'ทนายแจม' ผิดหวัง 'รัฐบาล' เทกระทู้ 'อบรมอาสาตำรวจจีน' ก่อนหอบเอกสาร 'กมธ.ตำรวจ' ด้าน 'ชัยชนะ' เผย เจ้าหน้าที่แจ้ง 3 ข้อหาแล้ว แจง อยู่ระหว่างตรวจสอบเส้นทางการเงิน หวั่น ผู้อบรมเอี่ยวอาชญกรรมข้ามชาติ คาด 15 วันรู้ผล
9 ม.ค. 2568 - ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร นางสาวศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ สส.กทม.พรรคประชาชน ตั้งกระทู้ถามสดด้วยวาจาต่อรองนายกรัฐมนตรี ภูมิธรรม เวชยชัย กรณีการอบรมอาสาตำรวจชาวจีน ซึ่งรองนายกรัฐมนตรีได้แจ้งติดภารกิจ ส่งผลให้ต้องเลื่อนการตอบกระทู้ออกไปก่อน
โดยนางสาวศศินันท์ อภิปรายสั้นๆ ว่า ตนขอแสดงความผิดหวังที่ไม่มีการมาตอบกระทู้ในวันนี้ ซึ่งตนได้เตรียมข้อมูลมาเป็นจำนวนมาก เพื่อตั้งกระทู้ถาม แต่ก็เพิ่งทราบเมื่อไม่กี่ชั่วโมงว่า รองนายกรัฐมนตรีขอเลื่อนการตอบกระทู้ในวันนี้ กรณีดังกล่าวเป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจของประชาชนมาหลายวัน ตนเองก็ติดตามข่าวทุกวัน ว่าเมื่อไหร่จะมีความกระจ่างเสียที ว่าหลักสูตรนี้ทำได้ขนาดไหน และใครเป็นผู้รับผิดชอบ แต่แม้วันนี้รองนายกรัฐมนตรีจะไม่ได้มาตอบ แต่ตนก็ได้เตรียมเอกสารหลักฐานเพิ่มเติมมา แทบจะเสิร์ฟให้ทั้งรองนายกรัฐมนตรี และตำรวจแล้ว
นางสาวศศินันท์ กล่าวต่อว่า นี่เป็นโอกาสที่ดีมากที่ทางรัฐบาล หรือตำรวจ จะได้มีผลงานเสียที ว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับเรื่องจีนเทาได้หรือไม่ แต่ก็น่าเสียดายแทนประชาชนที่รอฟังอยู่ว่า สรุปแล้วเรื่องนี้จะจบตรงไหน อย่างไรก็ตาม วันนี้ตนจะยื่นเอกสารเหล่านี้ให้คณะกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร และระหว่างนี้ ตนก็คาดหวังว่า ทางนายกรัฐมนตรี จะมีการสั่งการไปยังผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ที่ยังคงไม่มีท่าทีต่อเรื่องนี้ และหวังว่าจะมีการดำเนินการเพิ่มเติมหลังจากนี้มากขึ้น
นางสาวศศินันท์ เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับกรรมาธิการฯ วาระพิจารณาการจัดอบรมอาสาสมัครตำรวจคนจีน ที่มีการเก็บเงินค่าอบรม 38,000 บาท โดยผู้เข้าอบรมได้ประกาศนียบัตรเป็นตำรวจอาสาสมัครตำรวจคนจีน พร้อมเสื้อกั๊กและบัตรติดตราสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่า ตนคาดหวังว่าผู้ชี้แจงจะเป็นระดับ ผบ.ตร. หรือ ผบ.ชน. มาชี้แจงด้วยตนเอง เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสำคัญ แต่ปรากฏว่าไม่มีใครมาเลย เนื่องจากตนได้นำหลักฐานเพิ่มเติมเข้ามามอบให้ทางกรรมาธิการฯ ซึ่งมีความเชื่อมโยง มีตัวละครเพิ่มขึ้น เพราะเรื่องนี้ไม่ได้มีแค่ประธานสมาคมคนเดียว มีความเสียหายเกิดขึ้นแล้วแน่นอน และอาจจะไม่ได้เกิดแค่ภายในประเทศ เพราะมีหลายคนที่ผ่านการอบรมหนีออกไปนอกประเทศไปแล้ว รวมถึงยังไม่ได้ความชัดเจนจากตำรวจ
ดังนั้น จึงอยากเรียกร้องให้มีการดำเนินการในเรื่องนี้อย่างเร่งด่วนก่อนที่ความเสียหายจะมากเกินกว่าที่เราจะคาดการณ์ได้ และอยากให้ทางรัฐบาลให้ความสำคัญ เพราะไม่ใช่เพียงแค่เรื่องความมั่นคงของตำรวจอย่างเดียว แต่รวมไปถึงความมั่นคงทางธุรกิจด้วย เพราะเป็นความเชื่อมั่นของนักลงทุน นักท่องเที่ยว ที่อาจจะรู้สึกว่าประเทศไทยไม่ปลอดภัย
ขณะที่ นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานกรรมาธิการฯ ระบุว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการรับแจ้งข้อกล่าวหาของ ดร.ลี่ช่าง และ ลี่ หมิง หลง ใน 3 ข้อหา ได้แก่ 1.ใช้อุปกรณ์ ที่มีโลโก้ตราตำรวจ 2.ใช้ตราราชการตำรวจโดยไม่รับอนุญาต และ 3.ใช้สัญลักษณ์สถาบันอุดมศึกษาโดยไม่ได้รับอนุญาต รวมทั้งการโฆษณาในสื่อโซเชียลมีเดียที่มีสัญลักษณ์ของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หรือ CIB ซึ่งทางกองบัญชาการตำรวจนครบาลได้แจ้งข้อหาตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ เพิ่มเติมอีกหนึ่งข้อหาแล้ว
นายชัยชนะ กล่าวว่า ทางกรรมาธิการฯ ยังตั้งข้อสังเกตถึงการออกบัตรอาสาว่า ตำรวจผู้เซนต์บัตรมีความผิดด้วยหรือไม่ ซึ่งเราได้รับคำชี้แจงจาก พ.ต.อ. นิเวชร์ งามลาภ ผกก.สส.บก.น.3 ซึ่งเป็นเจ้าของลายเซนต์บนบัตรว่า ได้เซนต์เพียงบนใบประกาศนียบัตรเท่านั้น อาจจะมีการนำไปสแกนลงบัตรหรือไม่
นายชัยชนะ กล่าวต่อว่า ทางกรรมธิการฯ จึงได้สอบถามถึงความผิดทางอาญา จากการเซนต์ใบประกาศในการอบรมหลักสูตรเถื่อน ว่ามีความผิดหรือไม่ เพราะถือเป็นการยอมรับว่าหลักสูตรดังกล่าวถูกต้อง การสแกนลายเซนต์จากประกาศนียบัตรลงบัตร หากไม่ทราบก็คงเป็นไปไม่ได้ และหากบนบัตรมีลายเซนต์จะถือว่าผิดกฎหมายหรือไม่ เพราะถือเป็นการปลอมแปลงเอกสารทางราชการ
นายชัยชนะ กล่าวอีกว่า การสร้างหลักสูตรนี้ขึ้นมา ตนคาดการณ์ว่าเกิดจากการร่วมมือของนายลี่ชาง และข้าราชการตำรวจ ออกแบบหลักสูตรเพื่อหารายได้ ส่วนเงินจะเข้ากระเป๋าใครนั้น ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบเส้นทางการเงิน และผู้อบรมจำนวน 13 คน ก็ยังไม่สามารถระบุตัวตนได้ จึงต้องส่งเรื่องให้ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ตรวจสอบต่อไป รวมทั้งตรวจสอบเส้นทางการเงินของผู้อบรมด้วยว่าเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมข้ามชาติหรือไม่ หากใครมีส่วนเกี่ยวข้องทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะดำเนินคดีทางอาญาต่อไป ทั้งนี้ คาดใช้เวลาตรวจสอบไม่เกิน 15 วัน
เมื่อถามว่ามหาวิทยาลัยสยามยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ระบุว่า มหาลัยยืนยันว่า ไม่ทราบ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ทางกรรมาธิการฯได้ตั้งข้อสังเกตถึงแผนปฏิบัติที่ทางมหาวิทยาลัยต้องทราบเรื่องการขอใช้ห้องภายในมหาวิทยาลัย จะอ้างไม่ทราบว่าใครใช้ห้องไหนไม่ได้ แต่ทางมหาวิทยาลัยยอมรับว่าหละหลวมในเรื่องนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ทนายแจม' เชื่ออบรมอาสาตร.จีนต้องมีคนโกหก จี้ตอบ 4 ข้อสงสัย ไม่ชอบมาพากล
น.ส.ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคประชาชน โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงเรื่อง โครงการอบรมอาสาตำรวจคนจีน ว่า
สส.ปชน.หวด 'นายกฯอิ๊งค์' เข้าสภาฯตอบกระทู้ด้วยตัวเอง!
นายณัฐวุฒิ บัวประทุม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมความพร้อมเปิดสมัยประชุมสภา
'สส.ส้ม' จี้ 'รัฐบาล' ตอบให้ชัดทำไมกลับลำชัก 'นิรโทษกรรม ม.112' ออก
นางสาวศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ สส.กทม. พรรคประชาชน ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตรา
'หมอเปรม-นันทนา' รุมโวยรัฐมนตรี เทกระทู้สภาสูง
สว. โวย 'รมต.' เท ตอบกระทู้ ถ่ายโอน รพ.สต.-แก้ปัญหาการครอบงำของอีคอมเมิร์ซข้ามชาติ 'หมอเปรม' ซัด 30บาทรักษาทุกที่คือที่ไหน ขณะที่ 'นันทนา' ฉะ 'รมว.พณ.' ไม่สนใจช่วยเอสเอ็มอี
'ทวี' แจงยิบ ก้าวไกลยังคาใจปม 'บุ้ง ทะลุวัง' สาเหตุเสียชีวิตที่แท้จริงคืออะไร
ก้าวไกลทวงถามคดีบุ้ง ทะลุวัง เสียชีวิต “ทวี” ยันดำเนินการตามหลักสากล ย้ำต้องปฏิรูป “ก.ยุติธรรม”
'ก้าวไกล' อัดนายกฯเด้ง 2 นายพลแค่ซุกขยะใต้พรม แก้ปัญหาแบบฉบับบ้านจันทร์ส่องหล้า
น.ส.ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ สส.กทม. พรรคก้าวไกล อภิปรายว่า ยุคนี้เป็นยุคตกต่ำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) จากสมรภูมิแย่งชิงผบ.ตร. ของนายตำรวจเบอร์1และเบอร์2 เป็นศึกช้างชนช้าง เกิดความวุ่นวายในตร.