'แพทองธาร' ลุยสันกำแพง ติดตามแก้น้ำท่วม ชาวบ้านชูเป็นกัปตันซอฟต์พาวเวอร์

‘อิ๊งค์’ ลงสันกำแพง ติดตามโครงการก่อสร้างทางแยกต่างระดับ ชาวบ้านทำป้ายนายกฯใส่ชุดซุปเปอร์ฮีโร่ กัปตัน Soft Power ก่อนร่วมงาน Northern Coffee Gathering 2024 ล้อมวงคุยผลักดันผลิตภัณฑ์กาแฟ

29 พ.ยง2567 - เวลา 16.10 น. ที่จังหวัดเชียงใหม่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ติดตามโครงการด้านโครงสร้างพื้นฐานเพื่อฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย และโครงการสำคัญที่กระทรวงคมนาคมได้รับการจัดสรรงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2568 ณ โครงการก่อสร้างทางแยกต่างระดับ ทล.121 ตัด ทล.1317 ตำบลสันกลาง อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ รวมถึงดูแผนการพัฒนาถนนวงแหวนรอบเมืองเชียงใหม่รอบที่ 3

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การลงพื้นที่ดังกล่าวได้มี ประชาชนในอำเภอสันกำแพงรวมตัวกันให้กำลังใจ น.ส.แพทองธาร และมีการทำป้ายรูป น.ส.แพทองธาร สวมชุดซุปเปอร์ฮีโร่หญิง พร้อมข้อความ “Soft Power อำนาจแห่งความสร้างสรรค์ เพื่อสรรค์สร้างเศรษฐกิจไทย CAPTAIN SOFT POWER ชาวอำเภอสันกำแพงขอร่วมขับเคลื่อนนโยบาย soft power อย่างเต็มพลัง” ซึ่ง น.ส.แพทองธาร ได้เซ็นชื่อที่ป้ายดังกล่าว

นอกจากนี้ชาวบ้านยังชูป้ายให้กำลังใจ ข้อความว่า จาวสันกำแพง ฮักนายก อุ๊งอิ้ง จ๊าดนัก..จ้าว , ชาวสันกำแพงฮักนายกฯคนเมือง นายกแม้ว นายกปู นายกอุ๊งอิ๊ง และข้อความ ปี้น้องสันกำแพง ขอฮ่วมขับเคลื่อนนโยบาย soft power อย่างสุดแฮงเจ้า ขณะที่ชาวบ้านในพื้นที่ยังมอบพวงมาลัยดอกดาวเรืองคล้องคอให้นายกฯ โดยนายกฯกล่าวว่า ขอบคุณคะและขอให้สุขภาพแข็งแรง

จากนั้นเวลา 16.40 น. นายกฯ เดินทางมายังศูนย์วัฒนธรรมเชียงใหม่ OLD Chiang Mai ตำบลหายยา อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อร่วมงาน Northern Coffee Gathering 2024 โดยมีรัฐมนตรีเข้าร่วม อาทิ นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม นอกจากนี้ยังมี นายปิฎก สุขสวัสดิ์ สามี ด.ญ.ธิธาร สุขสวัสดิ์ บุตรสาว และด.ช.พฤจ์ธาษิณ สุขสวัสดิ์ บุตรชาย มาร่วมภายในงานด้วย

เมื่อมาถึงนายกฯได้เยี่ยมชมร้านค้าต่างๆภายในงาน และอุดหนุนผลิตภัณฑ์ เช่น ผลิตภัณฑ์แฮนด์เมดกระเป๋าผ้าฝ้าย หมวกผ้าฝ้าย เป็นต้น และยังได้ซื้อไอศกรีมให้ลูกๆ จากนั้นนายกฯเข้าร่วมกิจกรรมล้อมวงคุยกับนายกฯ ที่เป็นวงพูดคุยระหว่างนายกฯกับผู้ประกอบการกาแฟ โรงแรม และการท่องเที่ยวในพื้นที่

นายกฯ กล่าวว่า วันนี้รู้สึกดีใจที่ได้มาพูดคุยกันในบรรยากาศสบายๆ เราไม่ต้องเครียดแม้กล้องจะเยอะ ขอให้พูดคุยกัน แม้ว่าเราจะคุยกันกลุ่มเล็กๆ แต่สามารถแจ้งได้ว่าอะไรคือปัญหาที่เจออยู่ ตอนแรกที่โฟกัสในเรื่องของกาแฟคิดว่าถ้ากาแฟถูกส่งเสริมเยอะๆโดยรัฐบาล จะสามารถเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถสร้างชื่อให้กับเรา ความจริงเป็นคนไม่ดื่มกาแฟ เพราะคึกมากอยู่แล้ว แต่อยู่ในบ้านที่มีคนดื่มกาแฟอยู่แล้ว ถ้ามีชวนไปคาเฟ่ก็รู้สึกบรรยากาศสนุกสนานไปด้วย แต่ทานไปแล้วรู้สึกขม ตอนที่ทำโรงแรมได้มีการรับซื้อกาแฟจากของทางเหนือไปขายที่โรงแรมตัวเองและรู้สึกว่ามีหลายแบบให้เลือกเยอะมาก เขาเอามาให้เลือก โดยการดมและรู้สึกว่ากลิ่นต่างๆของไทยของทางเหนือไม่เหมือนกัน บางอย่างมีน้อยมากและผลิตได้น้อย จึงคิดว่าถ้าตอนนี้รัฐบาลช่วยกันส่งเสริมชุมชนกาแฟทั้งหมดมาพูดคุยกัน และบอกปัญหา ความต้องการ คิดว่ารัฐบาลน่าจะสนับสนุนได้ถูกจุด วันนี้จึงอยากฟังทุกๆท่าน จากประสบการณ์คิดว่าเจอปัญหาอะไรบ้างและจะช่วยอะไรได้บ้างมาพูดคุยกันให้ตรงประเด็น

ด้านตัวแทนผู้ประกอบการ ได้สะท้อนปัญหา ว่า อยากให้มีนโยบายฟื้นฟูพื้นที่ป่าเชิงดอย เพราะการทำลายป่าปลูกพืชเชิงเดี่ยวส่งผลกระทบต่อน้ำ ทำให้เกิดไฟป่า ไร่กาแฟได้รับความเสียหาย ถ้าแก้ปัญหาตรงนี้กาแฟก็จะมีคุณภาพมากขึ้น สภาพอากาศดีขึ้น ดึงดูดนักท่องเที่ยว และอยากให้มีที่รวบรวมข้อมูลด้านกาแฟที่เหมาะกับสภาพอากาศในเมืองไทย จะทำให้มีการพัฒนาคุณภาพกาแฟในเมืองไทยและอยากให้ปรับภาษีกาแฟให้มีตัวเลขที่เหมาะสม ให้กาแฟไทยสามารถแข่งขันกาแฟต่างชาติได้ และกาแฟถือเป็นซอฟต์พาวเวอร์ ที่การผลิตในปัจจุบันลดลง แต่ความต้องการมากขึ้น จึงเป็นจังหวะที่ประเทศไทยจะประกาศว่าเราสามารถผลิตกาแฟได้มากขึ้น และมีนักชงกาแฟคุณภาพเทียบชั้นนานาชาติ

ขณะที่ผู้ประกอบการโรงแรม ขอบคุณรัฐบาลชุดนี้ที่บูรณาการการท่องเที่ยว และขอบคุณที่กระตุ้นการท่องเที่ยวไตรมาส 4 ที่ผ่านมา แต่มองว่าบางกิจกรรมมีระยะสั้นเกิดไป อยากให้มีส่วนร่วมกับผู้ประกอบการเพื่อความยั่งยืนมากขึ้น โดยใช้เทศกาลเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

นายกฯ กล่าวในช่วงท้ายว่า กาแฟที่ไปประกวดมีมากมายหลายตัว ตนได้ยินมาตลอด ตอนได้ทำซอฟต์พาวเวอร์ได้คุยกับวงการกาแฟเยอะ คนมีความสามารถเยอะ ตั้งแต่เริ่มปลูกมีผลผลิตมากมาย เราขายได้แน่นอนไม่ได้เชียร์กันเอง เราเห็นมารอบโลกอยู่แล้ว และผลิตภัณฑ์ของเราน่าขายถ้าต่างชาติมาเห็น ขายได้แน่นอน อันนี้คิดว่าเป็นซอฟต์พาวเวอร์จริงๆ แน่นอนเรื่องของภาษีและกฎหมายที่มีมายาวนาน 30 ปีอัพ บางทีโลกมันเปลี่ยนเร็ว เพราะมันอยู่ในยุคของดิจิทัล จะไปเอไอ กฎหมายบางอันมันไม่ได้จริงๆ ซึ่งเรื่องนี้จะทำขึ้นมาเพื่อให้ไปว่ากันในสภาฯ เพราะถือเป็นเรื่องที่จำเป็น เรื่องภาษีจะขอดูในเรื่องราคากลางของกาแฟ ไม่อยากจะเซ็ตราคากลาง เพราะอาจจะทำให้เกิดความไม่พอใจในที่นี้ เพราะเป็นเรื่องที่เซนซิทีฟ ไม่แน่ว่าอาจจะต้องขอเชิญพูดคุยกันเพิ่มเติม เพื่อทำเรื่องนี้ให้มันจริงจัง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

การเมืองไทยปี 68 เข้มข้น-ขับเคี่ยว-ร้อนแรง ซักฟอกมี.ค.-ปรับครม.กลางปี

การเมืองไทยไม่ว่าปีไหนๆ ก็มีประเด็นร้อนเกิดขึ้นได้ตลอด บางเรื่องเกิดขึ้นตามปฏิทินการเมือง แต่บางประเด็นเป็นความร้อนแรงที่แทรกขึ้นมาแบบไม่มีใครคาดคิดมาก่อน

‘แพทองธาร’ เข้าพบ ‘สุรยุทธ์’

นายกฯ เผย สมเด็จพระสังฆราชประทานพรให้แข็งแรง ดูแลบ้านเมืองให้สงบ พร้อมเข้าขอพรปีใหม่ประธานองคมนตรี สักการะพระแก้วมรกต-ศาลหลักเมือง

ประธานองคมนตรี อวยพรนายกฯแพทองธาร ประสบความสำเร็จในการทำงานเพื่อชาติบ้านเมือง

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าพบ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลนนท์ ประธานองคมนตรี ที่ทำเนียบองคมนตรี เพื่อกราบขอพรเนื่องในเทศกาลปีใหม่ โดยพล.อ.สุรยุทธ์ ได้อวยพรให้นายกรัฐมนตรี

'ปชน.'ถอย'ม.112'แลกอุดมการณ์ เพิ่มคะแนนนิยม'เท้ง'เฉือน'อิ๊งค์'

ผลสำรวจความเห็นของประชาชน 'นิด้าโพล' สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) หัวข้อ ความนิยมทางการเมือง ในไตรมาส 4 ปลายปี 2567 ให้ผลที่น่าสนใจ เมื่อ 'เท้ง’- นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) เป็นนักการเมืองที่ประชาชนสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีมากที่สุดอันดับ 1

นายกฯอิ๊งค์ ควงสามี ทำบุญปีใหม่ อุบตอบขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทำเนียบฯ

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายปิฎก สุขสวัสดิ์ คู่สมรส เดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาล เมื่อมาถึงนายกฯทักทายสื่อมวลชนว่า “สวัสดีปีใหม่” อย่างอารมณ์ดี จากนั้นนายกฯเป็นประธานในพิธีทำบุญเนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช 2568

ปี67‘อดีตสว.’ขยับสะเทือนถึงรัฐบาล ถอดถอน‘เศรษฐา’ที่มาของหลายเรื่อง

การเมืองรอบปี 2567 เหตุการณ์ที่ใหญ่ที่สุดต้องยกให้กับศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ “เศรษฐา ทวีสิน” พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ทำให้ “แพทองธาร ชินวัตร” กลายเป็นนายกฯ หญิงคนที่ 2 ของประเทศไทย และทำให้หลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นตามมา วันนี้จึงขอบันทึกเรื่องราวนี้ไว้ ยกให้เป็นเหตุการณ์แห่งปี