กกต. แพร่คำวินิจฉัย ยกคำร้อง 'แสวง บุญมี' ไม่ปฏิบัติหน้าที่ ปล่อยฮั้วเลือกสว.

มติ กกต. สั่งยกคำร้อง ”แสวง” เลขา กกต. หลีกเลี่ยงไม่ปฏิบัติหน้าที่ ทุจริตต่อหน้าที่กรณีการเลือก สว. ระดับประเทศ ชี้ก่อนการเลือกได้มีการกำหนดมาตรการควบคุมการเลือกการนับคะแนนและการรายงานผลให้สุจริตและเที่ยงธรรม ตามอำนาจที่กฎหมายให้ไว้ การที่ผู้สมัคร สว. ใส่เสื้อสีเหลือง เป็นกลุ่มไม่มีข้อห้าม และไม่พบว่า กลุ่มผู้สมัครระดับประเทศกลุ่ม 13 ตามคำร้องไม่มีผู้ใดเป็นสมาชิกพรรคการเมือง

21 มีนาคม 2568 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงาน คณะกรรมการ​การ​เลือกตั้ง​ (กกต.)​ เผยแพร่ คำวินิจฉัย กกต. ที่นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. ได้ลงนามคำวินิจฉัย กกต. ยกคำร้อง กรณีผู้ร้องยื่นร้องนายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. โดยอ้างว่าก่อนการประกาศผลการเลือก สว. เลขาธิการ กกต. หลีกเลี่ยงไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ ทุจริตต่อหน้าที่ ซึ่งกกต.ได้พิจารณารายงานสืบสวนตลอดจนหลักฐานอื่นๆที่เกี่ยวข้องประกอบกันแล้ว ได้ความว่า ผู้ยื่นคำร้องให้ถ้อยคำว่า

“ผู้ถูกร้องหลีกเลี่ยงไม่ปฏิบัติหน้าที่ โดยปล่อยประละเลยให้กลุ่มบุคคล ซึ่งเป็นกลุ่มการเมืองหรือเคยเป็นผู้ช่วยหาเสียงของผู้สมัครรับเลือกตั้ง ได้สมัครรับเลือกเป็น สว. ครั้งนี้ ซึ่งในการเลือกระดับประเทศ ในวันที่ 26 มิ.ย. 2567 ได้เห็นผู้มีสิทธิ์เลือก เลือกทุกกลุ่มสวมเสื้อสีเหลือง และได้ตรวจสอบข้อมูลการแนะนำตัวของผู้สมัคร สว.3 ของกลุ่ม 13 กลุ่มผู้ประกอบอาชีพด้านวิทยาศาสตร์ฯ

ส่วนในประวัติทำงานหรือประสบการณ์ทำงานในกลุ่มที่สมัคร ไม่ปรากฏหลักฐานชื่อชัดว่าผู้สมัครกลุ่มดังกล่าวนั้น เป็นบุคคลที่มีประสบการณ์ในด้านที่สมัครไม่น้อยกว่า 10 ปี และมีการลงคะแนนให้แก่ผู้สมัครเป็นกลุ่ม ซึ่งเป็นเรื่องผิดปกติ โดยได้นำข้อมูลการลงคะแนนที่ได้บันทึกไว้มาจัดเรียงด้วยระบบคอมพิวเตอร์ และใช้หลักจิตวิทยาในการวิเคราะห์

โดยผู้มีสิทธิ์เลือกจะลงคะแนนเลือกให้แก่ตนเองก่อน จึงทราบว่าเป็นบัตรลงคะแนนของผู้มีสิทธิ์เลือกคนใด ซึ่งข้อมูลบางส่วนเป็นการลงคะแนนเป็นชุด หลายรายจึงไม่อาจระบุได้ว่าเป็นบัตรลงคะแนนของผู้มีสิทธิ์เลือกคนใด และผู้ร้องเห็นว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. มาตรา 32

จากการสอบสวนในข้อเท็จจริงเป็นหนังสือ ว่าในวันรับสมัครเลือก สว. ผู้อำนวยการเรื่องระดับประเทศ เป็นผู้มีหน้าที่และอำนาจในการตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามตามกฏหมายที่เกี่ยวข้องกำหนดไว้ว่า ผู้สมัครต้องไม่เป็นสมาชิกพรรคการเมือง ผู้สมัครต้องไม่เป็นหรือเคยเป็นผู้ดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมือง เว้นแต่พ้นจากตำแหน่งมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี

ขณะเดียวกันสำนักงาน กกต. ได้กำหนดมาตรการควบคุมการเลือก สว. ให้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม ตั้งแต่แต่งตั้งชุดปฏิบัติการข่าว ตั้งแต่การเลือกระดับอำเภอจนถึงระดับประเทศ จัดให้มีชุดเคลื่อนที่เร็วสนับสนุนชุดปฏิบัติการข่าว สั่งให้ผู้ตรวจการเลือกตั้งประจำจังหวัดลงพื้นที่สังเกตการณ์ กำหนดมาตรการป้องกันเพิ่มเติม 5 ข้อ

จากสืบสวนหาข่าวไม่พบว่ามีแหล่งข่าวหรือพยานหลักฐานที่ชัดเจนว่ากลุ่มการเมืองได้จัดตั้ง หรือส่งกลุ่มบุคคลมาสมัครรับเลือกเพื่อลงคะแนนให้แก่ผู้สมัครที่กำหนดไว้ล่วงหน้า ส่วนกรณีการแต่งกายของผู้มีสิทธิ์เลือกที่จะสวมใส่ที่มีเสื้อสีเดียวกัน ไม่มีกฎหมายหรือระเบียบใดห้ามไม่ให้ผู้มีสิทธิ์เลือกกระทำการดังกล่าว

ประกอบกับช่วงเวลาการเลือกนั้นอยู่ในห้วงการจัดงานเนื่องในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 6 รอบ และรัฐบาลได้รณรงค์เชิญชวนให้ประชาชนแต่งกายด้วยสีเหลือง ที่มีตราสัญลักษณ์งานพระราชพิธีเฉลิมพระเกียรติฯ ดังนั้นการที่ผู้มีสิทธิ์เลือกสวมเสื้อสีเหลืองมาในวันเลือกระดับประเทศไม่ใช่เรื่องผิด

เห็นว่าข้อเท็จจริงจากการสืบสวนรับฟังได้ว่า ผู้ร้องที่ยื่นคำร้องและให้ถ้อยคำ ว่าในวันเลือกระดับประเทศได้เห็นผู้มีสิทธิ์เลือกทุกกลุ่มสวมเสื้อสีเหลือง และได้ตรวจสอบข้อมูลแนะนำตัวของกลุ่มที่ 13 ในส่วนประวัติการทำงานหรือประสบการณ์การทำงานในกลุ่มที่สมัครไม่ปรากฏหลักฐานที่แสดงได้ว่าผู้สมัครในกลุ่มดังกล่าวเป็นบุคคลที่มีประสบการณ์ในด้านที่สมัครไม่น้อยกว่า 10 ปี และมีการลงคะแนนให้แก่ผู้สมัครเป็นกลุ่มซึ่งเป็นเรื่องผิดปกติ

ซึ่งตามข้อมูลที่ผู้ร้องอ้างอิง เป็นเพียงข้อสันนิษฐาน ของผู้ร้อง และการตรวจสอบสถานะภาพสมาชิกพรรคการเมืองของผู้มีสิทธิ์เลือกระดับประเทศในกลุ่ม 13 จำนวน 147 คน ไม่พบว่าผู้มีสิทธิ์เลือกนั้นเป็นสมาชิกพรรคการเมือง และประเด็นที่ผู้มีสิทธิ์เลือกได้สวมเสื้อที่มีสีเดียวกัน ก็ไม่ได้มีกฎหมายระเบียบห้ามการกระทำดังกล่าว อีกทั้งถือเป็นสิทธิ์ส่วนบุคคลในการแต่งกาย

ประกอบกับการเลือก สว. ครั้งนี้ เลขาธิการ กกต. ผู้ถูกร้องได้กำหนดมาตรการต่างๆเพื่อควบคุมการเลือก การนับคะแนน การรายงานผลนับคะแนนให้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม ตามหน้าที่และอำนาจที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว.

โดยไม่ปรากฏพยานหลักฐานว่า เลขาธิการ กกต. ในฐานะผู้ถูกร้อง หลีกเลี่ยงไม่ปฏิบัติหน้าที่ ทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำการอื่นใดอันเป็นการขัดขวางมิให้การเลือกเป็นไปตามกฎหมาย หรือตามรัฐธรรมนูญ หรือมีการจัดตั้งหรือส่งกลุ่มบุคคลมารับสมัครเลือกเพื่อลงคะแนนให้แก่ผู้สมัครที่กำหนดไว้ล่วงหน้า ตามที่มีการกล่าวหาแต่อย่างใด อีกทั้งไม่ปรากฏพยานหลักฐานที่ยืนยันได้ว่ามีการกระทำฝ่าฝืนกฎหมายตามข้อกล่าวหา ข้อเท็จจริงจึงรับฟังได้ว่า เลขาธิการ กกต. กระทำการเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติประกอบและธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. ปี 2561 มาตรา 32 ตามคำร้อง จึงมีคำสั่งให้ยกคำร้อง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สอบพยานคดีฮั้วสว.ทุกราย!

“แสวง” แจงทำหน้าที่คุมเลือก สว.ตามกฎหมาย ด้าน “กกต.” ยกคำร้องเลขาธิการ กกต.ไม่ปฏิบัติหน้าที่ “ดีเอสไอ"

'ดีเอสไอ' ประชุมคดีฟอกเงิน ฮั้วเลือกสว. มีพยานกลับใจแฉเห็นเหตุการณ์ตั้งแต่ต้น

เริ่มแล้ว ! “ดีเอสไอ-อัยการ” ประชุมคดีฟอกเงิน ปมฮั้ว สว.67 เตรียมร่อนหมายเรียกพยานกว่า 1,000 ราย สอบปากคำ ไขปมรู้เห็นเหตุการณ์จัดฮั้ว โดยเฉพาะ “พยานกลับใจแฉ“ ดีเอสไอต้องคุ้มครองความปลอดภัย

'เลขาฯกกต.' ยันคุมเลือก สว. ตามกฎหมาย จ่อเปิดสำนวนคำร้องทางแอปสมาร์ทโหวต

'แสวง' ยันทำหน้าที่คุมเลือก สว. ตามกฎหมาย ลั่นทำสำนวนไม่ล่าช้า อยู่ในกรอบ 1 ปี เล็งส่ง 60 สำนวนเข้า กกต. จ่อเปิดสำนวนคำร้องเลขาฯกกต. ทางแอปสมาร์ทโหวต

สว.สำรอง แจ้งความเอาผิดเลขาฯกกต. ละเลยหน้าที่สอบฮั้วเลือก สว.

บริเวณด้านหน้ากองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว ผู้นำกลุ่มสว.สำรอง พร้อมกลุ่มสว. สำรอง กว่า 10 คน หอบหลักฐานร้องบก.ปปป. เอาผิดนายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง กรณีละเลยหน้าที่ตรวจสอบฮั้วเลือกสว.

ถนัดตบจูบ! 'ทักษิณ' บอก 'เพื่อไทย-ภูมิใจไทย' อยู่กันแบบนี้ออกรสชาติดี

นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี 81 สว.ยื่นคณะกรรมการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฎหมายของคณะ