'สว.พิสิษฐ์' เตรียมจัดเวทีชำแหละร่างแก้รธน. หั่นเสียงวุฒิสภา ขัดปชต.-การถ่วงดุล

"สว.พิสิษฐ์" เตรียมจัดเวทีชำแหละร่างแก้รธน.ม.256 ซัดหั่นเสียงสว.1 ใน3ออก ส่อขัดระบบประชาธิปไตย-การถ่วงดุล จ่อไม่เห็นชอบ แนะผู้ยื่นร่างกลับไปอ่านคำวินิจฉัยศาลรธน. ที่ 4/2564 ให้ระเอียดรอบคอบก่อน

10 ม.ค.2568 - นายพิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ สว. ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา (วิปวุฒิสภา) กล่าวถึงการประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 และเพิ่มหมวดการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เลื่อนการพิจารณาไปเป็นวันที่ 13 - 14 ก.พ. เนื่องจากสว.ขอเวลาศึกษาเนื้อหาให้รอบคอบ ว่า ในขั้นตอนของวุฒิสภานั้น เตรียมจัดเวทีเสวนาเรื่องแก้รัฐธรรมนูญ ให้กับ สว.โดยจะเชิญนักวิชาการ นักกฎหมาย รวมถึงผู้ที่เคยยกร่างรัฐธรรมนูญมามาให้ความรู้และความเข้าใจกับสว. ซึ่งก่อนหน้านี้ได้จัดเวทีเพื่อให้ความรู้กับ สว.ต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาแล้วรอบหนึ่งเมื่อวันที่ 8 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา แต่เวทีที่จะเกิดขึ้นนี้จะเป็นการนำเนื้อหาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เสนอต่อรัฐสภา มาพิจารณา

เมื่อถามถึงความเห็นต่อสาระในร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 และเพิ่มหมวดใหม่ที่เสนอโดยพรรคประชาชนและพรรคเพื่อไทย นายพิสิษฐ์ กล่าวว่าความเห็นส่วนตัว ไม่เห็นด้วยที่มีเนื้อหาแก้ไขที่ตัดเสียงสว.จำนวน 1 ใน 3 ออกจากการเห็นชอบในชั้นรับหลักการและชั้นวาระสาม เพราะมองว่าขัดต่อหลักการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขที่ใช้ระบบสองสภา ที่ต้องถ่วงดุลกัน

“ในการพิจารณากฎหมายทั่วไป ในชั้นสส.ต้องใช้เสียงเกินกึ่งหนึ่ง และต้องผ่านสว. ที่ต้องใช้เสียงครึ่งหนึ่งของสว. ซึ่งกฎหมายทั่วไปนั้นมีศักดิ์และสิทธิน้อยกว่ารัฐธรรมนูญ ดังนั้นการแก้รัฐธรรมนูญที่เป็นกฎหมายสูงสุดและมีเกณฑ์กำหนดให้ใช้เสียงแค่ 1 ใน 3 ซึ่งถือว่าน้อยกว่ากฎหมายทั่วไปด้วยซ้ำ จึงขอถามไปยังผู้เสนอร่างว่า หากมองว่ามีเกณฑ์ใช้เสียง 1 ใน3 ของสว. ทำให้รัฐธรรมนูญผ่านยาก จะยากตรงไหน เพราะจำนวน 1 ใน 3 ยังน้อยกว่าเสียงเกินกึ่งหนึ่งด้วยซ้ำ” นายพิสิษฐ์ กล่าว

นายพิสิษฐ์ กล่าวด้วยว่า ตนมองว่าหากร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของทั้ง2พรรค ดีจริง ก็สามารถโน้มน้าว สว. จำนวน 67 เสียงให้เห็นชอบได้แน่นอน ดังนั้นในระบบการปกครองที่ใช้แบบสองสภาฯ ต้องการถ่วงดุลกันและกัน การตัดสิทธิสว.ออกไปนั้น ขอตั้งคำถามว่าถูกต้องตามระบอบประชาธิปไตยหรือไม่

เมื่อถามมองว่าการตัดเกณฑ์ 1 ใน 3 ของสว.ออกไปมีนัยแฝงหรือไม่ นายพิสิษฐ์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ แต่ขอย้ำว่าการปกครองของไทยใช้ระบบสองสภาฯ สส.และสว. ต่างมีหน้าที่ถ่วงดุลกัน ดังนั้นการกำหนดเกณฑ์ให้ใช้เสียง สส. และสว. ในมาตรา 256 (3) และ (6) นั้น จึงเป็นการเขียนที่ถูกต้องเพื่อให้เกิดการถ่วงดุลกัน ส่วนที่ไปแก้ไขให้ใช้เกณฑ์ผ่านด้วยเสียงเกินกึ่งหนึ่งสมาชิกรัฐสภาที่มีอยู่ สว.ที่มี 200 คน จึงเทียบอะไรไม่ได้กับ สส. ที่มี 500 คน ดังนั้นสว.ไม่สามารถคัดค้านอะไรได้เลย ซึ่งตนไม่เห็นด้วยในการตัดเสียง สว.ออกไป เพราะขัดกับสิ่งที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ และอย่าลืมว่ารัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันได้ผ่านประชามติมาแล้ว การแก้ไขใดๆ ตามที่เสนอมานั้นถูกต้องหรือไม่

“ผมขอให้ผู้ยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนู กลับไปอ่านคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ที่ 4/2564 ให้ระเอียดและรอบคอบ และหวังว่าคงจะไม่ถอนออกไปก่อน ทั้งนี้ผมไม่ทราบว่าขั้นตอนการพิจารณาหลังจากที่มีการบรรจุวาระต่อที่ประชุมแล้ว จะมีผู้ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ ซึ่งผมคงไม่ไปดำเนินการ แต่เมื่อสามารถบรรจุวาระให้พิจารณาได้ ผมยินดีเข้าร่วมประชุม แต่ไม่เห็นชอบ”นายพิสิษฐ์ กล่าว

ต่อข้อถามว่ากังวลหรือไม่ว่าการพิจารณาจะมีการยื่นเอาผิดสมาชิกรัฐสภา ประเด็นผิดจริยธรรมเพราะได้ทำสิ่งที่ขัดกับคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 4/2564 นายพิสิษฐ์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ได้เข้าพบประธานตุลาการศาลรัฐธรรมนูญแล้ว เขาย่อมมั่นใจว่าสิ่งที่ทำไปได้ไตร่ตรองรอบคอบแล้ว จึงมั่นใจว่าการประชุมรัฐสภาจะเกิดขึ้น ส่วนจะผิดหรือไม่ ไม่ทราบไม่อาจก้าวล่วงอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ และไม่ทราบว่าจะมีผู้ยื่นร้องหรือไม่

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'พิธา' ให้สัมภาษณ์งานแต่งข้ามขั้ว ครม.ครอบครัวสำคัญที่สุดในชีวิต

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล เดินทางเข้าร่วมงานพิธีสมรสระหว่างนายธนาธร โล่ห์สุนทร สส.ลำปางพรรคเพื่อไทย และนางสาวรภัสสรณ์ นิยะโมสถ สส.ลำปาง พรรคประชาชน

ชื่นมื่น! 'ทักษิณ-พิธา' ร่วมงานแต่ง สส.ลำปาง เพื่อไทย-ประชาชน

นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) เดินทางมาร่วมพิธีฉลองมงคลสมรสระหว่างนายธนาธร โล่ห์สุนทร

'วราวุธ' ย้ำแก้รธน. ไม่แตะหมวด 1,2 ตั้ง ส.ส.ร. ต้องสะท้อนถึงสังคมปัจจุบัน

นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า พรรคยังยืนยันจุดเดิมคือ การได้มาซึ่ง ส.ส.ร. โดยเฉพาะหมวด 1 หมวด 2 ที่

'ธนกร' เห็นด้วยเลื่อนถกแก้รธน. ออกไป 1 เดือน แนะแก้ปัญหาประชาชนเป็นอันดับแรก

นายธนกร วังบุญคงชนะ  รองหัวหน้าพรรคและสส.บัญชีรายชื่อพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวว่า จากการประชุมของคณะกรรมการประสานงาน (วิป 3 ฝ่าย) มีมติให้เลื่อนการพิจารณา การประชุมร่วมรัฐสภา