14 พ.ย 2567 - นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์ว่า ทักษิณ ชินวัตร ปราศรัยหาเสียงช่วยผู้สมัครนายก อบจ. ที่อุดร จะวัดความนิยมอะไรไม่ได้ เพราะมีขบวนการจัดการระดมคนมาฟังมากกว่ามาด้วยความศรัทธาเชื่อมั่น นอกจากนี้ เสียงพูดบนเวทีกลับแผ่วเบาไม่ทรงพลัง ซึ่งคงอายุมากแล้ว ขณะที่เสียงต้อนรับจากประชาชนกลับไม่ดังกระหึ่ม น่าเกรงขาม โดยแสดงออกด้วยอารมณ์ร่วมแบบฝืดๆ
ในคำปราศรัยบางส่วนนั้น ทักษิณพูดไม่ชอบหน้าพวกค้ายาเสพติด พูดถึงการพนันออนไลน์มีการเล่นผ่านโทรศัพท์ทุกระบบถึง 2.5 ล้าน แต่รัฐบาลไม่ปราบอย่างจริงจัง ส่วนตัวเองคิดตั้งบ่อนคาสิโนในไทยถึง 10 แห่งทั่วประเทศ ดังนั้น จะเกิดพนันออนไลน์อีกมากมาย และเกิดอบายมุขตามมา จึงยากจะควบคุมได้
อย่างไรก็ตาม ทักษิณ พูดถึงการศึกษาสร้างคน แต่กลับสร้างบ่อนคาสิโนผลักดันให้เยาวชนเล่นพนันออนไลน์ มีชีวิตสุ่มเสี่ยงเป็นอาชญากรก่ออาชญากรรม ดังนั้น การศึกษาสร้างคนในประเทศที่สร้างบ่อนควบคู่กันไม่ได้ สิ่งนี้แสดงถึงทัศนคติสร้างชาติมีปัญหา
นายจตุพร กล่าวว่า การกระทำทางการเมืองยุคปัจจุบันสามารถทำให้เกิดจุดเปลี่ยนได้ ยิ่งการตระบัดสัตย์แล้วไม่รับผิดชอบ เกิดนโยบายสุ่มเสี่ยงกระทบต่อเขตแดนและผลประโยชน์ชาติ บางโครงการซ้อนการทำลายชาติ ขายชาติไว้ ฉะนั้นประชาชนควรคิดอ่านถึงการกระทำทางการเมืองเช่นนี้เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในวันข้างหน้า
อีกทั้งกล่าวว่า ทักษิณขออนุญาตกลับบ้านเพื่อเลี้ยงหลาน กลับใช้โอกาสนี้เคลื่อนไหวมวลชน ซึ่งไม่สมควรกระทำ เพราะต้องมีสัจจะวาจาต่อคำพูดของตัวเองด้วย ดังนั้น หากการเมืองไม่มีสัจจะวาจากันเช่นนี้ ย่อมโกหกประชาชนอยู่เรื่อย พฤติกรรมเช่นนี้ประชาชนจึงต้องตื่นตัวทางการเมืองเพื่อถ่วงดุลนักการเมืองไร้สัจจะวาจา
"การเมืองไทยไม่ใช่ระบอบประชาธิปไตย หรือเผด็จการ แต่เป็นระบอบหลอกลวงประชาชนและใช้เงินซื้อคะแนนเสียงเพื่อชัยชนะได้เข้าสู่อำนาจ แล้วใช้อำนาจไปหาเงิน และใช้เงินไปซื้ออำนาจเวียนกันแบบนี้ จึงไม่แปลกที่คิดจะทำบ่อน ทำไมต้องขายคอนโดฯ อยู่ 99 ปี ทำไมต้องดิจิทัลวอลเล็ต และทำไมต้องรีบเจรจาผลประโยชน์ใต้ทะเลก่อนตกลงเขตแดนกัน จึงเห็นได้ชัดว่าเงินคือปัจจัยและเป็นหนทางสู่อำนาจ ซึ่งประชาชนต้องลุกขึ้นมาขัดขวาง"
นายจตุพร กล่าวว่า การเมืองในระบอบหลอกลวงเป็นพฤติกรรมที่น่าละอาย หน้าด้าน เพราะสังคมไทยกำลังถูกปั้นให้เห็นผิดเป็นชอบ แค่สัจจะยังเชื่อไม่ได้ แล้วจะเชื่อการใช้จ่ายงบประมาณได้หรือ เรื่องสมบัติชาติจะเชื่อได้หรือ ดังนั้นทักษิณ จะปราศรัยกันกี่ครั้งก็ตาม ก็ให้รีบทำ เพราะหวังว่าสักหนึ่งจะกลับไปรับโทษที่เหลือ 1 ปี
"คนเราพอเสพอำนาจมันไม่สนใจวิธีการ เวลาหนึ่งอาจเห็นประชาชนมีความจำเป็น แต่วันหนึ่งก็เห็นประโยชน์จำเป็น แล้ววันหนึ่งก็กลับไปหาประชาชนเมื่อจำเป็น และพยายามหาเหตุผลใหม่เพื่อจะหลอกกันใหม่อีก ประชาชนก็พร้อมที่จะเชื่อคำหลอกใหม่ เราอยู่กันแบบนี้ไม่ได้"
พร้อมทั้งกล่าวว่า ประชาธิปไตยที่สร้างกันมาไม่แข็งแรงก็เพราะนักการเมืองทำตัวกันแบบนี้ ถ้านักการเมืองมีความทนงองอาจแล้ว หน้าไหนจะมายึดอำนาจ แต่การเมืองแบบคิดนโยบายที่เป็นจุดอ่อนให้ประเทศ ทั้งตั้งบ่อน และรีบเจรจากับกัมพูชาย่อมเห็นชัดเจน
"เวลาที่ได้อำนาจไปนั้น ได้นำไปสร้างคุณประโยชน์ให้ชีวิตใหม่กับประชาชนจริงหรือไม่ เพราะแต่ละโครงการที่เสนอนั้น มีพฤติกรรมขายชาติ ขายแผ่นดิน ดังนั้นคุณควรได้รับเวลาอำนาจนั้นหรือเปล่า ถ้าอยู่ในอำนาจแล้วประเทศเกิดความเสียหายขึ้น วันเดียวก็ไม่ควรจะอยู่”
อีกทั้งกล่าวถึงคำพูดหาเสียงที่อุดร โดยทักษิณย้ำได้กลับมาแล้ว คนอุดรอย่าลืมกันว่า ที่พูดเช่นนี้ เพราะเมื่อยังไม่กลับไทยทักษิณได้รับความนิยมสูงสุด เนื่องจากถูกยึดอำนาจ ไม่ได้รับความยุติธรรม แต่หลังวันที่ 22 ส.ค. 2566 ที่กลับไทย ความรักความศรัทธากลับเสื่อมทรุดรวดเร็ว ด้วยการเป็นอภิสิทธิชนอ้างป่วยอยู่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ ไม่ยอมติดคุก กลายเป็นคนสองมาตรฐาน ที่เป็นหลักการต่อสู้ของคนเสื้อแดงเมื่อปี 2553
"ถ้าทักษิณยอมติดคุก และประกาศไม่ข้ามขั้วตั้งรัฐบาลแล้ว ทุกอย่างจะแข็งแรงอย่างยิ่ง เพราะคนที่ออกมาสู้ แล้วตาย เพราะอยากให้ทักษิณกลับบ้าน ต้องการความยุติธรรม ไม่เอาสองมาตรฐาน ไม่เอาแบบอภิสิทธิชน แต่พอได้กลับมาไทยก็ทำสวนทางกับประชาชนต่อสู้ทุกข้อ แล้วเขาจะรู้สึกอย่างไร ดังนั้น ทักษิณ จึงต้องบอกว่า อย่าลืมผม และผมกลับมาแล้ว ทั้งที่กลับมาปีกว่าแล้ว ยังมาบอกว่า ผมกลับมาแล้ว"
นายจตุพร กล่าวว่า วันที่ทักษิณปราศรัยหาเสียงก็เหมือนนักการเมืองทั่วไป ทั้งที่แต่เดิมนั้นมีจุดแข็งสองอย่างคือ จุดยืนประชาธิปไตยและการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ขณะที่จุดแข็งเช่นนี้ไม่มีเหลืออีกแล้ว เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนความสำเร็จก็เปลี่ยน ประชาชนก็เปลี่ยน และตัวเองยังเปลี่ยน ดังนั้น อย่าได้หลงไหลกับความสำเร็จในอดีตมันมากมายนัก
อีกทั้งกล่าวถึงตั้งนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง เป็นประธานบอร์ดแบงก์ชาติว่า รัฐบาลพรรคเพื่อไทยเริ่มไม่มีความมั่นใจว่าจะตั้งได้ เนื่องจากยังไม่พ้นจากตำแหน่งที่ปรึกษานายกฯ หนึ่งปี และตำแหน่งนี้ก็เป็นเจ้าหน้าที่รัฐเพราะมีสิทธิใช้งบประมาณ ซึ่งเคยมีคดี ม.157 ทำนองเดียวกันนี้มาแล้ว อย่างไรก็ตาม ถ้ารัฐบาลเพื่อไทยต้องการแล้ว ควรรีบเสนอนายกิตติรัตน์ เป็นประธานบอร์ดแบงก์ชาติมาเลย
ส่วนศาลปกครองสูงสุด โดยมติที่ประชุมใหญ่ตุลาการศาลปกครองสูงสุด เสียงข้างมากไม่คุ้มครองชั่วคราวกับพล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล หรือ บิ๊กโจ๊ก ยื่นร้องโดยมีคำร้องหลักให้เพิกถอนคำสั่งของ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ให้ออกจากราชการโดยไม่ชอบกฎหมาย ซึ่งคำร้องหลักนี้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณา ส่วนคำขอคุ้มครองชั่วคราวศาลไม่รับพิจารณาแล้ว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แฉอีโม่ง วิ่งเต้นล้มปมชั้น 14 เตือนหยุดทำเถอะ
นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์ว่า นับตั้งแต่ต้นปี 2568 ให้จับตาดูวันที่ 15 ม.ค.ที่แพทยสภาขีดเส้นตายให้แพทย์รักษาทักษิณ ชินวัตร ชั้น 14 ส่งรายงานการรักษามาตรวจสอบการเอื้อหนีติดคุก แล้วยังต้องติดตามผลตรวจสอบของ ป.ป.ช.กรณีชั้น
มีแม้วไม่มีเรา! วัดใจจุดยืน 'พรรคส้ม' หลังทักษิณขีดเส้นแบ่งข้างทุกเวทีแล้ว
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า "พรรคส้มกล้าไหม? มีแม้วไม่มีเรา!
ดร.เสรี ฟาดพรรคขี้โม้-พรรควาทกรรม
ดร.เสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านการตลาดและการสื่อสาร โพสต์เฟซบุ๊ก ว่า “พรรคหนึ่งมีแต่วาทกรรม ไม่เคยทำงาน
‘หมอวรงค์’ เตือน ‘โบว์ณัฏฐา’ ใช้ข้อมูลผิดๆปกป้อง ‘ทักษิณ’
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊กว่า #เตือนคุณโบว์
พ่อนายกฯ ลั่นพรรคร่วมรัฐบาลต้องอยู่ด้วยกันจนครบเทอม
นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการประเมินสถานการณ์การเมืองในปี 2568 ว่า การเมืองคงไม่มีอะไร ยังเหมือนเดิม พรรคร่วมรัฐบาลก็เหมือนเดิม การที่ไม่เห็นด้วยกับอะไรกันบ้าง ก็เป็น
'ทวีไอพี สอดไส้' ยิ้มรับฉายาใหม่! แก้ข่าว 'ทักษิณ' แข็งแรงไม่เหมือนผู้ป่วย ภายนอกอาจใช่ แต่ภายในอาจป่วย
ที่ทำเนียบรัฐบาล พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงฉายา “ทวีไอพี” ว่า ต้องขอบคุณในฐานะที่ตนเป็นบุคคลสาธารณะ แต่