'เอกนัฏ' มั่นใจไม่กระทบเอกภาพรัฐบาล ปมโหวตต่างกฎหมายประชามติ

19 ธ.ค.2567 - ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.) ให้สัมภาษณ์กรณีพรรคร่วมรัฐบาลโหวตแตกต่างร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติว่า สส.พรรครทสช.โหวตเป็นไปตามมติวิปรัฐบาล เพียงแต่ว่าหัวหน้าพรรคและสส.พรรครทสช.หลายท่านติดภารกิจช่วยน้ำท่วมอยู่ที่ภาคใต้ ซึ่งบังเอิญว่าช่วงนี้หลายพื้นที่ประสบปัญหาอุทกภัยหนัก หัวหน้าและสส.ชุมพร นครศรีธรรมราชและจ.สุราษฎร์ธานี ติดอยู่ในพื้นที่ ซึ่ง 3 จังหวัดนี้ก็เกินครึ่งพรรคแล้ว ซึ่งเราได้แจ้งเรื่องนี้ขออภัยทางวิปรัฐบาลแล้ว ทั้งนี้ ก็ได้มีการเช็คเสียงก็โอเคแล้ว ก็ได้ขอสส.ช่วยในพื้นที่ก่อน

เมื่อถามว่า มติที่ให้กลับมาเป็นประชามติ ชั้นเดียวจะส่งผลต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐบาลนี้หรือไม่ นายเอกนัฏ กล่าวว่า สำหรับพรรครทสช.ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่นโยบายของเรา ซึ่งเราทำเรื่องอื่น แต่เนื่องจากเป็นนโยบายที่มีการตกลงร่วมกันกับรัฐบาล คนที่เสนอเป็นหลักคือพรรคเพื่อไทย(พท.) ตรงนี้ก็อยู่ที่พรรคพท.ซึ่งเรา มีเงื่อนไขชัดเจนในการร่วมรัฐบาลแต่แรก ในเรื่องของมาตรา 112 ห้ามแตะโดยเด็ดขาด อย่างเรื่องนิรโทษกรรมก็เป็นเรื่องสำคัญ และเป็นข่าวดีที่พรรคพท. เอาเรื่องมาตรา 112 และยืนยันว่าจะไม่ใส่เข้าไปในกฎหมายนรโทษกรรม ในส่วนของการแก้ไขรัฐธรรมนูญเราก็ให้เงื่อนไขว่าจะแก้อย่างไรก็แล้ว แต่จะต้องไม่แตะหมวด 1 และหมวด 2 ทั้งนี้ ส่วนที่เกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ นี่คือเงื่อนไขของพรรครทสช.ในการเข้าร่วมรัฐบาล

นายเอกนัฏ กล่าวว่า จนถึงวันนี้ก็เห็นแล้วว่าพรรคพท.ได้ให้ความสำคัญกับเงื่อนไขที่ได้ตกลงกันไว้ ซึ่งกระบวนการต่างๆก็ดูในรายละเอียดแล้วไม่มีการแตะหมวด 1 หมวด 2 และไม่ไปกระทบต่อมาตรฐานการป้องกันการทุจริต ประพฤติมิชอบ ส่วนจะเร็วจะช้า ก็ไม่ใช่นโยบายของพรรครทสช.

เมื่อถามว่า ในความเห็นส่วนตัวและพรรครทสช.เห็นด้วยหรือไมว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ต้องทำประชามติก่อน นายเอกนัฏ กล่าวว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้ที่พิเศษกว่ารัฐธรรมนูญฉบับก่อนๆ คือผ่านการทำประชามติ ใครจะว่าอะไร สภาพบรรยากาศเป็นอย่างไรก็แล้วแต่ แต่ก็มีการทำประชามติ เพราะฉะนั้นถ้าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ต้องมีการทำประชามติก็แค่นั้นเอง

เมื่อถามว่า ในส่วนของงานสภาขณะนี้จะกระทบต่อเอกภาพรัฐบาลหรือไม่ นายเอกนัฏ กล่าวว่า ไม่ ตนว่าวันนี้พรรคร่วมรัฐบาลแต่ละพรรคก็ยอมรับความคิดที่แตกต่างกันออกไป ตนก็เข้าใจว่าบางเรื่อง กฎหมายบางฉบับก็เป็นเรื่องละเอียดอ่อนเรื่องกฎหมายเป็นเรื่องการทำงานในสภาผู้แทนราษฎรก็ต้องเคารพความคิดเห็นที่แตกต่างซึ่งกันและกัน ก็จะอยู่ร่วมกันได้ ซึ่งจนถึงวันนี้ก็ยังไม่เห็นว่ามีปัญหาอะไร

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เปิดขั้นตอนหย่อนบัตร8ก.พ.69 บัตร3ใบเลือกตั้งพ่วงประชามติ

ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูกาลการเลือกตั้งทั่วไปเพื่อเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) อย่างเป็นทางการ โดยในครั้งนี้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ไทยที่จะมีการเลือกตั้ง สส. พร้อมกับการทำประชามติหนึ่งเรื่องในวันเดียวกัน โดยกำหนดจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 8 ก.พ.2569 ตั้งแต่เวลา 08.00 น. ถึง 17.00 น. ตามประกาศของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)

กกต. พอใจรับสมัครปาร์ตี้ลิสต์ 52 พรรคฉลุย มั่นใจ 8 ก.พ. มีเลือกตั้งแน่

'กกต.' เผยรับสมัครปาร์ตี้ลิสต์วันแรกราบรื่น 52 พรรคยื่นครบ เสนอแคนดิเดตนายกฯ 32 พรรค 68 คน เดินหน้าตรวจนโยบายเข้มตามกฎหมาย มั่นใจเลือกตั้ง 8 ก.พ.69 จัดได้ทั่้วประเทศ

ครม. เห็นชอบงบเลือกตั้ง-ทำประชามติ 8,978 ล้าน

นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.อนุมัติงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดการเลือกตั้ง สส.เป็นการทั่วไป

รทสช. เปิด 3 แคนดิเดตนายกฯ ชูสโลแกน เด็ดขาดแก้วิกฤต พลิกโฉมประเทศ

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมด้วย นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรค และนายนราพัฒน์ แก้วทอง รองหัวหน้าพรรค แถลงนโยบายพรรค พร้อมเปิดสโลแกนพรรค “เด็ดขาดแก้วิกฤต พลิกโฉมประเทศ” และเปิดแคนดิเดตนายกฯ 3 คน ได้แก่ นายพีระพันธุ์ นายอรรถวิชช์ และนายนราพัฒน์