'พิธา' เผยไม่ได้เห็นต่าง 'ทักษิณ' เรื่องเปลี่ยนโครงสร้าง เหน็บอย่ามัวแต่พูด ถึงเวลาต้องทำแล้ว

15 พ.ย.2567 - ที่จังหวัดอุดรธานี นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาคณะก้าวหน้าและอดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวระหว่างลงพื้นที่เป็นผู้ช่วยหาเสียงนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปราศรัยพาดพิง ฝากไปบอกพรรคประชาชนก่อนที่จะคิดออกกฏหมายใหม่ขอให้แก้กฎหมายเก่าเฮงซวยก่อน ว่า ข้อเท็จจริงน่าจะผิดนิดหนึ่ง

เพราะตอนที่เป็นอดีตพรรคก้าวไกล เราก็ทำเรื่องกิโยตินกฎหมาย ตอนที่เราขึ้นเวทีดีเบตกัน ก็จำได้ว่า พรรคเพื่อไทย ก็พูดเรื่องกิโยตินกฎหมาย ซึ่งทั้งหมดมีอยู่ 7,000 กว่าฉบับ เป็นพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) อยู่ 1,000 กว่าฉบับ แขวนได้ครึ่งหนึ่ง ตอนที่ตนไปพรรคเพื่อไทย เราก็พูดกันถึงเรื่องกิโยตินกฎหมาย แต่พอกลับมาดู 83 ฉบับ ที่พรรคประชาชนพยายามเสนอ มีการร่างกฎหมายใหม่ ก็เพื่อยกเลิกกฎหมายเก่า เช่น พ.ร.บ.ยุบกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.)

ฉะนั้น ตนก็คิดว่า รับคำท้าคุณทักษิณ เอาอย่างนี้ดีกว่า มีกฎหมายอะไรที่อยากจะยกเลิก ทั้งกฎหมายส่งออกข้าว ที่นายทักษิณพูดถึง รวมไปถึงอีก 3,000-4,000 ฉบับ ทั้งในระดับพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) หรือประกาศกระทรวง ที่คิดว่าล้าหลัง ไม่ทันสมัยแล้ว ยกเลิกได้เลย

เนื่องจาก ตอนที่เป็น 312 เสียง ยังรวมเสียงรัฐบาลอยู่ การไปประชุมพรรคเพื่อไทย ก็พูดกันเรื่องนี้ ซึ่งมีความเห็นที่หลากหลายว่า จะไปในทางไหน ถ้าจะเอาแบบพรรคไหน ก็เป็นประโยชน์กับประชาชน และเอสเอ็มอี ทั้งนั้น เพราะกฎหมายที่เยอะ ส่วนใหญ่ มีไว้ให้ใช้เพื่อดุลยพินิจ

ดังนั้น พอมีการใช้ดุลยพินิจ ก็คอรัปชั่นได้มากขึ้น เพราะฉะนั้น ก็รับคำท้าคุณทักษิณ มาช่วยกันยกเลิกกฎหมายเก่า ซึ่งบางเรื่องก็เป็นอำนาจ ของกระทรวง ทบวง กรม ยกเลิกได้ แต่บางอันก็ต้องเข้ารัฐสภา เพื่อเอากฎหมายใหม่ ยกเลิกกฎหมายเก่า ก็ขอให้ทำด้วยกัน

ส่วนกรณีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ที่นายทักษิณ ปราศรัย จนนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ออกมาระบุ จะทำให้คนเข้าใจผิดเรื่องของการจ้องรื้อโครงสร้าง ตนมองว่า บริบทยังไม่ชัดเจน ที่จะให้ความเห็นมากขนาดนั้น

แต่ในมุมมองของเรา ก็ยังยึดว่าการแก้ไขในสภาฯ น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด ตนไม่ได้ฟังนายทักษิณสัมภาษณ์ หรือปราศรัยชัดๆ เต็มๆ แต่เข้าใจว่าที่พูดว่ามาตรา 112 เป็นสิ่งที่เขาเป็นเหยื่อเช่นเดียวกัน และคิดว่าปัญหาของ 112 คือคณะกรรมการ และกระบวนการใช้

ดังนั้น หากมีคณะกรรมการ เข้ามากลั่นกรองว่าจะฟ้องหรือไม่ให้ฟ้องนั้น จะเป็นประโยชน์ เพราะกฎหมายอยู่ที่การปฎิบัติ ก็ตั้งเลย นี่ก็ผ่านมาปีกว่าแล้ว ถ้าเห็นแบบนั้น ก็ตั้งก่อนก็ได้ ถ้าแก้ไขไม่ได้ ตนก็คิดว่าอย่างน้อยอาจจะไม่ได้ตามวัตถุประสงค์ของเรา 100% แต่อาจจะได้ 50% ก็ยังดีกว่าไม่มีอะไรเลย

นายพิธา ย้ำว่า ตนเห็นด้วย ถ้าหากคิดว่าจะเริ่มต้นที่ตรงนั้น ขอให้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ตั้งคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้กฎหมายมาตรา 112 ในการฟ้องประชาชน จะได้ไม่มีการฟ้องแกล้งกัน ขณะเดียวกันหากทำแค่นี้แล้วยังมีปัญหาอยู่ ก็ถึงเวลาที่จะต้องแก้ไขตามกรอบที่ศาลรัฐธรรมนูญอนุญาต ซึ่งสามารถที่จะแก้ไขได้ เพื่อจะทำให้การเมืองของเรา ไม่เอาสถาบันพระมหากษัตริย์มาโจมตีกัน

ส่วนกรณีที่นายธนาธร กังวลถึงการที่นายทักษิณพูดถึงโครงสร้าง คนจะเข้าใจผิดอดีตพรรคก้าวไกล เรื่องรื้อโครงสร้างสถาบันนั้น นายพิธา ระบุว่า คงเป็นลักษณะนั้น แต่ก็ยังเชื่อมั่นในพี่น้องประชาชนจำนวนมาก ที่น่าจะแยกแยะออกได้ว่า อะไรดีหรืออะไรไม่ดี เพราะคำว่าการเปลี่ยนโครงสร้าง ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างทหารให้ทันสมัยมากขึ้น ให้รัฐบาลพลเรือนอยู่เหนือทหาร หรือการทลายทุนผูกขาด ก็ไม่ได้เห็นต่างกับนายทักษิณแต่อย่างใด

เพียงแต่หมดเวลาพูดแล้ว ถึงเวลาทำ บางเรื่องฝ่ายค้านริเริ่มได้รัฐบาลทำตาม บางเรื่องรัฐบาลก็ริเริ่ม ถ้าฝ่ายค้านเห็นว่าเป็นประโยชน์ กับประชาชน ก็ยินดีให้ความร่วมมือ เพราะฉะนั้น ไม่ว่าจะเป็นความเท่าเทียมทางโอกาส หรือการมีคณะกรรมการป้องกันการฟ้องการแกล้งด้วยมาตรา 112 ทำได้เลย เห็นด้วย หรือการยกเลิกกิโยตินกฎหมาย ก็ทำได้เลยเหมือนกัน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'เท้ง' โวย 'อนุทิน' สร้างวาทกรรม ปชน. แก้ ม.112 ทั้งที่พูดเรื่องนิรโทษกรรมคดีหมิ่นสถาบัน

นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวตอบโต้นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ว่า ต้องบอกว่าการยกมือในวันนั้น ไม่ใช่การเห็นด้วยกับการแก้ไขมาตรา 112 แต่เป็นการผลักดันเรื่องนิรโทษกรรมของนักโทษที่โดนคดีทางการเมือง

กังขา 'ปชน.' ไม่จับมือ 'กธ.' แต่จับมือ 'พท.' แม้ 'ทักษิณ-ประเสริฐ' แนบแน่น 'เบน สมิธ'

นายไทกร พลสุวรรณ แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน โพสต์ข้อความผ่าน เฟซบุ๊กระบุว่า พรรคประชาชนไม่จับมือตั้งรัฐบาลกับพรรคกล้าธรรม เพราะ ธรรมนัส สนิทกับ เบนสมิธ

’อนุทิน‘ ชัด ไม่ร่วมรัฐบาลพรรคประชาชน ปมยังเดินหน้าแก้ ม.112

หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ระบุจุดยืนชัด ไม่จับมือจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคการเมืองที่ยังมีนโยบายแก้ไขกฎหมายอาญา มาตรา 112 หลังดีเบตไทยรัฐทีวี ย้ำต่างอุดมการณ์ แต่ยังทำงานร่วมกันได้ หากเป็นเรื่องแก้ปัญหาประชาชน

ป.ป.ช. เลื่อนชี้ขาดคดี 44 อดีต สส.ก้าวไกล หลังยื่นขอความเป็นธรรม

นายสุรพงษ์ อินทรถาวร รองเลขาธิการกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) รักษาราชการแทนเลขาธิการป.ป.ช. กล่าวถึงกระแสข่าวคณะกรรมการป.ป.ช.ชุดใหญ่จะนัดลงมติคดีอดีต 44 สส.พรรคก้าวไกล ผิดจริยธรรมร้ายแรง กรณีการเข้าชื่อแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112

ไต่สวนเสร็จแล้ว! คดี 44 อดีตสส.ก้าวไกล รอลุ้น ประธาน ป.ป.ช. ชงชี้ชะตา 25 ธ.ค.นี้

ป.ป.ช. บรรจุวาระประชุมพิจารณา คดี 44 อดีต สส.ก้าวไกล กรณีถูกกล่าวหาว่าฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมฯอย่างร้ายแรง ในการร่วมลงชื่อ และยื่นเสนอร่างแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ซึ่งเดิมคาดว่าจะมีการบรรจุวาระในวันที่ 25 ธ.ค.นั้น

‘เท้ง’พลาดซ้ำ รีบผลัก‘ภท.’ พา‘พรรคส้ม'ผูกมัดตัวเอง

ไม่ว่าจะคิดมาดีแล้ว หรือไม่ทันระวัง การรีบประกาศว่า หากพรรคภูมิใจไทยเป็นรัฐบาล พรรคประชาชนจะไปเป็นฝ่ายค้านของ ‘เท้ง’ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ถือเป็นเรื่องที่นักเลือกตั้งซึ่งมีประสบการณ์ทางการเมืองสูงไม่เลือกจะทำ