'รอมฎอน' ถล่ม 'แม้ว-อิ๊งค์' ดีลปีศาจแลกประชาธิปไตย จุดไฟใต้ เกิดสภาวะลูกผีลูกคน

25 มี.ค. 2568- เวลา 01.30 น. กลางดึกที่ผ่านมา นายรอมฎอน ปันจอร์ สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน ลุกขึ้นอภิปรายด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ ว่า ดีลปีศาจแลกประชาธิปไตยทำให้ตนไม่สามารถไว้วางใจน.ส.แพทองธารให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้อีกต่อไป เพราะนอกจากประชาธิปไตยสิทธิเสรีภาพที่เธอ คนของเธอ บิดาของเธอ หรือใครก็แล้วแต่ตัดสินใจแลกมันไปเหมือนกับที่ปัตตานีเราก็เห็นภาพของการแลกมันไป แทนที่จะบรรลุถึงสันติภาพ ยุติความรุนแรงให้ความปลอดภัยกับประชาชน มีพื้นที่ทางการเมืองเพิ่มขึ้น

ฉะนั้น ตนจึงขอกล่าวหาว่าน.ส.แพทองธาร ไม่มีคุณสมบัติ ไม่มีความเหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่งผู้นำฝ่ายบริหาร ขาดภาวะผู้นำอย่างร้ายแรง ขาดวุฒิภาวะอย่างร้ายกาจ ที่สำคัญคือขาดความรู้ความสามารถในการที่จะดำรงตำแหน่งที่สำคัญตำแหน่งนี้ได้อีกต่อไป นอกจากนั้น ยังขาดเจตจำนงที่แน่วแน่มั่นคงในการบริหารราชการ และยังทำให้เสียโอกาสของประเทศในด้านต่างๆ ไม่แยแสต่อปัญหาที่ประชาชนเผชิญ ไม่แน่วแน่เด็ดเดี่ยวที่จะทำให้รัฐบาลพลเรือนมีบทบาทนำในการแก้ปัญหาสำคัญของชาติ ต้องเกรงใจบรรดาอำนาจมืดและกองทัพต่างๆ ที่ทำให้การแก้ไขปัญหาความขัดแย้งชายแดนภาคใต้ต้องหยุดชะงัก ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญและเป็นความรับผิดชอบของนายกรัฐมนตรี แม้จะผ่านมากว่า 20 ปีแล้ว และปัญหานี้ก็เกิดในสมัยของคุณพ่อท่านนายกฯ

ทั้งนี้ มีความพยายามที่จะมอบความไว้วางใจให้คนของตระกูลชินวัตรแก้ปัญหาเรื่องนี้มาหลายรุ่นแล้ว จนกระทั่งมาถึงรัฐบาลของน.ส.แพทองธาร โดยในรุ่นลูกก็ไม่ได้มีการแยแสและใส่ใจมากพอ ซึ่งเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็มีแนวโน้มความรุนแรงหวนกลับมาคืนอีกครั้งในช่วงปี 2567 ในรัฐบาลชุดนี้ ต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ๆ โดยใน 22 ปีงบประมาณนี้ เราใช้งบประมาณไปแล้ว 5.6 แสนล้านบาท ย้ำว่าสิ่งที่นายกฯ กำลังทำอยู่นี้ทำให้แนวโน้มความรุนแรงหวนกลับมา จะทำให้ผู้คนในพื้นที่ภาคใต้รู้สึกไม่ปลอดภัยเพิ่มขึ้น

นายรอมฎอน กล่าวยืนยันว่า เราต้องใช้การเมืองนำการทหาร แต่ต้องเป็นการเมืองที่เป็นประชาธิปไตยนำ ไม่ใช่การเมืองนำการทหารเหมือนที่เคยใช้ในอดีต ฉะนั้น จึงต้องการความมุ่งมั่นและความตั้งใจ ความกล้าหาญของรัฐบาลพลเรือนที่จะริเริ่มเพื่อที่จะปูหนทางไปสู่การหาทางออกจริงๆ โดยเราต้องดึงประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมอย่างมีความหมายแทนที่จะไปปราบหรือใช้กำลัง ไปพร้อมกับการฟื้นฟูและคืนความยุติธรรม

นายรอมฎอน กล่าวอีกว่า หากอยากสร้างสันติภาพจริงๆ เราต้องอาศัยการนำที่แน่วแน่ ทั้งนี้ การจะอำนวยความยุติธรรมให้กับคดีตากใบเป็นเรื่องที่ยาก แม้เราจะใช้ทุกกลไกแล้วเพื่อทำให้โศกนาฏกรรมเหล่านั้นได้รับการยอมรับ สูญเสียเหล่านั้นได้รับการเห็นหัว เพื่อพิสูจน์ว่าประชาชนสามารถไว้วางใจอำนาจรัฐได้อยู่ อย่างไรก็ตาม คดีตากใบถือเป็นบทเรียนว่าหากไม่มีการปลดล็อก จะทำให้มีคนที่รู้สึกว่าพวกเขาไม่มีทางเลือกมากนัก นี่จึงเป็นภารกิจที่หนักหน่วงของเราและนายกรัฐมนตรีที่จะต้องมีแนวทางการเมืองที่แน่วแน่ มั่นคง ฉีกออกไปจากวงจรความรุนแรงเหล่านี้ และเจตจำนองเหล่านั้นมีแต่นายกรัฐมนตรีเท่านั้นที่จะต้องยืนกรานให้กับพวกเรา

นายรอมฎอน กล่าวว่า นอกจากความไม่จริงจัง ต่อการฟื้นฟูความยุติธรรมแล้ว ตนยังเห็นว่า รัฐบาลพลเรือนที่นำโดยนายกฯ แพทองธาร ยังอ่อนแอปลวกเปียก ยังไม่นับรวมไปสู่การปฏิรูปกองทัพ การมุ่งไปสู่การปฏิรูประบบยุติธรรมต่างๆ ที่เราไม่ได้เห็นในรัฐบาลชุดนี้ หากเปรียบเทียบกับรัฐบาลไทยรักไทย พลังประชาชน หรือเพื่อไทยในอดีต เราอาจจะต้องตกใจเพราะเจตจำนงของรัฐบาลรุ่นลูกนั้นลดลงอย่างน่าเหลือเชื่อ คนทำให้ตนเชื่อว่าการที่เข้าสู่อำนาจที่ต้องตระบัดสัตย์ และต้องทำดีลกับผู้มีอำนาจเหล่านั้น ต้องแลกกับการพยายามลดธงต่างๆ หรือไม่ รวมถึงการยกเลิกกฎอัยการสึกด้วย ที่เกิดขึ้นในยุคของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งในรัฐบาลนี้ก็ยังมีการประกาศใช้อยู่อย่างต่อเนื่อง

“แนวทางการเมืองแบบประชาธิปไตยเราต้องการรัฐบาลพลเรือนที่เข้มแข็ง มุ่งมั่นและต้องถือธงนำในการแก้ปัญหา แต่ลูกสาวของนายทักษิณที่แทนที่จะใช้โอกาสนี้ในการไถ่บาปให้พ่อ ก็ไม่ได้ทำ แต่สภาวะลูกผีลูกคนเช่นนี้ ไม่มีใครที่จะรับผิดชอบโดยตรงเลย หรือต้องปล่อยให้มีความรุนแรงเกิดขึ้นอีก เราจะอยู่กันเช่นนี้จริงหรือ นั่นทำให้ผมไม่อาจไว้วางใจนายกฯ แพทองธารให้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปได้ อยากให้เพื่อนสมาชิกโดยเฉพาะที่มาจากชายแดนภาคใต้ให้ยกมือไม่ไว้วางใจนายกฯ แพทองธาร ด้วย” นายรอมฎอน กล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

จุลพงศ์-พรรคประชาชน เอ็กซ์เรย์ แผลอักเสบ นายกฯ ผิดจริยธรรม-นิติกรรมอำพราง

ถึงแม้ว่า"แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี"จะผ่านศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านไปได้ด้วยคะแนนเสียงโหวตไว้วางใจท่วมท้น 319 เสียง แต่ประเด็นข้อกล่าวของฝ่ายค้านที่ซักฟอกนายกฯกลางสภาฯ

ควันหลงซักฟอก 'อิ๊งค์' เสี่ยงขัดจริยธรรม ‘พรรคส้ม’ รุกฆาตหรือรอฮั้ว ‘พรรคแดง’

ภายหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรลงมติโหวตญัตติในการอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยคะแนนเสียงไว้วางใจ 319 ต่อ 162 เสียง

'สนธิญา' ยื่น กกต. สอบปม 'นายกฯอิ๊งค์-เท้ง' โต้กันนัวศึกซักฟอก คนนอกครอบงำพรรค

นายสนธิญา สวัสดี นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ยื่นหนังสือต่อกกต.เพื่อขอให้ตรวจสอบจากกรณีการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 -25 มี.ค.ที่ผ่านมา ที่มีการกล่าวหาซึ่งกันและกัน ระหว่างน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะหัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน

กระทุ้ง 'วิโรจน์' ร้องศาลรธน. วินิจฉัย 'นายกฯอิ๊งค์' ส่อไม่ซื่อสัตย์ ปมตั๋วPN

นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม ประธานสถาบันสุจริตไทย และอดีตสมาชิกวุฒิสภา (สว.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ชื่นชมนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน

'วิโรจน์' บุกสรรพากร บี้วินิจฉัยทางการ 'อิ๊งค์' ใช้ตั๋วPN ส่อเลี่ยงภาษีหรือไม่ จ่อเรียกอธิบดีแจงกมธ.

'วิโรจน์' บุกกรมสรรพากร สอบ 'นายกฯ' ใช้ตั๋ว P/N ซื้อขายหุ้นทิพย์ จี้วินิจฉัยเป็นทางการ-ลายลักษณ์อักษร หวั่น ปชช.ทำตาม กระทบระบบจัดเก็บภาษีประเทศ จ่อให้ กมธ.เศรษฐกิจ เรียก 'อธิบดี' แจง