ปธ.วันนอร์ เดินหน้าถก 2 ญัตติ 13-14 ก.พ.นี้ รอชี้ขาดชั้นรับหลักการ หากฉลุยค่อยส่ง กกต. ทำประชามติถามประชาชน จะยอมให้รื้อทั้งฉบับหรือไม่ แต่หากเสียง สว. ค้านเกิน 1 ใน 3 ต้องตกไปโดยอัตโนมัติ ดักคอ จะได้ไม่ต้องเสียเงินทำประชามติ 3 พันล้านต่อครั้ง
10 ก.พ.2568 - ที่รัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงข้อกังวลในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่อาจมีผู้ไปยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่ารัฐสภาสามารถแก้ไขรัฐธรรมนูญได้เลยหรือไม่ หรือจะต้องทำประชามติก่อน ว่า ขณะนี้ตนได้รับญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2 ญัตติ คือ 1.ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน และคณะ และ2.ร่างฯของนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และคณะ ซึ่งเป็นของพรรคร่วมรัฐบาล จากการที่ได้หารือกับวิป 3 ฝ่าย และผู้แทนคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 8 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้ข้อสรุปบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ในวันที่ 13-14 ก.พ.นี้
โดยวางกรอบเวลาพิจารณาทั้งสิ้น 19 ชั่วโมง ส่วนข้อกังวลดังกล่าว เป็นเรื่องของความเห็น ตนไม่ทราบว่าจะส่งให้ศาลฯตีความในประเด็นใด มาจากกลุ่มไหน หากมาจากสมาชิกรัฐสภาจะต้องมีผู้เข้าชื่อไม่น้อยกว่า 40 คน และประธานรัฐสภาต้องหารือในที่ประชุมร่วมของรัฐสภา ว่าจะมีผู้เห็นด้วยให้ประธานฯส่งไปให้ศาลฯตีความหรือไม่ หากเสียงข้างมากเห็นว่าควรส่ง ประธานฯก็จะดำเนินการส่งไปยังศาลฯ
เมื่อถามว่า ควรจะมีขั้นตอนนี้หรือไม่เพื่อให้เกิดความสบายใจและเดินหน้าต่อ หรือต้องรอให้สส.ส่งเรื่องมา นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบความเห็นแต่ละฝ่าย อาจจะไม่เหมือนกัน แต่ความเห็นของประธานรัฐสภาเห็นว่าควรจะบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระ และมีการพิจารณาในที่ประชุมฯ เพราะก่อนหน้านี้ได้นำเอาญัตติทั้ง 2 ไปหารือในที่ประชุมของที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายของประธานสภาฯแล้ว เสียงข้างมากเห็นว่าบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระเพื่อพิจารณาได้
ขณะเดียวกันระยะเวลาที่ผ่านมา มีข้อมูลเพิ่มเติมว่าควรจะบรรจุ ซึ่งตนได้ชี้แจงในที่ประชุมวิป 3 ฝ่ายไปแล้วถึงเหตุผลที่ตัดสินใจแบบนี้ ส่วนการที่จะบอกว่าให้ไปทำประชามติเสียก่อนถึงจะบรรจุการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับได้ ในคำวินิจฉัยของศาลฯ เขาใช้คำว่าถ้าสภาฯต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับให้ไปถามประชาชนก่อน ดังนั้นคำว่าสภาฯมีความต้องการจะแก้ ก็ต้องตีความสภาฯหมายถึงอะไร ก็ต้องหมายความว่าที่ประชุมของรัฐสภาเสียงข้างมาก ซึ่งต้องบรรจุ แต่ถ้าเสนอกฎหมายรัฐธรรมนูญมาอย่างเดียว ก็เป็นความต้องการของพรรคการเมือง หรือประชาชน เรายังไม่ทราบว่ารัฐสภาต้องการจะแก้หรือไม่
"ผมใช้การวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญตีความ เพราะส่งให้ศาลฯ ศาลฯบอกว่าเรื่องยังไม่เกิด อำนาจการบรรจุญัตติเป็นอำนาจของประธานรัฐสภา เรื่องยังไม่บรรจุ จะไปถามศาลฯทำไม นอกจากนี้ยังถามศาลฯไปควรทำประชามติ 2 หรือ 3 ครั้ง ศาลฯบอกให้วินิจฉัยเอาเอง ดังนั้นผมจึงตีความว่า การที่จะให้รัฐสภาแก้รัฐธรรมนูญ ก็ต้องถามมติจากรัฐสภา
ดังนั้นต้องมีการประชุม ถ้าวาระแรกในชั้นรับหลักการต้องมีเสียงข้างมากเห็นชอบมากกว่า 1 ใน 3 แล้วฝ่ายวุฒิสภาก็ต้องมีผู้ที่ไม่เห็นด้วยเสียงก็ต้องเกิน 1 ใน 3 คือ 67 คนขึ้นไป หากคนไม่เห็นด้วยเกินกว่า 1 ใน 3 ถือว่าญัตติก็ต้องตกไปในวาระแรก ก็ไม่ต้องไปถามประชามติจากประชาชนแล้ว
แต่หากวาระแรกผ่าน แสดงว่าต้องการแล้ว ผมก็หยุดกระบวนการของรัฐสภา แล้วนำความต้องการไปให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ทำประชามติต่อประชาชนว่าจะเห็นชอบกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับหรือไม่ ในมาตรา 256 และหมวด 15/1 ถ้าประชาชนเห็นด้วยก็เดินหน้าต่อ แต่หากไม่เห็นด้วย ก็ยุติทั้งหมด จะได้ไม่ต้องเสียเงินทำประชามติหลายรอบ การทำประชามติครั้งหนึ่งใช้เงิน 3 พันล้านบาท เพราะถ้าหากเราถามประชาชนก่อน ประชาชนบอกเห็นด้วย แต่มาประชุมรัฐสภา รัฐสภาบอกไม่เอาด้วย ก็เสียเงินไป3พันล้านเปล่าๆที่เอาไปทำอะไรได้ตั้งเยอะ” ประธานรัฐสภา กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ตีตกแก้กฎหมาย‘ป.ป.ช.’ วิโรจน์ฉุนพท.ทรยศแดง
รัฐสภามีมติข้างมาก 415 เสียง ตีตก “ร่าง กฎหมาย ป.ป.ช.” โอนคดีทุจริตและประพฤติมิชอบของทหารไปศาลอาญาคดีทุจริตฯ
รัฐสภา มีมติ 304 เสียง เห็นชอบส่ง 'ศาลรัฐธรรมนูญ' ตีความแก้รธน.
ที่ประชุมรัฐสภามีมติเสียงข้างมากเห็นชอบ จากจำนวนสมาชิกที่แสดงตนทั้งหมด 579 คน เห็นชอบ 304 เสียง
'วิโรจน์' ซัดสภาเป็นโรงลิเก หลอกต้มประชาชน ส่งศาลตีความเตะถ่วงแก้รธน.
นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ อภิปรายว่า วันนี้ต้องเล่าเรื่องเก่าให้เห็นเส้นเรื่องว่า การยื้อแก้รัฐธรรมนูญนั้น ไม่เกิดประโยชน์ ถ้าเราจำกันได้ หลังรัฐประหาร ปี 2557 สส.จำนวนมากมายหลายพรรคมีท่าทีแก้ไขรัฐธรรมนูญผ่านกลไกของสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.)
มีประธานสภาฯไว้ทำไม? ‘เทพไท’ ข้องใจให้ฝ่ายค้านใช้ ‘สทร.’ ในญัตติ ยันเอ่ยชื่อ ‘ทักษิณ’ ได้
อยากให้นายวันมูหะมัดนอร์ ในฐานะประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่ต้องวางตัวเป็นกลาง ได้ไกล่เกลี่ยและตัดสินใจกำหนดวันอภิปรายที่เหมาะสม
'ภท.' เอาด้วยส่งศาลตีความประชามติ ชี้คนละเรื่องกับรอบก่อน
'โฆษกภท.' เผยมติพรรค หนุนญัตติส่งศาล รธน.ตีความ แก้ รธน.ก่อนประชามติ บอกไม่ย้อนแย้งรอบที่แล้ว เหตุเป็นคนละประเด็น
'เปรมศักดิ์' เดินหน้าเสนอญัติติส่งศาลรธน. เชื่อมีเจตนาเดียวกับพท.
"เปรมศักดิ์” เดินหน้าต่อ ลุยเสนอญัตติส่ง ศาลรธน. เชื่อองค์ประชุมไม่ล่มซ้ำรอยเดิม หวังว่าทุกฝ่ายจะดำเนินการตามข้อเสนอเชื่อมีเจตนาเดียวกับเพื่อไทย