17 ธ.ค.2567 - ที่พรรคพลังประชารัฐ นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง และประธานร่วมศูนย์นโยบายและวิชาการพรรคลังประชารัฐ แถลงว่า มาตรการแก้ไขปัญหาหนี้สินของรัฐบาลในโครงการ "คุณสู้-เราช่วย" มีข้อบกพร่องสำคัญ ทั้งในแง่ของการขาดการครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายและความสามารถในการแก้ปัญหาอย่างเบ็ดเสร็จ พร้อมเสนอแนวทางแก้ปัญหาหนี้อย่างยั่งยืน
นายธีระชัย กล่าวว่า เป็นเรื่องดีที่รัฐบาลเริ่มขับเคลื่อนการแก้หนี้ให้ประชาชน เพราะเป็นปัญหาที่ฉุดรั้งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม มาตรการตีกรอบแคบช่วยลูกหนี้ของธนาคารและบริษัทลูกเพียง 48 แห่งเท่านั้น (23.30%) หรือช่วยลูกหนี้แค่ 2.1 ล้านบัญชี (27% ของมูลค่าหนี้ที่มีปัญหา) ยิ่งไปกว่านั้น เงินกองทุนฟื้นฟูที่รัฐช่วยลูกหนี้ครึ่งหนึ่ง หากลูกหนี้ผิดเงื่อนไข แต่รัฐไม่เรียกคืน เท่ากับเอาภาษีประชาชนไปหนุนกำไรสถาบันการเงิน
“ที่สำคัญ การกำหนดเงื่อนไขชำระเงินต้นที่ชันเกินไป 50%, 70%, และ 90% ใน 3 ปี ขณะที่ เศรษฐกิจยังไม่ฟื้น รายได้ประชาชนยังไม่โต และค่าครองชีพยังสูงขึ้น! เงื่อนไขแบบนี้นอกจากจะไม่สามารถช่วยให้ลูกหนี้จ่ายหนี้ได้จริง แต่กลับจะดันให้ลูกหนี้จมน้ำลึกไปกว่าเดิม!” นายธีระชัย กล่าว
นายธีระชัย กล่าวว่า มาตรการนี้กำหนดเพดานช่วยเหลือเพียง 5,000 บาทต่อบัญชี! ลูกหนี้กลุ่มนี้ธนาคารควรจัดการเองอยู่แล้วโดยไม่ต้องพึ่งเงินกองทุนฟื้นฟูซึ่งมาจากภาษีประชาชน การดึงเงินของรัฐมาใช้ในกรณีที่สถาบันการเงินสามารถแก้ไขได้เอง ไม่เพียงแต่สิ้นเปลืองโดยไม่คุ้มค่า และอาจถูกมองว่าเป็นการสนับสนุนสถาบันการเงินเกินความจำเป็น
นายธีระชัย ยังกล่าวถึงมาตรการแก้หนี้ของรัฐบาลใน 4 จุดที่ไม่ครอบคลุมการแก้ปัญหา ประกอบไปด้วย 1.ลืมลูกหนี้จมดิน มาตรการไม่ช่วยเหลือลูกหนี้ที่ถูกฟ้องและรอถูกยึดทรัพย์กว่า 3.26 ล้านราย ทั้งที่ ควรชะลอการบังคับหลักประกัน 2. เมินลูกหนี้ชั้นดี ลูกหนี้ที่จ่ายตรงกลับถูกมองข้าม ซึ่งมีมูลค่าหนี้มากกว่า 2 ใน 3 ของมูลหนี้ทั้งระบบ 3.ไร้มาตรการเพิ่มรายได้ ไม่มีแนวทางช่วยลดค่าครองชีพหรือปรับราคาพลังงานที่เป็นปัญหาเรื้อรัง 4.ปฏิรูปกระบวนการประนอมหนี้ล้าหลัง ถึงเวลายกเลิกดอกเบี้ยผิดนัดสูงลิ่ว และหยุดฟ้องค้ำประกันรายย่อย เพื่อช่วยประชาชนและ SMEs ให้ลืมตาอ้าปากได้
นายธีระชัย กล่าวว่า พรรคขอเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาหนี้ประชาชนอย่างจริงจัง โดยปรับโครงสร้างหนี้ ทุกประเภท ทั้งหนี้ธุรกิจ หนี้ครัวเรือน หนี้เกษตรกร และหนี้นอกระบบ ให้เป็นวาระแห่งชาติ ดึงทุกหน่วยงานร่วมมือแก้ปัญหาแบบบูรณาการ ปรับโครงสร้างหนี้อย่างมีประสิทธิภาพ กำหนดอัตราดอกเบี้ยและการชำระหนี้ที่ยืดหยุ่น สอดคล้องกับรายได้ของลูกหนี้ เติมทุนใหม่ พัฒนาทักษะอาชีพ พร้อมปฏิรูประบบสถาบันการเงิน เพิ่มการแข่งขันอย่างจริงจัง จัดเก็บภาษีลาภลอยส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยเกินกำหนด เพื่อสร้างโอกาสการเข้าถึงแหล่งเงินทุนสำหรับประชาชนฐานรากและ SMEs
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ฮือฮา! 'เรืองไกร' ลงสนาม กทม. ชิงเก้าอี้เขต 4
พปชร. เคาะ 30 ผู้สมัคร กทม. 'ผู้กองมาร์ค' มั่นใจคว้าเก้าอี้ สส. ไม่น้อยกว่า 10 ที่นั่ง 'ฮือฮา 'เรืองไกร' ลงชิงเก้าอี้เขต 4
'บิ๊กป้อม' ลั่นพอแล้ว! เปิดบ้านป่ารอยต่อฯ อวยพรปีใหม่
'บิ๊กป้อม' เปิดมูลนิธิป่ารอยต่อฯ อวยพรปีใหม่ ลั่นอายุ 80 ปี พอแล้ว ท่ามกลางปัญหาสุขภาพรุมเร้า ถอนตัวแคนดิเดตนายกฯ เตรียมวางมือการเมือง ขณะที่อดีตบิ๊กทหารตบเท้าร่วมรับพร
'สามารถ' ยัน พปชร. ไม่ระส่ำ 'บิ๊กป้อม' ยังเป็นผู้นำพรรคสู้ศึกเลือกตั้ง
นายสามารถ แก้วมีชัย กรรมการบริหารพรรค พปชร.และว่าที่ผู้สมัครสส.เชียงราย ให้สัมภาษณ์กรณีพรรค พปชร. ถูกจับตามองเกิดความสั่นคลอนและจะล่มสลาย หากพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพปชร.วางมือทางการเมืองว่า
'ธีระชัย' ยัน 'ลุงป้อม' ยังไม่ทิ้งพลังประชารัฐ รับ 'วัน อยู่บำรุง' ไม่แน่อยู่หรือไป
นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยถึงกระแสข่าวนายวัน อยู่บำรุง จะไม่ไปต่อกับพรรคว่า เมื่อไม่กี่วันก่อนนายวันก็ยังมานั่งรับประทานอาหารกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค แต่ต้องเข้าใจว่า พรรคพลัง
‘สุรเดช’ รับคำสั่ง ‘ลุงป้อม’ คุมภาคเหนือ ลั่นสู้ศึกเลือกตั้งด้วยผู้สมัครเกรด A
นายสุรเดช ยะสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังได้รับมอบหมายให้ดูแลพื้นที่ภาคเหนือว่า ตนได้รับมอบหมายจากพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ให้ดูแล

