'ดร.ณัฏฐ์' ชำแหละร่างพรบ.จัดระเบียบกลาโหม ไม่ช่วยสกัดยึดอำนาจได้

"ดร.ณัฏฐ์" มือกฎหมายมหาชน เผย ร่าง พรบ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม ลับลวงพราง ทำให้ทหารของพระราชาอยู่ภายใต้พลเรือน ฟันธงไม่สามารถแก้ปัญหายึดอำนาจได้

7 ธ.ค.2567 - สืบเนื่องจากนายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยและคณะ ได้เสนอสาระสำคัญของ ร่างพระราชบัญญัติ จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม (ฉบับที่ ..) พ .ศ. ซึ่งอยู่ระหว่างกระบวนการตามรัฐธรรมนูญมาตรา 77 วรรคสอง ในการรับฟังความคิดเห็นจากภาคส่วนที่เเกี่ยวข้อง

ดร.ณัฐวุฒิ วงศ์เนียม หรือ “ดร.ณัฏฐ์” นักกฎหมายมหาชน กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า  ร่างพระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม (ฉบับที่ ..) พ.ศ...ที่ นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยนำเสนอ เป็นลับ ลวง พราง อาศัยจังหวะที่พลเรือนคุมทหารมาปรับแก้ ส่งผลให้กองทัพ ทหารของพระราชา อยู่ภายใต้อำนาจพลเรือน  

แม้มีเจตนามุ่งหมายเพื่อป้องกันทหารในการยึดอำนาจก่อการรัฐประหาร และอ้างถึงการเจริญเติบโตหน้าที่การงานของทหารชั้นนายพลที่ไม่มีเส้นสายสัมพันธ์กับผู้บริหารห้าเสือในกองทัพเพื่อสืบทอดอำนาจหรือไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตามถือเป็นการกดทับให้กองทัพอยู่ภายใต้อำนาจทางการเมือง ภายใต้การนำของรัฐบาลพลเรือน

ดร.ณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า แม้การออกแบบใหม่ ให้นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และผ่านการนำเสนอเห็นชอบโดยมติคณะรัฐมนตรี แต่ถือว่าเป็นการแทรกแซงกิจการภายในและการบริหารจัดการของกองทัพ ไม่ต่างจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่นายกรัฐมนตรีมีอำนาจเด็ดขาดในการเคาะว่า ใครสมควรจะเป็น ผบ.ตร.

นักกฎหมายมหาชน มองว่าร่าง พร.ร.บ.ดังกล่าวนี้ เป็นการออกแบบกินรวบของฝ่ายการเมือง โดยฝ่ายบริหาร ให้ทหารอยู่ภายใต้อำนาจทางการเมือง ซึ่งจะมีผลกระทบต่อความมั่นคง เพราะประเทศไทย ปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งมีองค์ประกอบ คือ ระบอบประชาธิปไตย และสถาบันกษัตริย์

“การออกแบบการปรับเปลี่ยนอำนาจภายในกองทัพรูปแบบใหม่ ไม่ได้แก้ปัญหาการยึดอำนาจ รัฐประหาร ต้องให้ทหารจัดการกันเอง พลเรือนจะไปกำกับควบคุมทหารไม่ได้ โดยเฉพาะทหารของพระราชา จะต้องค้ำจุนราชบัลลังก์เพื่อให้สถาบันพระมหากษัตริย์มีความยืนยง มั่นคงสถาพร ตลอดไป”

ดร.ณัฐวุฒิ ย้ำว่าแม้การออกแบบ ห้ามทหารทำการรัฐประหาร ในร่างพระราชบัญญัติ ฯ มาตรา 35 ที่ว่า “ห้ามมิให้ใช้กำลังทหารหรือข้าราชการทหารเพื่อกระทำการดังต่อไปนี้  (1) เพื่อยึดหรือควบคุมอำนาจการบริหารราชการแผ่นดินจากรัฐบาล หรือเพื่อก่อการกบฏ (2) เพื่อขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ราชการของส่วนราชการต่างๆ

ส่วนวรรคสอง ที่ว่า ข้าราชการทหารผู้ใดได้รับคำสั่งให้กระทำการตามวรรคหนึ่ง ย่อมมีสิทธิ์ที่จะไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนั้นได้ โดยมิให้ถือว่าเป็นการกระทำผิดวินัยทหารหรือกฎหมายอาญาทหาร”

ซึ่งในทางปฏิบัติไม่อาจห้ามทหารได้ เหมือนกับการเขียนเสือให้วัวกลัว เพราะเงื่อนไขที่กองทัพจะเข้ามายึดอำนาจได้นั้น เพราะการกระทำของรัฐบาลเองทั้งสิ้น การยึดอำนาจก็เพราะหยุดอำนาจของรัฐบาลที่ทำให้ประเทศเสียหาย

ขอตั้งข้อสังเกตว่า หากทหารไม่เชื่อฟัง และฝ่าฝืน กระทำการรัฐประหารสำเร็จ มีฐานะเป็นรัฏฐาธิปัตย์จะมีความผิดอาญาหรือไม่ เพราะเท่าที่อ่านร่าง พรบ.ฯ ไม่มีโทษทางอาญา ประกอบกับศาลฎีกาเคยวินิจฉัยไว้เป็นบรรทัดฐานตามคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 45/2496 ว่า  การที่คณะรัฐประหารยึดอำนาจการปกครองได้สำเร็จ คณะรัฐประหารย่อมมีอำนาจที่จะเปลี่ยนแปลงแก้ไขยกเลิกและออกกฎหมายตามระบบแห่งการปฏิวัติเพื่อบริหารประเทศชาติได้และมีสถานะเป็น “รัฏฐาธิปัตย์” ซึ่งคำว่า รัฏฐาธิปัตย์ของคณะรัฐประหารที่ยึดอำนาจสำเร็จ หมายถึง ผู้มีอำนาจสูงสุดในประเทศ

เมื่อถามว่า ร่างพระราชบัญญัติ จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม (ฉบับที่ ..) พ.ศ...ให้อำนาจนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการจัดลำดับนายพลและเลื่อนชั้นนายพลด้วย และนำเสนอ ครม. เห็นว่าอย่างไร ดร.ณัฐวุฒิ กล่าวว่า ทหารกับตำรวจ แยกต่างหากจากกัน ตามพรบ.สำนักงานตำรวจแห่งชาติฯ ให้นายกรัฐมนตรี กุมอำนาจเป็นประธานในการเลือกว่า บุคคลใดเหมาะสมเป็น ผบ.ตร. แม้กระทำในรูปคณะกรรมการก็ตาม แต่นายกรัฐมนตรีมีอำนาจเด็ดขาด แต่ผู้นำทหาร ให้อำนาจ ทหารเลือกกันเอง แม้จะกระทำในรูปแบบคณะกรรมการ แต่ร่างฯพรบ.ใหม่ ทำให้ทหารของพระราชา จะต้องถูกกำกับควบคุมโดยพลเรือน แม้จะผ่านมติ ครม. จะเกิดปัญหาการแทรกแซงทหารโดยพลเรือน  ส่งผลให้ทหารอยู่ภายใต้นักการเมือง

”ถึงฤดูกาลแต่งตั้งทหารชั้นนายพลและห้าเสือภายในกองทัพ จะวิ่งฝุ่นตลบ เพื่อเข้าสู่ฐานอำนาจเพราะในทางการเมือง ฝ่ายบริหารจะแต่งตั้งคนของตนเองเข้ามานั่ง โดยอ้างตความเหมาะสม แต่จะมีความสามารถในการบริหารงานหรือไม่ อีกเรื่องหนึ่ง ทำให้ระบบทหารอ่อนแอ ย่อมส่งผลกระทบต่อความแข็งแกร่งของกองทัพ เพราะการออกแบบใหม่ตามร่าง พรบ.ใหม่ จะอ้างเหตุผลร้อยแปดก็ตาม เพื่อให้พลเรือนมีอำนาจเด็ดขาดในการควบคุมกำกับทหาร“ ดร.ณัฐวุฒิกล่าว

ส่วนที่ถามว่า ร่าง พรบ.ฯ ข้อเท็จจริงพบว่า ทหารยึดอำนาจ ที่ให้อำนาจนายกรัฐมนตรีในการสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ไว้เป็นการชั่วคราว มีความเห็นว่าอย่างไร นักกฎหมายมหาชน มองว่าเป็นชิงเหลี่ยม ชิงไหวชิงพริบ ระหว่างที่ทหารกำลังยึดอำนาจ ที่ให้อำนาจฝ่ายบริหาร โดยนายกรัฐมนตรี เห็นชอบโดยมติคณะรัฐมนตรี สั่งปลดกลางอากาศ เช่น การยึดอำนาจสำเร็จ แต่นายกรัฐมนตรีตั้งรัฐบาลผลัดถิ่น ใช้อำนาจต่อสู้ฝ่ายทหารที่ยึดอำนาจ จะเห็นได้จาก ร่าง พรบ.มาตรา 35/1 เมื่อปรากฏข้อเท็จจริงว่านายทหารชั้นสัญญาบัตรผู้ใดได้กระทำการหรือตระเตรียมการเพื่อกระทำการตามมาตรา 35 วรรคหนึ่ง (1) ให้นายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี มีอำนาจให้นายทหารผู้นั้นหยุดปฏิบัติหน้าที่ไว้เป็นการชั่วคราวในระหว่างรอการสอบสวนโดยไม่ต้องปฏิบัติตามขั้นตอนการสั่งพักราชการตามที่กฎหมายกำหนดไว้

”การออกแบบเพื่อให้อำนาจฝ่ายบริหาร นายกรัฐมนตรี ใช้อำนาจทหารปลดกลางอากาศ แต่อย่าลืมว่า หากกระทำโดยมิใช่ทหาร แต่เป็นทหารนอกราชการหรือทหารชั้นประทวนกับพลเรือน  นายกรัฐมนตรี ไม่สามารถใช้อำนาจปลดได้ เพราะมาตรานี้ มุ่งหมายถึงข้าราชการทหารนายทหารชั้นสัญญาบัตร  
แต่ข้อเท็จจริง หากยึดอำนาจ กองทัพจะประกาศกฎอัยการศึก นายกรัฐมนตรีแม้จะมีอำนาจตามมาตรา 35/1 ตามร่าง พรบ.ใหม่ แต่อำนาจเด็ดขาดเป็นของกองทัพ ในการประกาศกฎอัยการศึก โดยฝ่ายบริหาร นายกรัฐมนตรี ไม่อาจสั่งยกเลิกประกาศกฎอัยการศึกได้ เพราะต้องกระทำโดยพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ โดยพระบรมราชโองการยกเลิกกฎอัยการศึก ดังนั้น หากร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ ผ่าน จะทำให้ทหารอยู่ภายใต้การเมือง และขาดอิสระ ส่งผลกระทบต่อความเสถียรภาพความมั่งคงของกองทัพตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้“ ดร.ณัฐวุฒิ กล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

แฉเล่ห์เขมร ส่งหนังสือเจรจาหยุดยิง เสนอให้ถอยกำลังทหารกลับไปจุดเดิมก่อนปะทะ

พลตรีสุรสันต์ คงศิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่พลเอก เตีย เซรย ฮา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชาออกมา ชี้แจงหนังสือที่ส่งถึงไทยไม่ใช่เป็นการขอเจรจาหยุดอิงว่า เรื่องของการหยุดยิงหรือไม่หยุดยิงนั้นได้ มีการชี้แจงไปแล้วในช่วงการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ

กห. เผยหากผลประชุม GBC ราบรื่น 27 ธ.ค. จะมีการลงนาม รมต.กลาโหม ไทย-กัมพูชา

พลเรือตรี สุรสันต์ คงศิริ โฆษก กระทรวงกลาโหม กล่าวว่า วันนี้เป็นวันแรกที่ไทยและกัมพูชา จัดการประชุมฝ่ายเลขา คณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ไทย - กัมพูชา ที่บริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาด จังหวัดจันทบุรี ซึ่งการประชุมจะเริ่มต้นในช่วงเวลาประมาณ

ไทยทุบโต๊ะ! ไม่เปลี่ยนที่ประชุม GBC จันทบุรี ชี้จะจบหรือไม่อยู่ที่กัมพูชาต้องทำตามเงื่อนไข

วางไทม์ไลน์ GBC ที่จังหวัดจันทบุรี วันที่ 24 - 27 ธันวาคมนี้ กห.ชี้การหารือครั้งนี้จะสำเร็จหรือไม่อยู่ที่ฝ่ายกัมพูชา ระบุ แถลงการณ์อาเซียน ย้ำชัดถึงความสำคัญในการเก็บกู้ทุ่นระเบิด หมดเวลากัมพูชาหาข้ออ้าง ชี้ หากยังคงบ่ายเบี่ยง ไทยจะให้ AOT ตรวจสอบ และร่วมประณาม

ไทยงัดหลักฐานเด็ดโชว์ 'ทูตพิเศษจีน' กัมพูชาใช้หมู่บ้านอำพรางฐานยิงจรวด BM-21

ศูนย์แถลงข่าวร่วม สถานการณ์ไทย-กัมพูชา นำโดย พลเรือตรี สุรสันต์ คงสิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม ซึ่งมีการเปิดคลิปวิดีโอยืนยันหลักฐานการเคลื่อนที่ของทหารที่ยิงจรวด BM-21 โดยใช้พื้นที่หมู่บ้านในการอำพรางตัวเองและใช้พื้นที่ดังกล่าวเป็นฐานที่ยิงจรวด BM-21

ดร.ณัฏฐ์ ชี้ชัดบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ เกิดรัฐบาลผสม ไม่มีพรรคใดชนะเบ็ดเสร็จ

“ดร.ณัฏฐ์” ชี้ระบบ “บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ” เกิดรัฐบาลผสม ไม่มีพรรคการเมืองใด ชนะเลือกตั้งเบ็ดเสร็จ เปิดตัวทีม “ว่าที่รองนายกรัฐมนตรี” ไม่มีกฎหมายบัญญัติห้ามไว้

สมช. จ่อเคาะมาตรการสกัดส่งยุทธปัจจัย ช่วยคนไทยในเขมรกลับบ้าน

'ฉัตรชัย' เผยนายกฯ หารือก่อนถก สมช. 16 ธ.ค. เคาะมาตรการสกัดส่งยุทธปัจจัย-ช่วยคนไทยในเขมรกลับประเทศ พร้อมจับตาปมจับสายลับ ยึดขีปนาวุธสัญชาติจีน