
เจ้าสำนัก”อุดรโพล”ชี้ หากพท.อยากชนะ พิธา-พรรคส้มให้ขาด ต้องใช้วิธี”ป่าล้อมเมือง”สถานเดียว ยอมรับ แม้ว-ทิม ยกทัพใหญ่มา มีผล แพ้-ชนะ เผยสู้กันเดือด โค้งสุดท้ายระวัง คืนหมาหอน
17 พ.ย.2567 – จากกรณีที่มีการเผยแพร่ผลสำรวจ โพลการเลือกตั้งนายกฯอบจ.อุดรธานี ที่ทำโดย ผศ.ดร.เสกสรร สายสีสด หัวหน้าหลักสูตรนิเทศศาสตร์ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ที่เผยแพร่”อุดรโพล” สำรวจความคิดเห็นของชาวอุดรธานีที่มีต่อการเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2567 ซึ่งผลสำรวจ ออกมาว่า นายคณิศร ชูริรัง ผู้สมัครจากพรรคประชาชน มีคะแนนนิยม มาเป็นอันดับ 1คิดเป็นร้อยละ 32.6 นำห่าง นาย ศราวุธ เพชรพนมพร ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทยที่ได้ ร้อยละ 15.2
ล่าสุด ผศ.ดร.เสกสรร เปิดเผยว่า ขณะนี้เข้าสู่ช่วงสัปดาห์สุดท้ายของการเลือกตั้งแล้ว ตามกฎหมายไม่สามารถทำโพลสำรวจความเห็นประชาชนชาวอุดรธานีได้อีก แม้จะมีคนอยากให้ทำอีกครั้งก็ตาม
เมื่อถามว่า การที่นายทักษิณ ชินวัตร ยกทัพใหญ่ของเพื่อไทยไปช่วงหาเสียงให้นายศราวุธเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะเดียวกันนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล และแกนนำพรรคก้าวไกลเดิม และพรรคประชาชนปัจจุบันไปช่วยหาเสียงให้นายคณิสร จะมีผลต่อการเลือกตั้งวันที่ 24 พ.ย.หรือไม่ ผศ.ดร.เสกสรร กล่าวว่า วิเคราะห์ได้จากผลโพลที่ได้จัดทำไป ก็คือ กลุ่มประชาชนที่ยังไม่ได้ตัดสินใจจะเลือกใคร ที่มีประมาณร้อยละ 47.9 ขึ้นอยู่ว่าจะสวิงโหวตไปทางไหน การมาของทั้งนายทักษิณและนายพิธา สามารถดึงคะแนนในแต่ละกลุ่มที่จะตัดสินใจเลือกได้ ที่ถึงตอนนี้ยอมรับว่าวิเคราะห์ได้ยากว่าใครจะชนะการเลือกตั้ง
ผศ.ดร.เสกสรร ระบุว่า แต่ที่เห็นชัดเลยคือ ในตัวเมือง-อำเภอเมือง ฝ่ายผู้สมัครพรรคสีส้ม จะได้คะแนนสูง เพราะมีฐานคะแนนอยู่หากดูจากการเลือกตั้งสส.ปี 2566 ที่ตอนนั้นพรรคก้าวไกล เอาชนะได้สส.เขต1 อำเภอเมืองมา และคะแนนส่วนนี้อาจจะมีผลมาถึงการเลือกตั้งนายกฯอบจ. อุดรธานีด้วย อย่างไรก็ตาม ในอำเภอ-พื้นที่รอบนอก ส่วนใหญ่จะเป็นแฟนพันธุ์แท้ของ เพื่อไทย ทำให้พื้นที่รอบนอกคะแนน คิดว่าน่าจะเป็นเพื่อไทย
ผศ.ดร.เสกสรร ระบุ การมาอุดรธานีของทักษิณและนายพิธา มีผลต่อการลงคะแนนเสียงของคนอุดรธานีมาก สร้างกระแสได้อยู่ เพราะแสดงให้เห็นว่าเขาเห็นความสำคัญของคนอุดรธานี แบบนี้ ยังไง คนอุดรธานี ก็ต้องคิดว่ายังไงต้องไปเลือกตั้ง เพราะมีแต่เบอร์ใหญ่ๆ มาลงพื้นที่อุดรธานี หากเพื่อไทยอยากได้คะแนนเยอะ ๆ ต้องใช้ยุทธวิธี ป่าล้อมเมือง คือจากปกติ ที่คนจะมาใช้สิทธิ์กันประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ เพื่อไทยต้องใช้วิธีป่าล้อมเมือง คือทำให้คนอุดรธานี ออกมาใช้สิทธิ์มากขึ้นคือไปที่ระดับออกมา 90 เปอร์เซ็นต์ ในเขตรอบนอก เพื่อมาตีกระแสของพรรคส้มในอำเภอเมืองให้ได้
“ยุทธวิธีแบบ ป่าล้อมเมืองน่าจะใช้ได้ เพราะในเมืองพรรคสีส้มแข็งพอสมควร ดูได้จากการปราศรัยใหญ่ของพรรคส้มที่เวทีหนองประจักษ์เมื่อคืนวันเสาร์ คนไปฟังกันเยอะมาก ห้าทุ่มแล้วคนยังอยู่กันที่หนองประจักษ์ ไม่ยอมเลิก ก็แสดงว่ากระแสพรรคส้มแรงอยู่ สถานการณ์ในพื้นที่อุดรธานี ตอนนี้ดุเดือด เข้มข้น และคงเป็นแบบนี้ไปจนถึงวันเลือกตั้ง” ผศ.ดร.เสกสรร กล่าว
ผศ.ดร.เสกสรร กล่าวว่าในช่วงโค้งสุดท้ายเจ็ดวันสุดท้ายก่อนวันลงคะแนนเสียง ถึงตอนนี้ ก็ยังประเมินไม่ได้ว่าใครจะชนะ เพราะยังสูสีอยู่ เพราะอย่างที่บอกคะแนนของพรรคส้มในเมืองก็ยังเยอะ ส่วนตัวแปรที่จะทำให้ฝ่ายไหนชนะก็ขึ้นอยู่กับกลยุทธ์ของแต่ละพรรค
“คืนหมาหอน ก็น่าจะมี ที่จะทำให้เป็นตัวแปรสำคัญ น่าจะเป็นตัวแปรอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้ คะแนนโดดหรือว่านำมามากพอสมควร” ผศ.ดร.เสกสรร ระบุ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สมัคร สส.บุรีรัมย์ 10 เขต วันแรกคึกคัก ภท.-ปชน.ลงครบ
เปิดรับสมัคร สส.บุรีรัมย์ 10 เขต วันแรกบรรยากาศคึกคัก หลายพรรคส่งผู้สมัครครบทุกเขต “ไชยชนก” นำทีมภูมิใจไทย ขณะที่ “ศิริกัญญา” นำทัพพรรคประชาชน ขอปักธงส้มในพื้นที่
'เท้ง' นำทัพผู้สมัคร ปชน.สมัครวันแรก โวลั่นภารกิจตัดสีเทาออกจากประเทศ
ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน นำทีมผู้สมัคร สส.กทม. 33 เขต นั่งรถเมล์ไฟฟ้าสีส้มเข้าสมัครรับเลือกตั้งวันแรก
เพื่อไทยเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร คนรุ่นใหม่เพียบ ดึงคนใกล้ชิดมดดำ เสริมทีมเลือกตั้ง
เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครพรรคเพื่อไทย คนรุ่นใหม่เพี๊ยบ น้องชาย-คนสนิท มดดำ / มดเล็ก-รวีภัทร์ อดีต สส.กอล์ฟ กาญจนบุรี จั๋ง พงศ์ศรัณย์ อดีตรองเลขาธิการนายกฯ
'อนุทิน' ถามใครหลอกประชาชนกันแน่ พรรคส้มคิดแก้ ม.112 ชัดเจน แถมยังจะล้างคดีให้ด้วย
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงโอกาสในการจัดตั้งรัฐบาล แต่หลายพรรคกลับปฏิเสธไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคกล้าธรรม ทำให้เกิดความกดดันกับพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ ว่า ฟังการตัดสินจากประชาชน
‘ไทยก้าวใหม่’ เคลียร์ปม ดร.เอ้ ยก ‘พิธา’ เป็นนักการเมืองในดวงใจ
นายคมสัน พันธุ์วิชาติกุล หรือ ดร.โจ้ รองโฆษกพรรคไทยก้าวใหม่ ได้โพสต์เฟซบุ๊ก
'เท้ง' โวย 'อนุทิน' สร้างวาทกรรม ปชน. แก้ ม.112 ทั้งที่พูดเรื่องนิรโทษกรรมคดีหมิ่นสถาบัน
นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวตอบโต้นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ว่า ต้องบอกว่าการยกมือในวันนั้น ไม่ใช่การเห็นด้วยกับการแก้ไขมาตรา 112 แต่เป็นการผลักดันเรื่องนิรโทษกรรมของนักโทษที่โดนคดีทางการเมือง

