงวา
ส่วนยืนยันหรือไม่ว่าการอภิปรายในครั้งนี้ไม่เสียของ นายณัฐพงษ์ ระบุว่า ไม่เสียของอย่างแน่นอน หลายอย่างที่เรานำเสนอ จะมีการดำเนินการต่อแน่นอน ขอให้รัฐบาลตั้งรับไว้ให้ดีข้อมูลที่เรามีบางอย่างนายกฯยังตอบไม่ได้
เมื่อถามว่าพรรคประชาชนจะถูกลอยโดดเดี่ยวอีกหรือไม่ เพราะมีสส.จากพรรคฝ่ายค้านไปโหวตเห็นชอบให้นายกฯดำรงตำแหน่งต่อ นายณัฐพงษ์กล่าวว่า เราไม่สามารถไปควงคุมเสียงของพรรคร่วมฝ่ายค้านได้ เราไม่ได้กลัวอะไรเราสิ่งที่เป็นผนังทองแดงกำแพงเหล็กให้เราคืออำนาจสูงสุดของประเทศนี้เราเชื่อว่าเป็นของประชาชน ฉะนั้น เกมการเมืองในสภาแต่ละพรรคจะว่าอย่างไรก็เป็นเรื่องของพวกเขา
เมื่อถามว่ามีการประเมินอายุรัฐบาลชุดนี้ไว้อย่างไรบ้างนั้น นายณัฐพงษ์กล่าวว่า เราประเมินแทนนายกฯ หรือพรรคร่วมรัฐบาลไม่ได้ แต่สิ่งที่พูดได้แทนประชาชนคือ หาก น.ส.แพทองธาร ยังดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอยู่ อายุของประชาชนคนไทยจะสั้นลงทุกวัน
ส่วนที่ช่วงเช้านายกฯได้ให้สัมภาษณ์ว่าจะอยู่ครบวาระ และนำพาประเทศให้ดีขึ้นกว่าเดิมนั้น นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เป็นสิ่งที่นายกฯยังตอบชี้แจงพวกเราไม่ได้ทั้งปัญหาที่เกิดขึ้นในอดีตที่ยังไม่แก้ไขมัวแต่อ้างว่าฝ่ายค้านไม่มีข้อมูลอะไรใหม่ การทำหน้าที่ปัจจุบันของนายกฯก็ยังไม่ดีพอ ส่วนปัญหาในอนาคตก็ยังยืนยันว่าตราบใดที่น.ส.แพทองธารเป็นนายกฯที่ขาดคุณสมบัติที่ดีเพียงพอ ต้นทุนของประเทศที่เสียไปคงไม่มีอะไรมาแลกได้
ไม่อยากให้นายกฯอยู่ครบวาระ
ส่วนเรื่องที่รัฐมนตรีชี้แจงประเด็นส่งชาวอุยกูร์ จะมีการรีแอคชั่นจากต่างประเทศหรือไม่นั้น นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ประเด็นระหว่างประเทศเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน แต่สิ่งที่เราต้องยึดมั่นคือหลักการสากล เราไม่ควรดำเนินการนโยบายต่างประเทศ ไปเข้าข้างกลุ่มหนึ่งกลุ่มใด ประเด็นชาวอุยกูร์สิ่งที่สำคัญคือกระบวนการที่จะทำอย่างไรไม่ให้ประเทศไทยเหมือนเข้ากระบวนการฟอกขาวของอีกประเทศหนึ่ง ต้องมีความอิสระของคณะทำงานที่ไปตรวจสอบ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'เท้ง' นำทัพผู้สมัคร ปชน.สมัครวันแรก โวลั่นภารกิจตัดสีเทาออกจากประเทศ
ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน นำทีมผู้สมัคร สส.กทม. 33 เขต นั่งรถเมล์ไฟฟ้าสีส้มเข้าสมัครรับเลือกตั้งวันแรก
'อนุทิน' ถามใครหลอกประชาชนกันแน่ พรรคส้มคิดแก้ ม.112 ชัดเจน แถมยังจะล้างคดีให้ด้วย
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงโอกาสในการจัดตั้งรัฐบาล แต่หลายพรรคกลับปฏิเสธไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคกล้าธรรม ทำให้เกิดความกดดันกับพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ ว่า ฟังการตัดสินจากประชาชน
'เท้ง' โวย 'อนุทิน' สร้างวาทกรรม ปชน. แก้ ม.112 ทั้งที่พูดเรื่องนิรโทษกรรมคดีหมิ่นสถาบัน
นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวตอบโต้นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ว่า ต้องบอกว่าการยกมือในวันนั้น ไม่ใช่การเห็นด้วยกับการแก้ไขมาตรา 112 แต่เป็นการผลักดันเรื่องนิรโทษกรรมของนักโทษที่โดนคดีทางการเมือง
'ปชน.' กระจายแกนนำสมัคร สส. 'เท้ง' หัวเรือ กทม. 'ไหม' บุกถิ่นน้ำเงิน
'ปชน.' กระจายแกนนำให้กำลังใจผู้สมัครแบบเขตทุกภูมิภาค 'เท้ง' นำทีม กทม. 7 โมงเช้าถึงกีฬาเวสน์ 2 'ไหม' บุกถิ่นน้ำเงินบุรีรัมย์ 'อ.ต้น' ลงใต้ 'ต๋อม' ปักหลักหัวเมืองเหนือ
กังขา 'ปชน.' ไม่จับมือ 'กธ.' แต่จับมือ 'พท.' แม้ 'ทักษิณ-ประเสริฐ' แนบแน่น 'เบน สมิธ'
นายไทกร พลสุวรรณ แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน โพสต์ข้อความผ่าน เฟซบุ๊กระบุว่า พรรคประชาชนไม่จับมือตั้งรัฐบาลกับพรรคกล้าธรรม เพราะ ธรรมนัส สนิทกับ เบนสมิธ
‘แก้วสรร’ แพร่บทความ ‘เกาะติด คดีจริยธรรม 44 สส.ส้ม’
นายแก้วสรร อติโพธิ เผยแพร่บทความเรื่อง เกาะติด “คดีจริยธรรม ๔๔ สส.ส้ม” มีเนื้อหาดังนี้

