
‘ปธ.กมธ.ความมั่นคงฯ’ ชี้ การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าแนวชายแดนยังมีจุดอ่อนด้านนโยบาย-กฎหมาย-อุปกรณ์ แต่อย่าพึ่งสรุปเหยื่อค้ามนุษย์สมัครใจมา เหตุ ต้องให้ความสำคัญในกระบวนการคัดกรอง หลังพบข้อจำกัดเรื่องภาษา ลั่น เพื่อให้ได้ข้อมูลสาวถึงตัวการใหญ่ ถอนรากถอนโคกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ มองหากออกหมายจับ ‘หม่องชิตตู่’ ไม่ได้ ต้องมีคนรับผิดชอบ
16 ก.พ.2568- นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมร่วมเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์ความมั่นคงตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา กับผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจราชมนู ที่หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 4 หน่วยเฉพาะกิจราชมนู ว่า วันนี้เราได้คุยกับทางหน่วยเฉพาะกิจราชมนู และกองกำลังนเรศวร
โดยจากการพูดคุย มี 2 ขั้นตอน คือการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า และการแก้ไขปัญหาระยะยาว ซึ่งการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ทำได้ดีแล้วแต่ยังมีจุดอ่อนทางด้านนโยบายและกฎหมาย รวมไปถึงอุปกรณ์บางอย่าง ที่กลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่สามารถนำไปใช้ต่อยอดในอนาคตได้ เช่นอุปกรณ์แผงโซลาเซลล์ จานดาวเทียมสตาร์ลิ้งค์ และน้ำมัน ที่ยังพบว่ามีการลักลอบนำข้ามไปฝั่งเมียนมา
ส่วนการแก้ไขปัญหาในระยะยาว รัฐบาลจะต้องมีมาตรการรองรับ ซึ่งควรจะต้องให้การสนับสนุนพื้นที่ชายแดนมากกว่านี้ และควรจะต้องมีงบประมาณ กำลังพลและเทคโนโลยี ทั้งนี้จึงอยากขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเสนอแผนอุปกรณ์ดังกล่าวขึ้นมายังกรรมาธิการฯ เพราะกรรมาธิการฯ มีความจำเป็นที่จะต้องศึกษาให้รอบด้าน
นายรังสิมันต์ กล่าวถึงข้อกังวลที่พบว่า เที่ยวบินเอกชนที่เดินทางมายังสนามบินแม่สอด ซึ่งตนเองได้โดยสารมา ยังพบว่ามีชาวต่างชาติโดยสารมาจำนวนมาก ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลทางการทหารที่ยังมีชาวต่างชาติเดินทางเข้ามา แม้จะมีการตั้งหน่วยคัดกรองถึง 4ชั้นแล้วก็ตาม แต่ตนเองก็เข้าใจว่าเจ้าหน้าที่ทหารไม่สามารถเข้าไปทำการจับกุมได้ ตนจึงขอให้รัฐบาลทำการทบทวนนโยบายฟรีวีซ่า และขอให้มีการจัดโซนนิ่งโดยเฉพาะพื้นที่ชายแดน ซึ่งชาวต่างชาติที่จะมาในพื้นที่ดังกล่าวจะต้องแจ้งถึงวัตถุประสงค์ในการมา และให้พิจารณาเป็นราย
ส่วนข้อกังวลที่ 2 คือประเด็นเรื่องท่าข้าม เพราะข้อมูลทางการทหารรายงานว่า จุดท่าข้ามยังทีการลักลอบขนคน และส่งน้ำมันหลังเวลา 18.00น.
นายรังสิมันต์ กล่าวอีกว่า การแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมด้วยการออกหมายจับ พล.ต.หม่อง ชิตตู่ ผู้นำกองกำลังพิทักษ์ชายแดน รัฐกะเหรี่ยง หรือ BGF ซึ่งถือเป็นบุคคลสำคัญในการควบคุมเมียวดี และชเวก๊กโก และส่วนตัวเชื่อมีตัวเลขของคนที่เกี่ยวข้องกับสแกมเมอร์ในชเวก๊กโก มีประมาณหลักแสนคน ซึ่งยังไม่รวมกลุ่มเล็กๆ น้อยๆ ที่เกี่ยวข้องอีกจำนวนมาก และตอนนี้ตนได้ข้อมูลว่ามีความพยายามนำนายทุนรายใหญ่ หลบหนีไปอยู่ที่เมืองพะอัน ดังนั้น การปราบปรามจะต้องเพิ่มมิติในการทำงาน เช่นการพูดคุยในหลายฝ่าย เพราะการพูดคุยกับทางการเมียนมา อาจะยังไม่เพียงพอ
ส่วนกรณีทางการไทยออกมาแถลงว่า เหยื่อขบวนการค้ามนุษย์ที่เป็นชาวต่างชาติ และรับได้รับการช่วยเหลือมาแล้ว 260คน มีเพียงแค่ 1 คนที่ถูกหลอก ที่เหลือสมัครใจมานั้น นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ตนยังไม่อยากสรุปตอนนี้เพราะกระบวนการคัดกรองมี 2ชั้นซึ่งการคัดกรองขั้นใน ทางการไทยไม่ได้เป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งเราไม่มีทางรู้ได้เลยในรายละเอียดการคัดกรองว่าเป็นอย่างไร เพราะเท่าที่สังเกต ก็พบเห็นข้อจำกัดเรื่องภาษา เนื่องจากภาษาอังกฤษ และจีนคงไม่เพียงพอ ต้องมีภาษาอื่นๆเข้ามาด้วย รวมถึงข้อจำกัดเรื่องสถานทูต เพราะเหยื่อยางประเทศก็ไม่มีสถานทูตในประเทศไทย ซึ่งสถานการณ์ตอนนี้ ต้องใช้บุคลากรในการคัดกรองหลักหมื่นคน ซึ่งตนจึงมองว่า รัฐบาลไทยต้องให้ความสำคัญกับการคัดกรอง ให้มีประสิทธิภาพ จึงจะได้เห็นว่าใครเป็นตัวการใหญ่ และคนที่เกี่ยวข้องกับขบวนการที่จะนำไปสู่การทลายกลุ่มขบวนการแบบถอดรากถอนโคนได้
ส่วนการที่ทางการจีน ส่งรายชื่อของตัวขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้กับทางการไทย 3700คนไปคัดแยกออกจากเหยื่อนั้น จะเป็นการช่วยแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนได้หรือไม่นั้น นายรังสิมันต์ ระบุว่า เป็นเพียงบรรเทาทุเลาเบาบาง ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ทั้งหมด ถ้าหากทำได้คงทำไปนานแล้ว แต่ข้อมูลทางการจีนนั้นมีความสำคัญแน่นอนแต่ไม่สามารถจัดการได้ทั้งหมด ยกตัวอย่าง ตึกเคเคปาร์ค มีตัวการสำคัญคือ หวัน ค็อกคอย ซึ่งเป็นมาเฟียระดับโลกเป็นที่ต้องการตัวของหลายประเทศ ซึ่งการจะไปจับกุม ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ส่วนที่ชเวก๊กโก ก็มี พล.ต.หม่อง ชิตตู่ ที่อยู่ในฐานะผู้ร่วมลงทุน ถือเป็นอาชญากรรายสำคัญ การสอบสวนจึงต้องมีการขยายผลไปยังบุคคลอีกหลายกลุ่ม เพื่อนำไปสู่การถอนรากถอนโคนอย่างแท้จริง
กรณีที่กองกำลัง BGF พยายามกวาดล้างและคืนเหยื่อคอลเซ็นเตอร์ถือเป็นการจัดฉากหรือไม่นั้น นายรังสิมันต์ กล่าวว่า เป็นได้ทั้งหน้าฉากและการเอาจริง พร้อมตั้งคำถามกลับว่า “ถ้าหากจะเอาจริงทำไมพึ่งมาทำตอนนี้ ซึ่งถ้าหากพบว่ามีการกระทำความผิดกฎหมายไทย ทั้งอัยการและดีเอสไอ หากไม่สามารถออกหมายจับได้จะต้องมีคนรับผิดชอบ เราไม่ควรปล่อยให้อาชญากรทำการละเมิดกฎหมายไทยไม่ว่าจะในหรือนอกประเทศก็ตาม”
นายรังสิมันต์ กล่าวถึงการที่ทางการไทยแถลงถือเป็นการซูเอี๋ยกันในการจัดลำดับการค้ามนุษย์หรือไม่ว่า ตนกังวลเรื่องการซูเอี๋ย ระหว่างกองกำลัง BGF และฝ่ายไทย ส่วนเรื่องของขั้นตอนกลไกการส่งต่อระดับชาติหรือ NRM ตนจะมีการหารือกับสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเพิ่มความเข้มข้นให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อคัดกรองว่าใครเป็นส่วนหนึ่งของขบวนการคอลเซ็นเตอร์ แต่ตอนนี้ไม่ควรจะรีบสรุปว่าใครคืออาชญากร ซึ่งจะต้องทำกระบวนการคัดกรองให้มีประสิทธิภาพจริงๆ ก่อน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ต่ออายุตัดไฟ-เน็ตปราบแก๊งคอลฯ
"นายกฯ อิ๊งค์" เข้า ทบ.ครั้งแรก ถกด่วนปัญหายาเสพติด-คอลเซ็นเตอร์ ยันนายกฯ กัมพูชาพร้อมร่วมมือไทยปราบคอลเซ็นเตอร์ 100%
'นายกฯอิ๊งค์' เข้า ทบ. ครั้งแรก! ถกปราบยาเสพติด-แก๊งคอลเซ็นเตอร์
'นายกฯอิ๊งค์' เข้า ทบ. ครั้งแรก ถกด่วนปัญหายาเสพติด-คอลเซ็นเตอร์ โวยาบ้าลดลงมาก เหตุจับได้เยอะ ยัน ’กัมพูชา‘ พร้อมร่วมมือไทยปราบแก๊งคอล 100% ปัดตอบโยงสัมพันธ์ ‘ทักษิณ -ฮุนเซน’
ชายแดนระอุ! ทหารเมียนมา ถล่มหนักในพื้นที่กลุ่มต่อต้าน เสียชีวิต 2 ราย
รายงานข่าวจากหน่วยเฉพาะกิจราชมนู กองกำลังนเรศวร (ฉก.ราชมนู กกล.ราชมนู) เปิดเผยว่า ช่วงเย็นวานนี้ (19 มี.ค.) ทหารเมียนมา จาก กองพลทหารราบที่ 55 (พล.ร.เบา 55) นำกำลังบุกโจมตี กองกำลังกลุ่มต่อต้านรัฐบาลทหารเมียนมา
กวาดล้างไทยเทา ภัยความมั่นคงชายแดนไทย-เมียนมา ตรวจยึดถนนเถื่อนขนสิ่งผิดกฎหมาย
กองทัพภาค 4 ประชุมคณะทำงานชุดเฉพาะกิจ กวาดล้างแก๊งไทยเทา ภัยความมั่นคง ปิดซีลชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน จ.ชุมพร - ระนอง ตรวจยึดทำลายถนนด่านเถื่อนต่อเชื่อมขนสิ่งผิดกฎหมาย ค้ามนุษย์ เข้าในราชอาณาจักร จ่อดำเนินคดีหัวโจ๊กกว่า 10 ราย
ยุโรปประณามส่งอุยกูร์ ปชน.โวยพาสื่อไปพีอาร์
"พรรคส้ม" อัดรัฐบาลพาสื่อติดตาม 'ชาวอุยกูร์' ที่จีนไม่โปร่งใส "โรม" ห่วงไม่มีความอิสระ แนะต้องดูทั้ง 100 ชีวิตที่ส่งกลับสมัย คสช.ด้วย เตือน ขรก.อาจซวยเหตุคำสั่งผู้นำไม่รอบคอบ
ชงพื้นที่พิเศษในจว.ตาก คุมเข้มแก๊งคอลเซ็นเตอร์
จ่อชง สมช.ประกาศพื้นที่พิเศษในจังหวัดตาก แก้ปัญหาคอลเซ็นเตอร์ อิงรูปแบบคุมเข้มช่วงโควิด-19 หลังพบข้อมูลมีคนเข้าพื้นที่เพิ่มเติม เร่งปรับมาตรการส่งกลับเหยื่อคอลเซ็นเตอร์หลักหมื่นให้เร็วขึ้น