
18 มี.ค. 2568 – รู้ผลวันนี้ สภาสูงโหวตลับ2 ตุลาการศาลรธน. ลุ้นสว.สีน้ำเงิน เห็นชอบหรือตีตก “สิริพรรณ-ชาตรี”หลังลือ สัญญาณพิเศษส่งมาแล้วค่ำวันจันทร์
วุฒิสภา จะมีการประชุมในวันนี้ 18 มีนาคม ซึ่งมีวาระการประชุมที่สำคัญสองเรื่อง
เรื่องแรก คือ เรื่องด่วน การพิจารณาญัตติ เรื่อง ขอเสนอญัตติให้วุฒิสภาพิจารณาปัญหาผลกระทบจากกรณีการส่งตัวชาวอุยกูร์กลับไปยังประเทศจีน ที่เสนอโดยนางอังคณา นีละไพจิตร
ซึ่งนางอังคณากับสว.ได้ร่วมกันลงชื่อเสนอญัตติเมื่อวันจันทร์ที่ 17 มีนาคม และนายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ก็บรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมวันนี้โดยทันที
แต่ไฮไลท์สำคัญคือระเบียบวาระเรื่องแรกที่เป็น”เรื่องด่วน” คือ การลงมติ ให้ความเห็นชอบหรือไม่ให้ความเห็นชอบ บุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ จำนวนสองคน ที่คณะกรรมการสรรหาฯ คัดเลือกและส่งชื่อมาให้วุฒิสภาโหวต
ประกอบด้วย 1.ศาสตราจารย์ ดร.สิริพรรณ นกสวน สวัสดี อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ที่ได้รับเลือกเข้ามาในสาขาผู้ทรงคุณวุฒิด้านรัฐศาสตร์ ที่มีคุณสมบัติสำคัญคือ ต้องดำรงตำแหน่งหรือหรือเคยดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์ของมหาวิทยาลัยในประเทศไทยมาแล้วเป็นเวลาไม่น้อยกว่าห้าปี โดยดร.สิริพรรณ ได้รับเลือกจากกรรมการสรรหาฯ ด้วยคะแนนเสียงเอกฉันท์แปดเสียงในการโหวตเพียงแค่รอบเดียว
2.นายชาตรี อรรจนานันท์ อดีตอธิบดีกรมการกงสุล และอดีตเอกอัครราชทูตประจำกรุงเฮก เนเธอร์แลนด์ โดยชื่อนี้กรรมการสรรหาต้องโหวต 3 รอบ ถึงจะผ่านเข้ารอบ
สำหรับ ศ.ดร.สิริพรรณ เป็นการสรรหาคัดเลือกเพื่อให้มาแทน ศ.ดร.นครินทร์ เมฆไตรรัตน์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญคนปัจจุบัน
ส่วนนายชาตรี เป็นการสรรหาเพื่อให้มาแทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรธน.
โดยศ.ดร.นครินทร์และนายปัญญา อยู่ในตำแหน่งครบวาระตั้งแต่เดือนพ.ย. 2567 แล้ว แต่เนื่องจากตามกฎหมาย ต้องทำหน้าที่ไปจนกว่าจะมีตุลาการศาลรธน.คนใหม่มาทำหน้าที่แทน
การลงมติของสว.จะเกิดขึ้นในการประชุมลับของวุฒิสภา ซึ่งดร.สิริพรรณและนายชาตรี จะต้องได้เสียงเห็นชอบจากสว.ไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสว.ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในเวลานี้ ที่ตอนนี้มีสว.ปฏิบัติหน้าที่ด้วยกัน 199 คน ชื่อถึงจะผ่านความเห็นชอบให้เข้าไปเป็นตุลาการศาลรธน. ต่อไป
ท่ามกลางกระแสข่าวว่า ขณะนี้สว.ส่วนใหญ่ โดยเฉพาะสว.สีน้ำเงิน ที่คุมเสียงข้างมากในวุฒิสภา ต่างมีข้อมูลและมีคำตอบแล้วว่า จะโหวตเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบ หลังสว.ส่วนใหญ่ มีการพูดคุยกันนอกรอบ ระหว่างการเดินทางไปร่วมประชุมรัฐสภาเมื่อวันจันทร์ที่ 17 มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งมีการประชุมรัฐสภาตลอดทั้งวัน
แต่สว. ส่วนใหญ่ก็จะรอดู”เอกสารลับที่สุด”ที่คณะกรรมาธิการสามัญตรวจสอบประวัติ ความประพฤติและพฤติกรรมทางจริยธรรมของผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นตุลาการศาลรธน.วุฒิสภา ที่จะมีการแจกเอกสารดังกล่าวให้สว.ในห้องประชุมลับ ที่คาดว่าจะมีเกินร้อยหน้า โดยจะมีทั้งเอกสารจากหน่วยงานรัฐ 19 หน่วยงานที่ส่งข้อมูลให้กมธ.ฯ สอบประวัติฯ หลังกมธ.ได้ส่งหนังสือไปเพื่อขอให้ตรวจสอบประวัติของทั้งสองคน มาให้กมธ.ฯ ไม่ว่าจะเป็นสำนักงานศาลยุติธรรมฐ สำนักงานอัยการสูงสุด กองทะเบียนประวัติอาชญากร สำนักงานป.ป.ช. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เป็นต้น
รวมถึงข้อมูลที่กมธ.สอบประวัติฯ ได้มีการสอบถามไปยังผู้บังคับบัญชา-อดีตผู้บังคับบัญชา – ผู้ใต้บังคับบัญชาและอดีตผู้ใต้บังคับบัญชา รวมถึงเพื่อนร่วมงานของทั้งสองคน เพื่อสอบถามความคิดเห็นที่มีต่อทั้งสองคน
ตลอดจน เอกสารบันทึกการสัมภาษณ์ดร.สิริพรรณ และนายชาตรี ซึ่งกมธ.สอบประวัติฯ ได้เรียกทั้งสองคนมาสัมภาษณ์และสอบถามประเด็นข้อสงสัยต่างๆ เช่น วิสัยทัศน์หากเข้าไปทำหน้าที่เป็นตุลาการศาลรธน.เป็นต้น
โดยมีข่าวว่า สว.หลายคนต้องการขอดูเอกสารบันทึกการสัมภาษณ์ระหว่างกมธ.สอบประวัติฯ กับดร.สิริพรรณ เพื่อต้องการดูว่า ดร.สิริพรรณ ได้ชี้แจงเรื่องที่เคยร่วมลงชื่อเสนอแก้ไขมาตรา 112 เมื่อหลายปีก่อนหน้านี้ อย่างไรบ้าง รวมถึงที่มีข่าวว่า ดร.สิริพรรณ ได้ทำหนังสือแนะนำตัวเองและชี้แจงเรื่องการลงชื่อแก้ไข 112 กับกมธ.ฯสอบประวัติ ที่ชี้แจงว่า การที่เคยลงชื่อแก้ 112 ก่อนหน้านี้ เป็นการแสดงความคิดเห็นในเชิงวิชาการ ในฐานะนักวิชาการ มีรายละเอียดอย่างไร
นอกจากนี้ มีรายงานว่า อาจจะมีสว.บางคน ลุกขึ้นอภิปรายซักถามกมธ.สอบประวัติฯ ของวุฒิสภาในห้องประชุมลับว่า ได้สัมภาษณ์ดร.สิริพรรณในเรื่อง มุมมองการตีความเรื่องความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์และมาตรฐานจริยธรรม ฯ ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเช่นรัฐมนตรี และกรรมการองค์กรอิสระ ฯ ไว้บ้างหรือไม่ หลังสว.หลายคน เห็นรายงานที่คณะกรรมการสรรหาฯ ส่งมาให้วุฒิสภา พบว่า ตอนที่กรรมการสรรหาฯ เรียกดร.สิริพรรณไปสัมภาษณ์และแสดงวิสัยทัศน์ ได้มีกรรมการสรรหาฯ คนหนึ่งซักถามดร.สิริพรรณว่า การตีความเรื่องความซื่อสัตย์สุจริตที่เป็นประจักษ์ ควรจะต้องพิจารณาตีความแบบแคบหรือแบบกว้าง และจะใช้อะไรเป็นเกณฑ์ชี้วัดเกี่ยวกับความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์
โดย ดร.สิริพรรณ กล่าวตอบตอนหนึ่งว่า “กรณีของท่านอดีตนายกรัฐมนตรีท่านเศรษฐา คิดว่ามีความย้อนแย้งกันพอสมควร กล่าวคือ ในด้านหนึ่งศาลใช้คำว่า ขาดความรอบคอบ แต่ว่าในที่สุดแล้ววินิจฉัยว่า ขาดความสุจริตเป็นที่ประจักษ์ ซึ่งรู้สึกกังวล กล่าวคือ เป็นสิ่งที่คิดว่าการตีความเรื่องคุณธรรมจริยธรรมเป็นเรื่องที่ควรจะต้องมีหลักการและมาตรฐานเดียวกันที่ชัดเจน”
ซึ่งมีรายงานว่า คำตอบดังกล่าว ยังมีสว.บางส่วนติดใจอยู่และต้องการดูในเอกสารลับของกมธ.สอบประวัติฯ ว่า ดร.สิริพรรณ ได้แสดงความคิดเห็นเรื่องนี้ไว้อีกหรือไม่ โดยจะมีการสอบถามกมธ.สอบประวัติฯโดยละเอียด เพื่อเป็นข้อมูลก่อนการโหวตลงมติ
ทั้งนี้ หากสุดท้าย ดร.สิริพรรณเข้าไปเป็นตุลาการศาล รธน. จะทำให้เป็นตุลาการศาล รธน.ผู้หญิงคนที่ 2 ต่อจาก ศ.ดร.เสาวณีย์ อัศวโรจน์ อดีตอาจารย์คณะนิติศาสตร์ ธรรมศาสตร์
แต่หากสุดท้าย ดร.สิริพรรณ ไม่ผ่านความเห็นชอบ ก็จะทำให้ต้องเปิดรับสมัคร-คัดเลือกกันใหม่ และทำให้ นายนครินทร์ ก็จะทำหน้าที่ประธานศาลรธน.ต่อไปอีกหลายเดือน
สำหรับในส่วนของ ชาตรี-อดีตเอกอัครราชทูตฯ สื่อรายงานไว้ก่อนหน้านี้ว่า สว.สีน้ำเงิน อยู่ระหว่างรอตัดสินใจว่าจะโหวตเห็นชอบหรือไม่ให้ความเห็นชอบ
หลังก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่า ชื่อของนายชาตรีแม้โปรไฟล์จะดี ภาพลักษณ์เป็นกลาง แต่ลือกันว่าชื่อดังกล่าว การเมืองขั้วสีน้ำเงินไม่ได้สนับสนุนมาแต่แรก เพราะเดิมทีลุ้นให้นาย สราวุธ ทรงศิวิไล อดีตอธิบดีกรมทางหลวง หรือนายสุรชัย ขันอาสา อดีต ผวจ.หลายจังหวัด อดีตอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน คนใดคนหนึ่ง เข้ารอบสุดท้าย จนส่งชื่อมาให้วุฒิสภา
แต่ปราฏว่า ทั้งสองชื่อไม่ผ่านในชั้นคณะกรรมการสรรหาฯ แม้ทั้งสองคน จะได้เสียงโหวตในรอบแรกและรอบที่สอง ตีคู่มากับนายชาตรี แต่เสียงไม่ถึงเกณฑ์ ทำให้พอเข้าสู่การโหวตรอบที่สาม กรรมการสรรหาฯ แปดคนเลยตัดสินใจ เทเสียงไปให้นายชาตรีแปดเสียง จนชื่อของนายชาตรี ผ่านในชั้นกรรมการสรรหาฯ
ท่ามกลางกระแสข่าวว่า ทั้ง 2 ชื่อข้างต้นที่เป็นอดีตบิ๊กกระทรวงคมนาคมและอดีตบิ๊กมหาดไทย ตามลำดับ รู้จักกับ น้องชายคนดังซอยรางน้ำ ที่เคยมีตำแหน่งใหญ่ที่ ก.คมนาคม และ ก.มหาดไทย จึงทำให้เคยทำงานร่วมกันมาก่อน ทำให้ สว.สีน้ำเงิน ต่างรอสัญญาณสุดท้ายในช่วงเช้าวันนี้ ว่า จะให้โหวตเห็นชอบนายชาตรี เป็นตุลาการศาลรธน.หรือไม่
ทั้งนี้สว.ชุดปัจจุบัน โหวตลับให้ความเห็นชอบบุคคลไปดำรงตำแหน่งสำคัญมาแล้วหลายคน เช่น นายประสิทธิ์ศักดิ์ มีลาภ ประธานศาลปกครองสูงสุด นายไพรัช พรสมบูรณ์ศิริ อัยการสูงสุด , นายประภาส คงเอียด กรรมกากรป.ป.ช.
อย่างไรก็ตาม ก็มีโหวตไม่เห็นชอบเช่นกัน ที่พบว่ามีด้วยกันสามคนคือ นายนิวัติไชย เกษมมงคล อดีตเลขาธิการป.ป.ช. และ พศุตม์ณิชา จำปาเทศ อดีตรองผู้ว่าฯสตง. ซึ่งสว.โหวตไม่ให้ความเห็นชอบไปเป็นกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) และล่าสุดเมื่อเดือนก.พ.ที่ผ่านมา คือ รื่นวดี สุวรรณมงคล ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี อดีตอธิบดีกรมคุมประพฤติ อดีตอธิบดีกรมบังคับคดี อดีตเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่สว.โหวตไม่ผ่าน ไม่ให้เข้าไปเป็น ผู้ตรวจการแผ่นดิน
โดยคาดว่า ผลการโหวตตุลาการศาลรธน.ในที่ประชุมลับ วุฒิสภา น่าจะทราบผลภายในช่วงบ่ายๆ ของวันนี้ แต่หากมีสว.อภิปรายกันนาน ก็อาจจะเสร็จสิ้นในช่วงเย็น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นายกฯอิ๊งค์ พูดย้ำ 3 รอบ 'ไม่มีอะไร' เกมล้มกระดาน สว.สีน้ำเงิน
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกร้ฐมนตรี กล่าวถึงกรณีเมื่อวันที่ 19 มี.ค. พบกับ นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ยูไนเต็ด ระหว่างร่วมงานนิทรรศการผ้าไทย "Colors of Buriram" ที่จ.บุรีรัมย์
ตามคาด! สว. สอย 'สิริพรรณ-ชาตรี' วืดนั่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ
ในการประชุมวุฒิสภา เข้าสู่วาระการพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับเลือกเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ คือ นางสิริพรรณ นกสวน สวัสดี อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
โหวต 2 ตุลาการศาลรธน. สิริพรรณ-ชาตรี ลุ้นฝ่าด่าน สว.สีน้ำเงิน
การประชุมวุฒิสภาวันอังคารที่ 18 มีนาคม มีวาระการประชุมที่น่าสนใจคือ การโหวต
สะพัด สว.สีน้ำเงินเสียงแตกโหวต 2 ตุลาการศาล รธน.
จับตา สว.สีน้ำเงินเสียงแตกโหวต 2 ตุลาการศาลรธน. กมธ.สอบประวัติทางลับ การันตี “สิริพรรณ”แจงเคลียร์ปมร้อนลงชื่อแก้ 112 ปธ.กมธ.ฯ จวก สว.พันธุ์ใหม่ เสนอไม่เข้าท่า ให้เลื่อนโหวต
'สิริพรรณ' ผวาชนัก 112 วืดเก้าอี้ตุลาการศาล รธน. เสียง 'สภาสูง' ยังติดใจ
“สิริพรรณ” หวั่นปมลงชื่อหนุนแก้ 112 ทำวืดนั่งตุลาการศาลรธน.ทำหนังสือชี้แจงกมธ.สอบประวัติฯ อ้างเป็นความเห็นทางวิชาการ สว.ยอมรับคนในสภาสูงยังติดใจปมนี้ กังขาพบเคยอัดคำตัดสินศาลรธน. คดีเศรษฐา ย้อนแย้งในตัวเอง
'ทักษิณ' ปัดล้างบางสว.สีน้ำเงิน รับคุย 'เนวิน-อนุทิน' เสถียรภาพรัฐบาลแน่น!
'ทักษิณ ชินวัตร' ปัดล้างบาง สว. สีน้ำเงิน เปิดปากยอมรับพูดคุยกับ 'อนุทิน-เนวิน' จริงแต่เป็นการให้คำปรึกษาเท่านั้น ไม่มีอำนาจสั่งการ พร้อมย้ำเสถียรภาพรัฐบาลยังคงมั่นคงดี ไม่มีปัญหา