'ณัฐพงษ์' นำ 'พรรคร่วมฝ่ายค้าน' แถลงหลังประชุม ยัน ยื่นซักฟอก ก.พ.นี้แน่ บอกอยากได้ เวลา 5 วัน อุบประเด็นอภิปราย-เด็ดหัวใครบ้าง หวั่น ชิงปรับ ครม.หนี ชี้ 'ทักษิณ' เป็นแค่เรื่องหนึ่ง ย้ำความสำคัญ เพื่อตีแผ่ให้ ปชช.รู้ ไม่ว่า รมต.จะหลุดเก้าอี้หรือไม่
7 ก.พ.2568 - ที่ทำการพรรคไทยสร้างไทย พรรคร่วมฝ่ายค้าน นำโดย นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร แถลงภายหลังการประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้าน ว่า ตนอยากยืนยันในหลักการการทำงานร่วมกันของฝ่ายค้าน ก่อนที่จะมีเนื้อหาในรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เนื่องจากการยื่นญัตติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151
ในการทำงานของพรรคร่วมฝ่ายค้าน พวกเรายึดมั่นเคารพหลักการอุดมการณ์ของแต่ละพรรคที่แตกต่างกันได้ แต่แน่นอนที่สุด ความเป็นพรรคร่วมฝ่ายค้านแตกต่างกับการทำงานของพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งจุดนี้สิ่งที่พวกเราทำในกลไกการทำงานร่วมกัน คือการทำงานผ่านกลไกคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) เพื่อตรวจสอบถ่วงดุลรัฐบาล
สำหรับความชัดเจนภายหลังการประชุม คือกรอบเวลาในการยื่นญัตติต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรที่ชัดเจนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คาดว่าภายในปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้แน่นอน ซึ่งวันที่คิดว่ามีความเหมาะสม และเป็นวันสุดท้ายของการยื่นญัตติ คือวันที่ 27 กุมภาพันธ์นี้ เนื่องจากเป็นวันประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันพฤหัสบดีสุดท้ายของเดือน
นอกจากนั้น ขณะนี้มีการตกลงกันถึงเนื้อหา ในการอภิปรายแล้ว เนื่องจากแต่ละพรรคมีเนื้อหาที่มีความเข้มข้น ซึ่งพวกเราเองจะให้นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒนสกุล สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน เป็นผู้ประสานงานเจรจาเบื้องต้นกับฝ่ายรัฐบาล ว่า อยากจะขอเวลาในการอภิปรายไม่ไว้วางใจไว้ที่ 5 วัน ซึ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่า รัฐบาลเองไม่น่าจะปิดกั้นการตรวจสอบถ่วงดุลจากพรรคฝ่ายค้าน เพื่อเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน
ในช่วงเวลาครึ่งเทอมที่ผ่านมาของการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลชุดนี้ ต้องยอมรับข้อเท็จจริงว่า ไม่ใช่เฉพาะรัฐบาลของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพียงเท่านั้น แต่เป็นการบริหารราชการแผ่นดินที่ต่อเนื่องตั้งแต่ รัฐบาลของพรรคเพื่อไทย
การประชุมเมื่อสักครู่ มีหลายประเด็นที่เราได้หารือร่วมกันแล้วพบว่า รัฐบาลชุดนี้บริหารราชการแผ่นดิน ขาดประสิทธิภาพ ปล่อยปละละเลย ปัญหาสังคมในหลายเรื่อง รวมถึง ประเด็นที่ส่อเค้าจะมีผลประโยชน์ทับซ้อน การบริหารราชการแผ่นดินที่ไม่ได้เป็นไปตามธรรมาธิบาลของระบอบประชาธิปไตย ที่ผู้มีอำนาจในรัฐบาลควรจะต้องถูกตรวจสอบถ่วงดุล และชี้แจงได้ในระบบรัฐสภา แต่ส่วนในรายละเอียด การอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตนอาจจะยังเปิดเผยมากไม่ได้
สำหรับการทำงานร่วมกันของพรรคร่วมฝ่ายค้านต่อจากนี้ พวกเราคิดว่าหากมีประเด็นเนื้อหาใดที่ประชาชนรวมถึงส่วนราชการ มีข้อมูลเกี่ยวข้องกับการทุจริตคอร์รัปชันภายในรัฐบาล เราก็พร้อมเปิดกว้าง และสามารถส่งมาให้พรรคร่วมฝ่ายค้านได้ทุกพรรค
ส่วนเวลาในอภิปรายเบื้องต้นคิดว่าอย่างน้อยต้องใช้เวลา 5 วัน และมองว่ารัฐบาลเอง ควรเปิดกว้างให้พรรคฝ่ายค้าน ตรวจสอบถ่วงดุลอย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตาม คงต้องให้วิปฝ่ายค้านไปเจรจาเพิ่มเติม
ส่วนการพูดคุยกันของฝ่ายค้านด้วยกันเอง มีเพียงกรอบเนื้อหา ส่วนกรอบระยะเวลา ยังคงต้องรอความชัดเจนจากฝั่งรัฐบาล ว่ามีการตกลงกันที่เวลาเท่าไหร่ แล้วจึงสามารถลงรายละเอียด ถึงกรอบระยะเวลา ที่แต่ละพรรคฝ่ายค้านจะได้รับได้
เมื่อถามถึงกรณีที่หลายคนประเมินว่าิจะมีการพุ่งเป้าไปที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งสำหรับการอภิปรายในครั้งนี้ ซึ่งต้องรอติดตาม ตนเย็นยันว่า หากมีข้อมูลที่สามารถพุ่งเป้าไปที่รัฐมนตรีท่านใดก็ตามที่เราเห็นแล้วว่า เข้าข่ายทุจริต หรือมีผลประโยชน์ทับซ้อน เราก็สามารถอภิปรายได้
เมื่อถามว่า เป้าหมายสูงสุดในครั้งนี้คือการล้มรัฐมนตรีใช่หรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ตนเชื่อว่าสามารถนำไปสู่จุดนั้นได้ แต่หากถามว่าเป้าหมายสูงสุดคืออะไร ก็คือการตีแผ่ความจริงให้ประชาชนเห็น ว่าการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลชุดนี้ ขาดความชอบธรรมอย่างไร รวมถึงหลายๆ กรณีที่เราเห็นตามหน้าข่าว ก็อาจจะเห็นความขาดความเป็นเอกภาพของพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งสะท้อนมาถึงการบริหารราชการแผ่นดิน ที่ทำให้ปัญหาของประชาชนไม่ได้รับการแก้ไขด้วย
เมื่อถามว่า เหตุใดจึงต้องเจาะจงอภิปรายในช่วงเวลานี้ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ตนเชื่อว่าช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่ช้าไปด้วยซ้ำ เพราะการบริหารของรัฐบาลชุดนี้ ไม่ใช่เฉพาะของนางสาวแพทองธารคนเดียวเท่านั้น แต่ว่าต่อเนื่องในรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย จริงๆ ตนก็คิดว่าอยากได้เร็วกว่านี้ แต่เนื่องจากว่าติดในเรื่องของวาระการประชุมพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 ซึ่งทำให้ญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจต้องถูกเลื่อนออกไป เพราะฉะนั้น กรอบระยะเวลาที่ได้ตกลงกันว่าอย่างช้าที่สุด ก็ต้องยื่นญัตติไปในสิ้นเดือนนี้ ซึ่งเป็นช่วงระยะเวลาที่เราคิดว่าเร็วที่สุดตามที่เราจะสามารถเร่งได้
เมื่อถามว่า หากรัฐบาลชิงปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก่อน จะมีการแก้เกมอย่างไร นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า การปรับ ครม. เป็นเรื่องของฝั่งรัฐบาล ซึ่งเรามั่นใจว่า ข้อมูลหลายอย่างที่เราได้อภิปรายในครั้งนี้ สามารถที่จะส่งผลสะเทือนให้กับฝั่งรัฐบาล ทำให้รัฐบาลขาดความเข้าเชื่อมั่นได้
ส่วนเนื้อหาในรายละเอียดการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เป็นเรื่องของแต่ละพรรคฝ่ายค้าน ที่จะต้องเตรียมข้อมูล การที่เราประชุมร่วมกัน เพื่อดูในภาพกว้างนะ แต่ในรายละเอียด อาจจะไม่ได้สามารถเปิดเผยได้ เพื่อป้องกันในเรื่องของการปรับ ครม.ล่วงหน้า หรือในระยะยาว และเพื่อไม่ให้ข้อมูลรั่วไหล่
เวทีนี้ สิ่งที่สำคัญคือการเปิดโปงและตีแผ่ความจริงให้พ่อแม่พี่น้องประชาชนเห็นมากกว่า และตนก็เชื่อมั่นว่า สิ่งที่เป็นประโยชน์ที่สุด คือการที่รัฐมนตรีที่ถูกตั้งคำถาม หรือแม้แต่กระทั่งตัวนายกรัฐมนตรีเองจะต้องเป็นผู้ตอบและชี้แจงในที่ประชุมสภาเอง ในคำถามที่มาจากพรรคร่วมฝ่ายค้าน ถ้ารัฐมนตรีสามารถตอบได้ ก็เป็นประโยชน์ต่อประชาชน
ส่วนจะมีการยื่นเป็นรายบุคคลหรือยื่นทั้งคณะนั้น นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ต้องดูในรายละเอียดที่แต่ละพรรคจะส่งมาก่อน ว่าจะยื่นทั้งคณะหรือยื่นเป็นรายบุคคล ตอนนี้สิ่งที่สำคัญก็คือเนื้อหาที่แต่ละพรรคจะยื่นมาให้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
จุลพงศ์-พรรคประชาชน เอ็กซ์เรย์ แผลอักเสบ นายกฯ ผิดจริยธรรม-นิติกรรมอำพราง
ถึงแม้ว่า"แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี"จะผ่านศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านไปได้ด้วยคะแนนเสียงโหวตไว้วางใจท่วมท้น 319 เสียง แต่ประเด็นข้อกล่าวของฝ่ายค้านที่ซักฟอกนายกฯกลางสภาฯ
ควันหลงซักฟอก 'อิ๊งค์' เสี่ยงขัดจริยธรรม ‘พรรคส้ม’ รุกฆาตหรือรอฮั้ว ‘พรรคแดง’
ภายหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรลงมติโหวตญัตติในการอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยคะแนนเสียงไว้วางใจ 319 ต่อ 162 เสียง
'สนธิญา' ยื่น กกต. สอบปม 'นายกฯอิ๊งค์-เท้ง' โต้กันนัวศึกซักฟอก คนนอกครอบงำพรรค
นายสนธิญา สวัสดี นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ยื่นหนังสือต่อกกต.เพื่อขอให้ตรวจสอบจากกรณีการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 -25 มี.ค.ที่ผ่านมา ที่มีการกล่าวหาซึ่งกันและกัน ระหว่างน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะหัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน
'ปชน.' สู้ต่อ! เปิดชื่อว่าที่ผู้สมัครชิง 'นายกเล็ก' 39 จังหวัด
'พรรคประชาชน' เปิดชื่อว่าที่ผู้สมัคร 'นายกเทศมนตรี' 39 จังหวัด 101 เทศบาล สู้สนามเลือกตั้งท้องถิ่น 11 พ.ค. นี้
กระทุ้ง 'วิโรจน์' ร้องศาลรธน. วินิจฉัย 'นายกฯอิ๊งค์' ส่อไม่ซื่อสัตย์ ปมตั๋วPN
นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม ประธานสถาบันสุจริตไทย และอดีตสมาชิกวุฒิสภา (สว.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ชื่นชมนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน
'วิโรจน์' บุกสรรพากร บี้วินิจฉัยทางการ 'อิ๊งค์' ใช้ตั๋วPN ส่อเลี่ยงภาษีหรือไม่ จ่อเรียกอธิบดีแจงกมธ.
'วิโรจน์' บุกกรมสรรพากร สอบ 'นายกฯ' ใช้ตั๋ว P/N ซื้อขายหุ้นทิพย์ จี้วินิจฉัยเป็นทางการ-ลายลักษณ์อักษร หวั่น ปชช.ทำตาม กระทบระบบจัดเก็บภาษีประเทศ จ่อให้ กมธ.เศรษฐกิจ เรียก 'อธิบดี' แจง