30 ต.ค. 2567 - ดร.ณัฐวุฒิ วงศ์เนียม หรือ “ดร.ณัฏฐ์” นักกฎหมายมหาชน กล่าวถึงกระแสข่าวรัฐบาลมีโอกาสชิงยุบสภา จะเกิดขึ้นก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคดียุบพรรคการเมือง ว่ามาตรา 103 รัฐธรรมนูญ การยุบสภาเป็นพระราชอำนาจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยนายกรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอและสนองพระบรมราชโองการ นายกรัฐมนตรีมีอำนาจทำได้เสมอ นอกจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไม่ยอมลงพระปรมาภิไธย แต่ก็ไม่เคยปรากฏลักษณะเช่นนี้มาก่อน ตัวแปรในการยุบสภาในอดีตที่ผ่านมามีหลายตัวแปร และหากพิจารณาจากเงื่อนไขเวลา ฝ่ายบริหาร รัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร เหลืออายุในการบริหารเช่นเดียวกับฝ่ายนิติบัญญัติ หากเวลานับตั้งแต่วันที่ 14 พ.ค.2566 สภาฯมีวาระดำรงตำแหน่ง 4 ปี ครบกำหนดในวันที่ 14 พ.ค.2570 ยังเหลือระยะเวลาประมาณ 2 ปี 6 เดือนเศษ รัฐบาลนี้ ยังพอมีเวลาบริหารประเทศและขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล ที่ตนให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน เป็นการให้ความรู้ทางกฎหมายมหาชนแก่พี่น้องประชาชนอีกแง่มุมหนึ่ง เป็นไปตามหลักวิชาการ โดยไม่ได้รู้จักกับฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน
ดร.ณัฐวุฒิ กล่าวว่าแต่หากพิจารณาคดียุบพรรค ที่ กกต.รับไต่สวน ยังมีระยะเวลาอีกนาน เพราะหลักการรัลฟังพยานหลักฐานทั้งสองฝ่ายและระเบียบ กกต.ว่าด้วยการรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานของนายทะเบียนพรรคการเมือง พ.ศ.2566 ยังเปิดช่องให้ขยายระยะเวลาในการสืบสวน หรือไต่สวนได้ โดยข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานยังไม่แน่ชัดว่า กกต.มีวินิจฉัยชี้ขาดยุบพรรคเพื่อไทยกับ 6 พรรคร่วมหรือไม่ แม้เป็นความเสี่ยง แต่ในการรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานในการยุบพรรคเพื่อไทยกับ 6 พรรคร่วม แตกต่างจากการยุบพรรคก้าวไกล หรือพรรคไทยรักษาชาติ เพราะข้อเท็จจริงต่างกัน
หากพิจารณาตัวแปรที่รัฐบาลชิงยุบสภาเพราะเหตุโอกาสยุบพรรคเพื่อไทยกับ 6 พรรคการเมือง ยังไม่เกิดขึ้น ตามที่นักการเมืองหรือนักวิเคราะห์การเมืองบางคนเพ้อฝัน เป็นการฝันกลางวัน ดับฝันสลายนักเลือกตั้งไปได้เลย แม้รัฐลบาลนี้ จะเจอการร้องเรียนแทบทุกเรื่อง จากฝ่ายตรงกันข้าม แต่ข้อเท็จจริงที่ร้องเรียนจะต้องฟังความสองฝ่าย คำร้องที่ยื่นร้องเรียน ทำอะไรรัฐบาลไม่ได้ วืดเป้า ดังนั้น ประเด็นที่ศาลรัฐธรรมนูญจะยุบพรรคเพื่อไทยกับ 6 พรรคการเมือง ที่ไปบ้านจันทร์ส่องหล้า ยังไม่มีโอกาสเกิดขึ้น หากเทียบเคียงกับ คดีล้มล้างการปกครอง ที่นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ผู้ร้อง ศาลรัฐธรรมนูญยังมีหนังสือไปสอบถามอัยการสูงสูดว่า ผู้ร้องได้ยื่นหนังสือจริงหรือไม่ หากยื่นแล้วมีคำสั่งอย่างไร เป็นการตรวจสอบอำนาจยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ตามความมุ่งหมาย มาตรา 49
นักกฎหมายมหาชน กล่าวอีกว่าหากพิจารณาจากประวัติศาสตร์การเมืองของประเทศไทย ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2475 เป็นต้นมา ฝ่ายบริหารยุบสภาหลายครั้ง เกิดจากตัวแปร 1.เพื่อให้ฝ่ายบริหารใช้เป็นเครื่องมือถ่วงดุลอำนาจฝ่ายนิติบัญญัติ 2. เพื่ออุทธรณ์ข้อขัดแย้งต่อประชาชน 3. เพื่อประโยชน์ของพรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาล 4. เพื่อหาทางออกหรือทางตันเกี่ยวกับปัญหาทางการเมืองการปกครอง โดยรัฐธรรมนูญมาตรา 103 วรรคสองได้บัญญัติให้การยุบสภา จะกระทำได้เฉพาะในเหตุการณ์เดียว ส่วนโอกาสที่รัฐบาลชิงยุบสภาเพื่อหนีคดียุบพรรคคงไม่เกิดขึ้นในประวัติการเมืองการปกครองไทย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ลากยาว! ประธานวิปรัฐบาล บอกฝ่ายค้านกลับไปตั้งสติ หลังขอเวลาซักฟอก 30 ชม.
นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานรัฐบาล(วิปรัฐบาล) กล่าวถึงการประชุมร่วมวิป3ฝ่ายในวันนี้(13มี.ค.)เพื่อหากรอบเวลาวันอภิปรายไม่ไว้วางใจ
ยังไร้ข้อสรุป! ถกกรอบเวลาซักฟอกสะดุด ฝ่ายค้านโวยรัฐบาลดึงเกม
วิป 3 ฝ่ายยังไร้ข้อสรุป กรอบเวลาอภิปรายไม่ไว้วางใจ หลังฝ่ายค้านขอ 30 ชั่วโมง แต่รัฐบาลยังไม่ให้คำตอบ ลั่นหากล่มเพราะรัฐบา
เรียก 'พ่อ' ได้ไหม | ห้องข่าวไทยโพสต์
ห้องข่าวไทยโพสต์ : วันพฤหัสบดีที่ 13 มีนาคม 2568
ลิเกจบ! 'ผู้นำฝ่ายค้าน' ถอดชื่อ 'ทักษิณ' พ้นญัตติซักฟอก แลกเพิ่มเวลาอภิปราย
นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ เปิดเผยหลังหารือเรื่องญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ร่วมกับนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร
จับตาไฮไลต์ซักฟอก 'บิ๊กป้อม' เปิดความลับกลางสภา!
‘จตุพร’ ชี้อภิปรายไม่ไว้วางใจเดินหน้าแน่ แม้ถูกกดดันให้ถอนชื่อ ‘ทักษิณ’ มั่นใจฝ่ายค้านโยงถึง ‘รัฐบาลหุ่นเชิด’ แนะต้องจับตาไฮไลต์ใหญ่า ‘บิ๊กป้อม’ อาจเปิดเผยข้อมูลสำคัญกลางสภา สะเทือนการเมือง!
ความเป็นมาของรัฐธรรมนูญฉบับที่ 4 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2490 (ตอนที่ 51)
ก่อนจะเกิดรัฐธรรมนูญฉบับที่ 4 หรือรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2490 เรามีรัฐธรรมนูญฉบับที่ 2 คือฉบับ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2475