14 ธ.ค.2567 - นายถาวร เสนเนียม อดีตสส.สงขลา เปิดเผยว่าตามที่ปรากฏเป็นข่าวในช่วงหลายวันที่ผ่านมาจากหลายสื่อหลายกระแสด้วยกันว่า ตยกำลังจะได้รับ การสนับสนุนจากพรรครวมไทยสร้างชาติและพรรคภูมิใจไทยและได้รับแรงเชียร์จากส.อบจ.สงขลา ในการเลือกตั้งนายก อบจ.สงขลารอบหน้า ที่กำลังจะมาถึงในเดือนกุมภาพันธ์ 2568
หลังจากนั้น ตยได้รับ โทรศัพท์และได้รับการติดต่อเพื่อขอเป็นรับแรงสนับสนุนจากน้องๆที่ยังดำรงตำแหน่ง ส.อบจ.สงขลา และที่จะเป็นผู้สมัคร ส.อบจ.สงขลา ในการเลือกตั้งครั้งหน้า ซึ่งสังกัดทีมรวมพลังร่วมสร้างสุข ที่รวมตัวกันก่อนหน้านี้แล้ว รวมถึงได้รับแรงสนับสนุนจากพี่น้องประชาชนในเขตเลือกตั้งของตนและจากหลายๆ เขต ตลอดถึงญาติมิตร พี่น้องเพื่อนฝูง เ
มื่อได้ทราบถึงกระแสข่าวต่างติดต่อเข้ามาเพื่อให้กำลังใจ ประหนึ่งเสมือนตนได้ตอบตกลง ที่จะเป็นผู้สมัครลงชิงตำแหน่ง นายก อบจ.สงขลา รอบหน้าจริงแล้ว การตอบคำถามถึงกระแสข่าวข้างต้น ตนจึงต้องระมัดระวังถึงความรู้สึกดีๆ ที่ทุกคนมอบให้ เพราะพี่น้องประชาชนในจังหวัดสงขลาต่างทราบดีว่า สถานการณ์ทางการเมืองในปัจจุบันเป็นอย่างไร ตั้งแต่ระดับถ้องถิ่นถึงระดับชาติ ประชาชนต่างคาดหวังที่จะมีผู้นำท้องถิ่น สมาชิกรัฐสภาและรัฐมนตรีที่มีความซื่อสัตย์สุจริตมาบริหารพัฒนาแก้ปัญหา คิดและทำเพื่อประโยชน์ให้ประชาชน ไม่ผูกขาดการเข้าสู่ตำแหน่งทางการเมืองด้วยอิทธิพลหรือทุนสีเทา
นายถาวร กล่าวว่า ดังนั้นในการเลือกตั้งนายก อบจ.สงขลาครั้งหน้า ประชาชนชาวสงขลาจึงต้องการที่จะเห็นการเมืองใน รูปแบบที่ใสสะอาด ปราศจากการซื้อสิทธิขายเสียง และปราศจากการใช้อิทธิพลหรือทุนสีเทามาเอารัดเอาเปรียบ ผู้สมัครที่สุจริต โดยตนเป็นคนหนึ่งที่ต่อต้านการทุจริต และต่อต้านการเลือกตั้งที่มีการใช้อิทธิพลหรือทุนสีเทามาตลอด และเป็นผู้ที่ไม่เกรงกลัวต่ออิทธิพลใด
"ในการตอบคำถามของผมจากกระแสข่าวข้างต้นไปบ้างแล้ว บางคนมองว่า ทำไมผมไม่เสียสละมาเป็นผู้สมัครนายก อบจ.สงขลาครั้งหน้า ผมจึงขอใช้พื้นที่ตรงนี้ชี้แจงที่มาของการตัดสินใจเข้ามาลงสนามการเมืองดังนี้"
1.ในปี 2538 ตนมีอายุ 48 ปี และรับราชการเป็นอัยการจังหวัดกระบี่กับอัยการจังหวัดสงขลาต่อเนื่องมาหลายปี และประกอบอาชีพทำธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์หลายโครงการ และยังมีโอกาสก้าวหน้าในอาชีพ อัยการ เพราะอายุราชการที่เหลืออีก 12 ปี คนย่อมสามารถไต่เต้าเข้าสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้นได้ แต่ด้วยในปี 2534-2538 ประเทศไทยเกิดวิกฤติทางการเมืองหลายครั้ง สืบเนื่องจากปัญหาทุจริตคอร์รัปชันและการใช้อำนาจทางการเมืองโดยมิชอบ ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวพรรคประชาธิปัตย์ได้ยืนหยัดต่อสู้เคียงข้างพี่น้องประชาชน เพื่อต่อสู้กับวิกฤติเหล่านี้อย่างเหนื่อยยาก ตนเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์มาตั้งแต่ปี 2511 จึงได้ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งอัยการจังหวัดสงขลาเพื่อลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น สส.หวังได้เข้าไปต่อสู้ในสภาร่วมกับ พรรคประชาธิปัตย์
"การลาออกจากราชการของผมครั้งนั้น ผมยอมรับความเสี่ยงที่จะตามมาในผลการเลือกตั้งในครั้งนั้น แต่พี่น้องประชาชนให้ความไว้วางใจเลือกผมเข้าไปทำหน้าที่สส.และเลือกผมตลอดมา 7 สมัย โดยที่ผมไม่ต้องใช้อิทธิพลหรือใช้เงินซื้อเสียงเพื่อเอาเปรียบคู่ต่อสู้ทางการเมือง ผมเล่นการเมืองโดยวิถีสุจริตตลอดมาพี่น้องประชาชนในเขตเลือกตั้งย่อมทราบดี"
2.ในระหว่างที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นฝ่ายค้าน ตนได้ทำหน้าที่อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีที่มีพฤติกรรม ส่อทุจริต 5 คนทุกสมัยการประชุมสภาผู้แทนราษฎรคืออภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีเหล่านี้
1.นายบรรหาร ศิลปะอาชา นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น
2.นายสุรเกียรติ เสถียรไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในขณะนั้น
3.นายวัน มู หะหมัด นอร์ มะทา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมในขณะนั้น
4.นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมในขณะนั้น
5.พลตำรวจโท ชัจจ์ กุลดิลก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมในขณะนั้น
นอกจากนี้ตนเคยเป็นโจทก์ยื่นฟ้องคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ที่ดำเนินการเลือกตั้งไม่สุจริตและไม่เที่ยงธรรมเพื่อเอื้อประโยชน์ในการจัดการเลือกตั้งให้พรรคไทยรักไทย ซึ่งเป็นข่าวที่ทุกท่านทราบดีอยู่แล้ว
3. ในระหว่างที่ตนดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ทำหน้าที่ฝ่ายบริหารพัฒนาแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนตามนโยบายรัฐบาล มีผลงานตามที่ปรากฎ ตนได้ทำการกำกับบริหารจัดการดำเนินการหน่วยงานภายใต้ภารกิจทั้งหมดด้วยความสุจริต โดยไม่เคยถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือถูกร้องเรียนถึงพฤติกรรมทุจริตแต่อย่างใด
4.ด้วยประวัติทางการเมืองโดยสังเขปของตนดังกล่าวมา ประกอบกับประชาชนชาวจังหวัดสงขลาและน้องๆ ส.อบจ.สงขลาจำนวนหนึ่ง อยากให้นายก อบจ.จังหวัดสงขลาคนต่อไป มาจากผู้มีประวัติทางการเมือง สุจริต มีประวัติการทำงานที่ไม่เกี่ยวข้องกับการทุจริตคอร์รัปชัน จึงเป็นที่มาของกระแสข่าวว่าตนได้รับแรงหนุนให้ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายก อบจ.ครั้งหน้า
เพราะที่ผ่านมาประชาชนชาวสงขลาและส.อบจ.สงขลา ทุกคนทราบดีว่านายก อบจ.สงขลา มีปัญหาถูกตรวจสอบเรื่องการทุจริตคอรัปชั่นต่อเนื่องตลอดมา บางรายถึงขนาดขัดแย้งกันจนต้องมีการจ้างวานฆ่าฝ่ายผู้เห็นต่าง บางรายก็กำลังรับโทษอยู่ในเรือนจำจากกรณีทุจริตคอร์รัปชัน บางรายก็กำลังต่อสู้คดีอยู่ในศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ
5.จากกระแสข่าวที่ผ่านมา จึงขอขอบคุณทุกแรงเชียร์ขอบคุณทุกกำลังใจที่ประสงค์จะให้ตนลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น นายก อบจ.สงขลาในครั้งหน้า แต่ขอเรียนให้ทราบว่าด้วยความตั้งใจในทางการเมืองของตนที่ต้องการเห็นการเมืองใสสะอาดปราศจากการทุจริตคอร์รัปชันนั้น หมายความรวมถึงการละเว้นการกระทำการที่อาจจะทำให้เกิดความเสียหายแก่ราชการด้วย ซึ่งทุกท่านทราบดีว่าช่วงวิกฤติทางการเมืองในปี 2556 – 2557 ตนกับมวลมหาประชาชนทั่วประเทศได้ออกมาร่วมชุมนุมต่อต้านการออกกฎหมายล้างผิดคนโกงหรือกฎหมายนิรโทษกรรมฉบับสุดซอย ออกมาต่อต้านรัฐบาลที่โกงชาติทำร้ายแผ่นดิน
จนท้ายสุดตนต้องคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้จำคุก 5 ปี และถูกขังไว้โดยหมายของศาลในระหว่างการขอปล่อยตัวชั่วคราว ทำใหตนต้องพ้นจากคุณสมบัติการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ พ้นจากสถานะความเป็นสส. และพ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ต่อมาศาลอุทธรณ์ได้พิพากษาลงโทษจำคุกตย 1 ปี และปัจจุบันยังอยู่ ระหว่างการยื่นฎีกาคำพิพากษาในศาลฎีกา
6.แม้ว่าตนจะมีคุณสมบัติการเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นนายก อบจ.สงขลา ตาม พ.ร.บ.การเลือกตั้ง สมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 มาตรา 49 , มาตรา 50 และตาม พ.ร.บ.องค์การบริหารส่วน จังหวัด พ.ศ. 2540 มาตรา 35/1 ก็ตาม แต่เห็นว่าหากตนเป็นผู้สมัคร นายก อบจ.สงขลา ที่ได้รบความ ฃไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนชาวสงขลาต่อไปแต่ถ้าระหว่างการดำรงตำแหน่ง นายก อบจ.สงขลา หากศาลฎีกามีคำพิพากษาให้ลงโทษจำคุกในลักษณะเดียวกับศาลชั้นต้นหรือศาลอุทธรณ์ ความเสียหายย่อมเกิดกับทางราชการเพราะต้องจัดการเลือกตั้งนายกอบจ.สงขลาใหม่อีกครั้ง สิ้นเปลืองงบประมาณของ อบจ.สงขลา ประมาณ 70 กว่าล้านบาท และทำให้พี่น้องประชาชนต้องเดือดร้อนออกมาใช้สิทธิกันใหม่ ประกอบกับทีมทนายความที่รับผิดชอบว่าความให้มีความเห็นว่ามีแนวโน้มสูงที่ศาลฎีกาจะพิพากษาว่าตนระทำผิดและอาจจะถูกลงโทษตามที่อัยการฟ้อง ตนจึงตัดสินใจไม่สมควรรับเลือกตั้งนายกอบจ.สงขลา
7.ดังนั้นการตัดสินใจของตนไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายก อบจ.สงขลาครั้งหน้าตามที่มีกระแสข่าว จึงไม่ได้เกิดจากความไม่เสียสละ ไม่ได้เกิดจากความกลัวที่จะแพ้การเลือกตั้ง ไม่ได้เกิดจากความกลัวหรือสมยอมให้กับการทุจริตคอร์รัปชันหรือทุนสีเทา ที่พี่น้องประชาชนหวาดระแวง แต่ตนมองถึงความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาปฏิบัติตนในแนวทางนี้มาโดยตลอด จะเห็นได้ว่าในการเลือกตั้งใหญ่ที่ผ่านมา ตนสังกัดพรรคไทยภักดี สามารถลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น สส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งได้ แต่ตนมีหลักคิดเช่นเดียวกันว่า หากประชาชนให้ความไว้วางใจแล้ว ต่อมาตนต้องถูกคำพิพากษาให้จำคุกก็ต้องพ้นจากตำแหน่ง สส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งในการเลือกตั้งครั้งนั้น จึงตัดสินใจลงสมัคร สส. แบบบัญชีรายชื่อ เพราะหากพ้นจากตำแหน่งไปก็สามารถเลื่อนลำดับถัดไปขึ้นแทน โดยไม่ต้องจัดการเลือกตั้งใหม่ให้สิ้นเปลืองงบประมาณของทางราชการ
8.ในการเลือกตั้งนายก อบจ.สงขลา ครั้งหน้าหวังว่าประชาชนชาวจังหวัดสงขลาจะตื่นรู้ว่าผู้สมัครรายใดตั้งใจจริงเพื่อพี่น้องประชาชนหรือ ผู้สมัครรายใดอาศัยอิทธิพลหรือทุนสีเทาในการเข้าสู่ตำแหน่ง สำหรับ ก็จะคอยให้กำลังใจและสนับสนุนผู้สมัครที่มีประวัติดีมีที่มาดีและมีความตั้งใจเข้ามาทำงานเพื่อรับใช้ พี่น้องประชาชน
"ผมขอเสนอให้ผู้ที่กำลังจะสมัครนายก อบจ.สงขลาทุกคน ให้แข่งขันกันโดยสุจริตเที่ยงธรรม จัดทำนโยบายที่ดีมีประโยชน์มาเสนอให้ประชาชนได้รับทราบ และขอให้สู้กันในกติกาโดยชอบด้วยกฎหมาย ต่อไป ผมขอขอบพระคุณพี่น้องประชาชนที่ปรารถนาดีต่อผม ต่อการพัฒนาจังหวัดสงขลาให้เจริญก้าวหน้า" นายถาวรกล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
การเมืองระอุ! เช็กชื่อ 'รมต.-พรรค' หลัง 'ทักษิณ' เห่าลั่นทำตัวอีแอบ ไม่ใช่ลูกผู้ชาย
สืบเนื่องจากกรณี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวระหว่างบรรยายพิเศษหัวข้อ สถานการณ์ทิศทางโลกและการปรับตัว ในงานสัมมนาพรรคเพื่อไทย ที่หัวหิน จ.ประจวบ
มั่นมาก 'ทักษิณ' ลั่นวันนี้ไม่หมูแล้ว ขู่เช็คบิลกราวรูด!
นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าว ระหว่างเป็นวิทยากรพิเศษ บรรยายพิเศษหัวข้อ สถานการณ์ทิศทางโลกและการปรับตัว ใน
'เพื่อไทย' พร้อมหนุนภรรยา 'สจ.โต้ง' หากต้องการลงสมัครนายก อบจ.ปราจีนบุรี
นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงความชัดเจนในการส่งผู้สมัครนายก อบจ. ปราจีนบุรี
'ประเสริฐ' รับเพื่อไทยยังไม่มีผู้สมัครนายก อบจ.โคราช หลัง 'ยลดา' เมียกำนันป้อ ประกาศลงอิสระ
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีนางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นครราชสีมาที่ลาออกไป
ภรรยา 'กำนันป้อ' ไขก๊อกนายก อบจ.โคราช ก่อนหมดวาระ 6 วัน ลงสมัครอีกสมัยนามอิสระ
นางยลดา หวังศุภกิจโกศล ว่าที่ผู้สมัคร นายก อบจ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า ได้ยื่นหนังสือลาออก ให้มีผลวันที่ 12 ธันวาคม
อดีตบิ๊กเพื่อไทย หวังจะไม่ใช่ขบวนรถไฟเที่ยวสุดท้าย!
นายสามารถ แก้วมีชัย อดีตรองหัวหน้าพรรคเพื่ิไทย โพสต์เฟซบุ๊กว่า “วันนี้ นายกฯ อดีตนายกฯ สส พรรคแกนนำรัฐบาล นั่งรถไฟ