
“เปรมศักดิ์” เดินหน้าต่อ ลุยเสนอญัตติส่ง ศาลรธน. เชื่อองค์ประชุมไม่ล่มซ้ำรอยเดิม หวังว่าทุกฝ่ายจะดำเนินการตามข้อเสนอเชื่อมีเจตนาเดียวกับเพื่อไทย
16 มี.ค.2568 – นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สมาชิกวุฒิสภา ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมร่วมรัฐสภาในวันพรุ่งนี้ (17 มีนาคม) ว่า มีญัตติด่วนของตนค้างสภาฯอยู่คือ เรื่องขอให้รัฐสภามีมติขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของรัฐสภา ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 210 วรรคหนึ่ง (2) ตนเองขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า “รัฐสภามีอำนาจพิจารณาและลงมติร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติมที่มีการเพิ่มหมวด 15/1 การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยที่ยังไม่มีการดำเนินการจัดให้มีการออกเสียงประชามติ ว่า ประชาชนประสงค์จะให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่เสียก่อนได้หรือไม่” และ “หากรัฐสภา มีอำนาจพิจารณาและลงมติร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมได้แล้ว การดำเนินการจัดให้มีการออกเสียงประชามติ ว่า ประชาชนประสงค์จะให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ สามารถกระทำภายหลังที่รัฐสภาให้ความเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมแล้ว โดยทำพร้อมกับการทำประชามติว่า ประชาชนเห็นชอบกับร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมหรือไม่ ได้หรือไม่ อย่างไร”
“ทั้งนี้ ขอยืนยันว่าจะไม่ถอนญัตติดังกล่าวออกมา ยังเห็นว่าต้องส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาตีความก่อนจะเดินหน้าต่อไปเพื่อให้เกิดความรอบคอบ การประชุมร่วมรัฐสภาครั้งก่อนที่ไม่สามารถจะเลื่อนญัตติขึ้นมาพิจารณาก่อนได้ กระทั่งมีการนับองค์ประชุมทำให้สภาล่ม แต่ในวันพรุ่งนี้ก็หวังว่าทุกฝ่ายจะดำเนินการตามข้อเสนอของผม แต่ขณะเดียวกันก็มีญัตติในทำนองเดียวกันของนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เป็นผู้เสนอด้วย เป็นญัตติทำนองเดียวกัน ทราบว่า นายวิสุทธิ์ก็ได้พยายามรวบรวมเสียง จึงเชื่อว่า น่าจะผ่านการประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา ถือว่าเรามีเจตนาร่วมกัน” นพ.เปรมศักดิ์ ระบุ
นพ.เปรมศักดิ์ กล่าวว่า ในส่วนของสว.ที่เห็นด้วยกับญัตติของตนเองก็ยังเห็นด้วยเหมือนเดิม แต่ก็ทราบว่ามีสว.อีกบางส่วนก็เริ่มเห็นคล้อยตามว่า การส่งศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาก็น่าจะเกิดความรอบคอบขึ้น ดังนั้นเสียงของสส.และสว.ที่สนับสนุนก็น่าจะเป็นเอกภาพกว่า การประชุมครั้งแรก ขอยืนยันว่าการส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา เป็นข้อดีแน่นอน เพื่อป้องกันเกิดปัญหาภายหลัง แม้จะทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญล่าช้าออกไปบ้าง แต่ระยะยาวจะเกิดผลดี อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ร่าง พ.ร.บ.ประชามติยังไม่ผ่านยังต้องรอ 180 วันก่อนที่จะประกาศในราชกิจจานุเบกษา ประมาณเดือนมิถุนายนนี้ก็น่าจะครบ 180 วัน น่าจะพอดีกับเวลาที่ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาลงมา ถ้ารัฐสภามีมติส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาในวันพรุ่งนี้
“การประชุมร่วมรัฐสภาในวันพรุ่งนี้น่าจะราบรื่น ไม่มีการเสนอนับองค์ประชุมจนทำให้สภาล่มอีก ทุกฝ่ายคงได้กลับมาทบทวนแล้ว เพื่อให้การพิจารณารัฐธรรมนูญเดินหน้าต่อไปได้ เมื่อทุกฝ่ายร่วมมือกัน ถึงจะดูเหมือนช้าไป แต่ก็ไม่ได้ช้าจนเกินไป อย่างไรก็ตามการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องใหญ่ จำเป็นต้องอาศัยความเห็นชอบจากทุกฝ่ายถึงจะเดินหน้าไปได้ ความขัดแย้งที่ผ่านมาน่าจะเป็นบทเรียนทำให้เรากลับมาทบทวน เพื่อแสวงหาความร่วมมือซึ่งกันและกัน เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อทุกฝ่าย ผมเชื่อว่า ประชาชนจับตามองอยู่ว่า สมาชิกรัฐสภาจะร่วมมือกันได้มากน้อยเพียงใด ถ้าร่วมมือกันมาก ก็ย่อมเป็นผลดีต่อความรู้สึกของประชาชน”นพ.เปรมศักดิ์ กล่าว.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เพื่อไทยเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร คนรุ่นใหม่เพียบ ดึงคนใกล้ชิดมดดำ เสริมทีมเลือกตั้ง
เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครพรรคเพื่อไทย คนรุ่นใหม่เพี๊ยบ น้องชาย-คนสนิท มดดำ / มดเล็ก-รวีภัทร์ อดีต สส.กอล์ฟ กาญจนบุรี จั๋ง พงศ์ศรัณย์ อดีตรองเลขาธิการนายกฯ
ครม. เห็นชอบงบเลือกตั้ง-ทำประชามติ 8,978 ล้าน
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.อนุมัติงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดการเลือกตั้ง สส.เป็นการทั่วไป
พท. ตีปี๊บ! 'ยศชนัน' เรตติ้งพุ่ง นำทัพ กทม. สมัคร 27 ธ.ค.
'ประเสริฐ' เชื่อ 'ยศชนัน' ดึงคะแนนคนที่ยังไม่ตัดสินใจเลือกใครได้ เตรียมเปิดตัว สส. ทั้ง 500 คน 25 ธ.ค. เคลียร์ปม 'จาตุรนต์' ลาออกปธ.ยุทธศาสตร์
ดักคอ 'เพื่อไทย' ปั่นกระแส 'ดร.เชน' หวังสกัดเลือดไหล เชื่อไร้ผลก่อนวันสมัครเลือกตั้งไปอีก
เทพไท ชี้การปั่นกระแสของดร.ยศชนัน ว่าเป็นคนรุ่นใหม่ มีเสียงตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี ก็เพื่อต้องการที่หยุดกระแสเลือดไหลออกจากพรรคเพื่อไทย
เพื่อไทยโวปักธง‘สุพรรณบุรี’
"ยศชนัน" นำทัพเพื่อไทยประเดิมหาเสียง "อยุธยา-สุพรรณฯ" ประกาศปักธงไม่สนบ้านใหญ่
'ยศชนัน' ลงจากหอคอยพบชาวนา ชูเทคโนโลยีแก้น้ำทั้งระบบ
“ยศชนัน-จุลพันธ์” นำเพื่อไทยยกทัพลุยอยุธยา รับฟังปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก-ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ชูแก้น้ำท่วมทั้งระบบ ระบายน้ำเป็นธรรม ใช้ข้อมูลจริง-เทคโนโลยี-วิศวกรรม วางแผนป้องกัน-เยียวยาครบวงจร

