ดร.ณัฏฐ์ นักกฎหมายมหาชน ซัด ‘สว.นันทนา’ เล่นเกมสองหน้า ยกปมฮั้วเลือกกสว.ให้ชะลอเห็นชอบว่าที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ชี้เป็นอำนาจหน้าที่สว. มีผลสมบูรณ์-ไม่ตกเป็นโมฆะ
17 มีนาคม 2568 - ดร.ณัฐวุฒิ วงศ์เนียม หรือ ดร.ณัฏฐ์ นักกฎหมายมหาชน แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกรณีที่ น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สมาชิกวุฒิสภา (สว.) เรียกร้องให้ สว.ชะลอการลงมติเลือกตุลาการศาลรัฐธรรมนูญแทนตำแหน่งที่ว่าง เนื่องจากยังมีปัญหาความขัดแย้งเกี่ยวกับการฮั้วเลือก สว.ในปัจจุบัน
ดร.ณัฐวุฒิ กล่าวว่า ข้อกล่าวหาที่กลุ่ม สว.ถูกกล่าวหา อยู่ระหว่างรวบรวบรวมพยานหลักฐาน ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยเฉพาะฐานฟอกเงิน ยังสะดุด เดินหน้ายาก เพราะต้องรอคำวินิจฉัยในสำนวนหลักที่ กกต.ต้องวินิจฉัยชี้ขาดว่า กลุ่ม สว.นี้ ทุจริตการเลือก สว.ตาม พรป.สว.มาตรา 77(1) หรือไม่ ถึงจะเป็นความผิดฐานฟอกเงินได้ ดังนั้นตราบใด คดียังไม่ถึงที่สุด สว.กลุ่มนี้ ยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 29 วรรคสอง
ดรณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า ส่วนที่ ดร.ณฐพร โตประยูร ทนายความ ใช้ช่องทางคุณสมบัติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 111 (4) มาตรา 108 ประกอบ มาตรา 113 โดยจะเสนอผ่านผู้ตรวจการแผ่นดิน หรือ กกต.โดยจะยื่นฟ้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ
ทั้งนี้ตนอยากถามว่าคำว่า ฝักใฝ่ หรือยอมตนอยู่ใต้อาณัติของพรรคการเมือง จะพิสูจน์ความเชื่อมโยงระหว่าง สว.กลุ่มนี้กับพรรคภูมิใจไทย อย่างไร ตนมองว่าค่อนข้างยาก แม้สังคมจะรับรู้ทั่วไปว่า กลุ่มนี้ เป็น สว.สีน้ำเงินก็ตาม
“โดยเฉพาะการออกแบบ สว.ให้ฮั้วคะแนนมาแต่แรก ให้แนะนำตัวระหว่างผู้สมัครด้วยกันได้ ปมฮั้ว สว.มีเพียงแค่โพยหลักฐาน เอาเข้าไปในเขตเลือก สว. ศาลอาญาทุจริตฯวินิจฉัยว่าไม่เป็นความผิด ซึ่งจะต้องมีหลักฐานทุจริตว่าจ้างคนลงสมัคร เรื่อง เงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดที่คำนวนเป็นเงินได้ โดยเฉพาะกลุ่มพลีชีพหรือพวกรับจ้างสมัครแต่ไม่เลือกตัวเอง
ประกอบกับกรณีสงสัยคุณสมบัติ สว. รัฐธรรมนูญมาตรา 82 วรรคสี่ ประกอบ พรป.สว.มาตรา 63 กฎหมายบัญญัติให้เป็นอำนาจหน้าที่ กกต. เท่านั้น ดังนั้นในเมื่อ กกต.ยังไม่ได้วินิจฉัยชี้ขาด สำนวนที่อยู่ระหว่างสืบสวน ไต่สวน กฎหมายไม่ได้ให้อำนาจประชาชนยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญได้โดยตรง ประกอบกับไม่ใช่คดีล้มล้างฯ มาตรา 49 และไม่ใช่กรณีประชาชน ถูกละเมิดสิทธิเสรีภาพหรือเสรีภาพที่รัฐธรรมนูญคุ้มครอง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 213
ดร.ณัฐวุฒิ กล่างต่อไปว่าในมิติกฎหมายมหาชน รัฐธรรมนูญ บัญญัติรองรับถึงอำนาจหน้าที่ของ สว.ในการทำหน้าที่ สอดคล้องกับ พรป.สว.ซึ่งกิจการที่ได้ทำไปแล้ว มีความสมบูรณ์มีผลบังคับได้ตามกฎหมายหรือไม่ นั้น อำนาจหน้าที่ สว.ในการลงมติเห็นชอบผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระและตำแหน่งอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยกลุ่ม สว.ที่อยู่ในขอบข่ายถูกกล่าวหา ยังไม่ผ่านกระบวนการพิสูจน์ความผิดบริสุทธิ์ โดยศาลฎีกา หรือศาลรัฐธรรมนูญยังไม่ได้สั่งให้หยุดปฎิบัติหน้าที่
“ดังนั้น ในวันที่ 18 มีนาคม 2568 ในระเบียบวาระมีมติเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบของว่าที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 2 ท่าน กิจการหรือกระบวนการย่อมสมบูรณ์ตามกฎหมาย แม้ในอนาคต สว.คนใดคนหนึ่งหรือหลายคน ใน กลุ่ม สว.138 คนนี้ มีปัญหาเรื่องคุณสมบัติ สว.เพราะทุจริต มติที่กลุ่ม สว.นี้ดำเนินการไปแล้วตามรัฐธรรมนูญ ย่อมมีผลสมบูรณ์ตามกฎหมาย ไม่กระทบต่อกิจการที่ผู้นั้นได้กระทำไปก่อนพ้นตำแหน่ง ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 วรรคสอง ตอนท้าย”
ดร.ณัฐวุฒื กล่าวว่าส่วนกรณี สว.นันทนา เกรงว่า หากกลุ่ม สว.ฝ่าฝืนลงมติต่อผู้ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ จะเป็นโมฆะนั้น เป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อน เพราะรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นกฎหมายมหาชน ไม่มีคำว่าโมฆะ เพราะคำว่า โมฆะ คือ นิติกรรมสูญเปล่า ใช้บังคับไม่ได้ มีแต่บัญญัติไว้ในกฎหมายเอกชน แต่ในทางกฎหมายมหาชน ไม่มีคำว่าโมฆะ หากกระบวนการใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญ หากกิจการนั้น ไม่ชอบ ผลทางกฎหมาย เป็นเพียงไม่สมบูรณ์เท่านั้น
ดร.ณัฐวุฒิ กล่าวถึงผลกระทบในระยะยาวว่า ต้องพูดตรงๆ ว่าการลงมติของ สว.อาจจะเป็นการล็อกสเปกในการเห็นชอบบุคคลใดบุคคลหนึ่ง หรือทั้งสองราย ซึ่งเป็นการพิสูจน์ยาก เพราะดุลพินิจของ สว.เปิดกว้าง เพราะเป็นอำนาจหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายตามรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะมาตรา 113 ที่ระบุคำว่า “ฝักใฝ่” หรือ “ยอมตนอยู่ใต้อาณัติของพรรคภูมิใจไทย” จนทำให้ สว.มีชื่อเรียกขานว่า “สว.สีน้ำเงิน” แม้ว่าจะเป็นเรื่องยากที่จะพิสูจน์ในทางกฎหมาย แม้จะเห็นได้จากพฤติกรรมบางประการก็ตาม
ดร.ณัฐวุฒิ ยังกล่าวถึงการร้องขอให้ สว.ชะลอการโหวตเห็นชอบว่า ผลกระทบที่ตามมาคือการทำให้กระบวนการดำเนินการล่าช้า ส่งผลให้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญไม่สามารถทำงานได้ครบตามจำนวนที่รัฐธรรมนูญกำหนด ซึ่งตั้งคำถามว่า ประชาชนจะได้รับประโยชน์อะไรจากการเล่นเกมการเมืองในกลุ่ม สว.นี้ เป็นเรื่องที่คาดคะเนได้ยาก และไม่ได้อยู่บนหลักการพื้นฐานของหน้าที่ของ สว.
“อาจทำให้ประชาชนทั้งประเทศตั้งคำถามว่า มีสว.ไว้ทำไม“ดร.ณัฐวุฒิ กล่าวและเสริมว่า ในการแถลงข่าวเรียกร้องให้ชะลอการลงมติที่แพร่กระจายทางสื่อทั่วไป มีนักกฎหมายคนหนึ่งที่เป็นผู้ร้องเรียนร่วมแถลงข่าวด้วย ซึ่งสว.นันทนา ควรปรึกษาข้อกฎหมายให้รอบคอบก่อนที่จะออกมาพูดในลักษณะนี้
อย่างไรก็ตาม นักกฎหมายคนนี้มีความสัมพันธ์กับฝ่ายผู้ร้องขอให้มีการเลือก สว.สำรอง และยังปรากฏตัวที่กรมสอบสวนคดีพิเศษและกระทรวงยุติธรรม ทำให้สังคมเริ่มมีความสงสัยว่า สว.นันทนา อาจกำลังเล่นเกมสองหน้าอยู่หรือไม่.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สังเวย..เกมล้มยักษ์ l ห้องข่าวไทยโพสต์
ห้องข่าวไทยโพสต์ : วันจันทร์ที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2568
ความเป็นมาของรัฐธรรมนูญฉบับที่ 4 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2490 (ตอนที่ 52)
ก่อนจะเกิดรัฐธรรมนูญฉบับที่ 4 หรือรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2490 เรามีรัฐธรรมนูญฉบับที่ 2 คือฉบับ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2475
'เปรมศักดิ์' เดินหน้าเสนอญัติติส่งศาลรธน. เชื่อมีเจตนาเดียวกับพท.
"เปรมศักดิ์” เดินหน้าต่อ ลุยเสนอญัตติส่ง ศาลรธน. เชื่อองค์ประชุมไม่ล่มซ้ำรอยเดิม หวังว่าทุกฝ่ายจะดำเนินการตามข้อเสนอเชื่อมีเจตนาเดียวกับเพื่อไทย
แก้รธน. ส่อระอุอีก 'สว.' บี้ 'ศาลรธน.' ไม่มีเหตุไม่รับคำร้อง ตีความประชามติ
จี้ให้ส่งคำตอบโดยเร็วภายในหนึ่งสัปดาห์ หากจันทร์นี้ รัฐสภาลงมติส่งคำร้องให้ศาลรธน.ตอบมาให้ชัด แก้ 256 ตั้งสภาร่างรธน. โดยไม่ต้องทำประชามติก่อนได้หรือไม่
กวีพี่คนดีร่ายกลอนกรีด ‘ฮีคนนั้น’ ให้ลูกหญิงยืนด้านหน้า ถ้าโดนฆ่าลูกตายก่อนพ่อนอนเฉย
เพจ P.khondee (พี่คนดี กวีสมัครเล่น) โพสต์ข้อความผ่านบทกลอน เรื่อง 'ฮีคนนั้น ( He who must not be named)'