สว.พันธุ์ใหม่' เรียกร้อง 'สว.' ร่วมโหวตวาระแรก 'แก้ รธน.' มอง หากเสียงไม่ถึง คงไม่ต่างจากชุด คสช. จี้ 'นายกฯ' แสดงจุดยืนสนับสนุน ย้ำ เป็นไปตามระบบนิติบัญญัติ เหตุ 'ปธ.สภา' บรรจุลงระเบียบวาระแล้ว
10 ก.พ. 2568 - ที่รัฐสภา กลุ่ม สว.พันธุ์ใหม่ นำโดย นางสาวนันทนา นันทวโรภาส สมาชิกวุฒิสภา (สว.) กล่าวถึงประชุมร่วมกันของรัฐสภา วาระพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขมาตรา 256 และเพิ่มหมวด 15/1 เพื่อเปิดทางให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ในวันที่ 13-14 ก.พ.นี้ ว่า เป็นครั้งแรกที่ประธานรัฐสภาได้บรรจุลงระเบียบวาระ ซึ่งเป็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญตามกระบวนการที่ถูกต้อง และเป็นที่สนใจของสังคมทั่วไป
โดยกลุ่ม สว.พันธุ์ใหม่ มองว่า เราเห็นด้วยกับการทำประชามติ 2 ครั้ง คือครั้งแรก ภายหลังการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 โดยให้ประชาชนลงมติว่าเห็นด้วยกับวิธีการที่จะได้มาซึ่งสมาขิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) หรือไม่ และเมื่อ สสร.ร่างเสร็จเรียบร้อย จึงจัดประชามติครั้งที่ 2 เพื่อถามประชาชนว่ารับร่างรัฐธรรมนูญหรือไม่ ย้ำว่า การทำประชามติ 2 ครั้ง จะทำให้เราได้รัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยมาจากประชาชน และไม่สิ้นเปลืองประมาณจนเกินไป
กลุ่ม สว.พันธุ์ใหม่ ย้ำว่า เห็นด้วยกับการลดอำนาจของ สว.ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีที่มาจากการเลือกกันเอง แตกต่างจาก สส. ที่มาจากการเลือกการเลือกตั้งของประชาชน ดังนั้น จึงควรให้น้ำหนักหลักอยู่ที่ สส.
กลุ่ม สว.พันธุ์ใหม่ ยังกล่าวถึงกรณีที่ สว.ตกเป็นจำเลยของสังคม เพราะการที่แก้รัฐธรรมนูญได้นั้น ต้องใช้เสียง สว.ไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 และหาก สว.ไม่ยอมโหวตให้ การแก้รัฐธรรมนูญก็จะไม่เกิดขึ้น ซึ่งสังคมก็จะมองไม่ต่างอะไรจาก สว. 250 คน ที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ตั้งขึ้นมา แล้ว สว.ชุดนี้ จะหวงอำนาจไว้กับตัวเองเพื่ออะไร
"เราจึงอยากเชิญชวน สว. ที่มีจิตวิญญาณประชาธิปไตย มาร่วมโหวต เพื่อผ่านการแก้ไขรัฐธรรมนูญไปด้วยกัน ให้เราได้กติกาตามประชาธิปไตย ได้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่มาจากประชาชน และเป็นของประชาชนอย่างแท้จริง"
กลุ่ม สว.พันธุ์ใหม่ ยังเรียกร้องให้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ออกมาแสดงจุดยืนสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญในครั้งนี้ เนื่องจากในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีเองก็เคยพูดว่า ต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เป็นมรดกของ คสช. รวมถึงประชาชนทุกท่านที่รู้สึกได้รับผลกระทบจากรัฐธรรมนูญฉบับนี้ และไม่พอใจการทำงานขององค์กรอิสระ ที่ไม่ยึดโยงกับประชาชน
ส่วนข้อเสนอให้มีการยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญ ตีความตามมาตรา 210 นั้น กลุ่ม สว.พันธุ์ใหม่ ยืนยันว่า การบรรจุลงระเบียบวาระ เป็นการปฏิบัติตามกระบวนการนิติบัญญัติที่ถูกต้อง ไม่มีอะไรที่ผิดปกติ และไม่มีอะไรที่ทำให้การกระทำตรงนี้ไม่ถูกต้อง เพราะหากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง ประธานรัฐสภาคงไม่บรรจุลงระเบียบวาระ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มติวุฒิสภาไม่รับญัตติ 'สว.พันธุ์ใหม่' เดินหน้าโหวต 'สิริพรรณ-ชาตรี'
ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา ที่มี พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภาคนที่หนึ่ง เป็นประธานการประชุม เข้าสู่วาระการพิจารณาให้ความเห็นช
ตีตกแก้กฎหมาย‘ป.ป.ช.’ วิโรจน์ฉุนพท.ทรยศแดง
รัฐสภามีมติข้างมาก 415 เสียง ตีตก “ร่าง กฎหมาย ป.ป.ช.” โอนคดีทุจริตและประพฤติมิชอบของทหารไปศาลอาญาคดีทุจริตฯ
รัฐสภา มีมติ 304 เสียง เห็นชอบส่ง 'ศาลรัฐธรรมนูญ' ตีความแก้รธน.
ที่ประชุมรัฐสภามีมติเสียงข้างมากเห็นชอบ จากจำนวนสมาชิกที่แสดงตนทั้งหมด 579 คน เห็นชอบ 304 เสียง
'วิโรจน์' ซัดสภาเป็นโรงลิเก หลอกต้มประชาชน ส่งศาลตีความเตะถ่วงแก้รธน.
นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ อภิปรายว่า วันนี้ต้องเล่าเรื่องเก่าให้เห็นเส้นเรื่องว่า การยื้อแก้รัฐธรรมนูญนั้น ไม่เกิดประโยชน์ ถ้าเราจำกันได้ หลังรัฐประหาร ปี 2557 สส.จำนวนมากมายหลายพรรคมีท่าทีแก้ไขรัฐธรรมนูญผ่านกลไกของสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.)
เปิดผลโหวต รัฐสภาตีตกร่างกฎหมาย ป.ป.ช. โอนคดีทุจริตกองทัพไปศาลพลเรือน
ผู้สื่อข่าวรายงานผลการลงมติที่ประชุมรัฐสภา มีมติเสียงข้างมาก 415 เสียง ตีตกร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ฉบับที่. ... พ.ศ. ...) ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว
'ภท.' เอาด้วยส่งศาลตีความประชามติ ชี้คนละเรื่องกับรอบก่อน
'โฆษกภท.' เผยมติพรรค หนุนญัตติส่งศาล รธน.ตีความ แก้ รธน.ก่อนประชามติ บอกไม่ย้อนแย้งรอบที่แล้ว เหตุเป็นคนละประเด็น