'โฆษกเพื่อไทย' จวกกลับ 'สิระ' ขัดขวางผลประโยชน์ปชช. ปัดหาเสียงเกินจริง

"โฆษกเพื่อไทย" โต้ "สิระ" ร้อง กกต. สอบ "สุรชาติ" หาเสียงรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย จวกกลับขัดขวางผลประโยชน์ประชาชน ปัดหาเสียงเกินจริง

27 ม.ค.2565 - ที่รัฐสภา นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม. และโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายสิระ เจนจาคะ อดีต ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ ยื่นหนังสือต่อ กกต.เอาผิดนายสุรชาติ เทียนทอง ผู้สมัคร ส.ส.เขต 9 กทม.พรรคเพื่อไทย ให้ตรวจสอบการหาเสียงค่ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายว่า เข้าข่ายผิด พ.ร.ป.ว่าด้วย ส.ส.มาตรา 73(5) หรือไม่ เพราะเห็นว่าการนำเอาเรื่องนี้ไปหาเสียง จะทำไม่ได้ เพราะแม้เป็น ส.ส. ก็ไม่สามารถยกเลิกสัมปทานหรือเปลี่ยนแปลงข้อสัญญาที่ทำไว้กับเอกชนได้ และรัฐยังต้องชดเชยส่วนต่างว่า เรื่องนี้อยากให้นายสิระเข้าใจว่า สิ่งที่พรรคเพื่อไทยได้สื่อสารกับพี่น้องประชาชนในเรื่องดังกล่าว เป็นนโยบายที่ได้ประกาศหาเสียงตั้งแต่ปี 2544 สมัยพรรคไทยรักไทย รวมทั้งการเลือกตั้งปี 2550 โดยพรรคพลังประชาชน จนมาถึงการเลือกตั้งในปี 2562 เป็นหนึ่งในนโยบายที่พรรคเพื่อไทยได้ประกาศหาเสียง

น.ส.ธีรรัตน์ กล่าวว่ายืนยันว่านโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายทำได้จริง เนื่องจากก่อนการประกาศหาเสียงด้วยนโยบายนี้ พรรคได้หารือแนวทางและวิธีการร่วมกันกับหลายหน่วยงานมาอย่างรอบด้าน ทั้งจากสถาบันวิจัยเพื่อพัฒนาประเทศไทย (TDRI) กระทรวงคมนาคม และกระทรวงการคลัง ในการเตรียมความพร้อมทางด้านการคลัง รวมทั้งบริหารและการจัดเก็บรายได้ โดยได้แนวทางร่วมกันว่า หากมีการเพิ่มเส้นทางการเดินรถไปยังเส้นทางอื่นๆ ให้ครอบคลุมประชากรในหลากหลายพื้นที่มากขึ้น โดยผู้ลงทุนระบบรางคือรัฐ เพื่อให้รัฐเป็นเจ้าของและสามารถบริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐานได้ ส่วนเอกชนลงทุนระบบรถไฟฟ้าโดยรัฐให้สัมปทาน ซึ่งต้องมีการกำหนดระยะเวลาสัมปทานและราคาค่าโดยสารรถไฟฟ้าที่ชัดเจน รวมกับการซ่อมบำรุงระบบ ส่วนที่เป็นค่าจ่ายจะอยู่ที่ค่าสาธารณูปโภค (ค่าน้ำ ค่าไฟ) และค่าบุคลากรเท่านั้น เมื่อมีการขยายเส้นทางการเดินรถมากขึ้น ผู้โดยสารจะเข้ามาใช้บริการมากขึ้น จากนั้นค่าโดยสารรถไฟฟ้าจะถูกลง หากเทียบกับต่างประเทศ เช่น สิงคโปร์ ค่าโดยสารรถไฟฟ้าเฉลี่ยอยู่ที่ 24 บาท ฮ่องกงอยู่ที่ 27 บาท แต่ของประเทศไทยค่าโดยสารอยู่ที่ 16-45 บาท ซึ่งทำให้ประชาชนเข้าถึงรถไฟฟ้าได้ในจำนวนจำกัด

โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวอีกว่า พรรคเพื่อไทยมีการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ ทุกเรื่องที่ประกาศเป็นนโยบายได้ผ่านการพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญมาแล้ว แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับรถไฟฟ้าของไทยตอนนี้มีคู่สัญญาจำนวนมาก ทั้งวิธีการบริหารและการจัดการค่าแรกเข้า เป็นเพราะการทำงานหลายส่วนไม่เชื่อมโยงกัน สิ่งที่นายสิระทำ คือการขัดขวางสิ่งที่เป็นผลประโยชน์ของประชาชน อยากเรียนนายสิระให้เข้าใจบทบาทของ ส.ส. อยากเห็นการเมืองสร้างสรรค์ การเมืองที่ต้องทำเพื่อพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง เพื่อจะได้เปิดทางให้คนรุ่นใหม่เข้ามาทำการเมืองอย่างสร้างสรรค์ในอนาคต นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท เป็นนโยบายที่ไม่ยาก แต่นายสิระคิดไม่ออก นโยบายหลายอย่างที่ว่ายาก เราทำมาแล้วเพราะเราหาเงินเป็น รู้ว่าจะหารายได้ด้วยวิธีการใด ยืนยันว่านายสุรชาติ ไม่ได้หาเสียงเกินจริง ทุกเรื่องผ่านมติของกรรมการบริหารของพรรคเพื่อไทย และยืนอยู่บนหลักการที่อยากจะทำให้พี่น้องประชาชนได้ประโยชน์มากที่สุด

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ภูมิใจไทย เฮ! รอดคดียุบพรรค

นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พร้อมด้วย พ.ต.ท. ระพีพงษ์ จิรพัฒนาลักษณ์ รองเลขาธิการ กกต. , น.ส.โชติกา แก้วผล ผู้อำนวยการ กกต.ประจำจังหวัดปราจีนบุรี และคณะ ร่วมสังเกตการณ์การรับสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภา อบจ.ปราจีนบุรีและนายก อบจ.จังหวัดปราจีนบุรี ณ องค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี

เลขาฯกกต. ตรวจหน่วยรับสมัคร อบจ.ปราจีนบุรี อุบตอบปมสอบเงิน 20 ล้าน

นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พร้อมด้วย พ.ต.ท. ระพีพงษ์ จิรพัฒนาลักษณ์ รองเลขาธิการ กกต. , น.ส.โชติกา แก้วผล ผู้อำนวยการ กกต.ประจำจังหวัดปราจีนบุรี และคณะ ร่วมสังเกตการณ์การรับสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภา อบจ.ปราจีนบุรีและนายก อบจ.จังหวัดปราจีนบุรี ณ องค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี

‘ชวน’ ร่อนหนังสือถึงผู้ตรวจฯ-กกต.แก้ปมผู้บริหารท้องถิ่นลาออกก่อนครบวาระ

นายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่าตนพร้อมด้วยนายบัญญัติ บรรทัดฐาน  และนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ได้ทำหนังสือถึงประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เรื่องการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด และนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)

กกต. เตือนข้อพึงระวังหาเสียงและยื่นบัญชีค่าใช้จ่ายเลือกตั้ง อบจ.

สำนักงานคณะกรรมการ​การ​เลือกตั้ง​ (กกต.) ออกเอกสารประชาสัมพันธ์ข้อพึงระวังในการหาเสียง การรายงานค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเลือกตั้ง เพื่อให้

กมธ.คุ้มครองผู้บริโภครับลูกเร่งผลักดัน 3 กม.ของภาคประชาชน

'กมธ.คุ้มครองผู้บริโภค' รับหนังสือแก้ไขกฎหมาย 3 ฉบับ เร่งสภาผลักดัน แก้ปัญหาสินค้าไม่ตรงปก - ติดฉลาก -ให้ข้อมูลโภชนาการไม่สมบูรณ์