ชนะศักดิ์-น้องแรมโบ้ ตอกกลับ 'ตรีรัตน์-ไทยสร้างไทย' หิวแสง บิดเบือนข้อมูลโจมตีนายกฯ เตือนระวังประชาชน จะสาปแช่งเอา แนะอยากเป็นรัฐบาล ต้องทำประโยชน์เพื่อส่วนรวม ไม่ใช่ขายฝันไปวันๆ
19 ม.ค.2565 - นายชนะศักดิ์ อัตถาวงศ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงนายตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส ผู้อำนวยการกองการสื่อสาร พรรคไทยสร้างไทย วิพากษ์วิจารณ์การบริหารงานของนายกฯ โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจ ค่าแรง พร้อมเรียกร้องให้นายกฯลาออก ว่าการที่นายกฯพูดถึงการขึ้นค่าแรงนั้น ต้องดูงบประมามาณนั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว
นายชนะศักดิ์ กล่าวว่าส่วนการ แก้ปัญหาเศรษฐกิจต้องเข้าใจว่าทั่วโลกก็ประสบปัญหาเช่นเดียวกันจากการระบาดโควิด-19 ซึ่งนายกฯ และรัฐบาล หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้พยายามแก้ไขอย่างเต็มที่ เปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวเข้ามาสร้างรายได้ให้ประเทศ และรายได้ของคนในประเทศ และต้องทำควบคู่ไปกับการป้องกันการระบาดโควิดในประเทศด้วย ขณะที่นายกฯต้องกู้เงินนั้นขอพูดอีกครั้งว่าเพื่อช่วยประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ไม่ได้กู้มาใช้ส่วนตัวหรือกู้มาโกง
"นายตรีรัตน์ ไม่ต้องทำเป็นหาประเด็น เพื่อมากล่าวหาโจมตีนายกฯ และก็มาเรียกร้องให้นายกฯลาออก ยืนยันนายกฯไม่ลาออกแน่นอน อยู่ครบเทอม จึงขอแนะนำว่าหากอยากเป็นรัฐบาลมาก อยากได้คะแนนนิยมจากประชาชนต้องทำให้ประชาชนเห็นว่าจะทำเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง ไม่ใช่แค่วางนโยบายขายฝันไปวันๆ และมาฝันหวานว่าจะได้เป็นรัฐบาล การพูดใส่ร้ายป้ายสีบิดเบือนข้อมูลเพื่อหวังแสง โหยหิวหาแสง กำลังระบาดมากที่สุดในพรรคเพื่อไทยและพรรคไทยสร้างไทย ในขณะนี้ ระวังประชาชนสาปแช่งเอานะ จะหาว่าไม่เตือน" นายชนะศักดิ์ กล่าว
ก่อนหน้านี้ นายตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส ผู้อำนวยการกองการสื่อสาร พรรคไทยสร้างไทย กล่าวถึงกรณีพลเอกประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี ที่ระบุถึงค่าแรงที่ยังไม่ขยับว่า เอาเงินมาจากไหน พูดได้หมด แต่ต้องหาเงินมาให้ได้ รัฐบาลจะต้องมีเงินก่อนนั้น นโยบายการเพิ่มค่าแรงเป็นนโยบายที่พรรคพลังประชารัฐ เคยหาเสียงไว้ตั้งแต่ก่อนมีการเลือกตั้งแล้ว แต่ไม่สามารถทำได้จริง เพราะไม่รู้จักวิธีหาเงิน 7 ปีของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ หาเงินเป็นแค่วิธีการเก็บภาษีประชาชน เพิ่มภาษีประชาชน โดยไม่สนว่าวันนี้ประชาชนในประเทศ ก็แทบไม่มีจะกินอยู่แล้ว ประเทศไทยมีของดีมากมาย ทั้งเรื่องการท่องเที่ยวและเรื่องการเกษตร และยังเป็นฐานการผลิตสินค้าอีกมากมาย มีมูลค่าการส่งออกจำนวนมาก แต่ผู้บริหารกลับมองไม่เห็นศักยภาพของประเทศ จนปล่อยให้ประเทศเพื่อนบ้านแซงไปเกือบหมด
นายตรีรัตน์กล่าวว่า แม้กระทั่งเรื่องแผนการฟื้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยว ซึ่งถือเป็นรายได้อันดับ1 ของประเทศ ก็ไม่มีรูปธรรมที่ชัดเจน ให้ผู้ประกอบการ ธุรกิจท่องเที่ยว ทั้งโรงแรม ร้านอาหาร สถานบริการฯ จะเปิดก็ไม่เปิด จะปิดก็ไม่ปิด วัคซีนดีๆที่มีประสิทธิภาพอย่าง mRNA ก็นำเข้ามาช้า กว่าจะเข้ามาเศรษฐกิจก็เสียหายจำนวนมากแล้ว
” 7 ปีของพลเอกประยุทธ์ ท่านยังไม่รู้จักเรียนรู้จากความผิดพลาด ยังไม่รู้จักวิธีการหาเงินเข้าประเทศ ขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี ลาออก เพราะท่านยิ่งอยู่ ท่านก็ยิ่งกู้ ประเทศก็ยิ่งเป็นหนี้ จึงอยากให้ท่านลาออก ยุบสภา เปิดโอกาสให้ประชาชนได้เลือกบุคคลอื่นมาบริหารประเทศแทน”
เขาเชื่อมั่นว่าพรรคไทยสร้างไทยได้มีแผนการหาเงินเข้าประเทศ ระยะสั้น-กลาง-ยาว และแผนการเยียวยาพี่น้องประชาชนแล้ว เมื่อถึงเวลาที่พร้อม จะนำเสนอนโยบายหาเสียงต่อประชาชน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘ทักษิณ’ ติงสื่อขยายข่าวมากเกินไป! หลัง คุยกับ ‘อันวาร์’
27 ธ.ค. 2557 - ที่อาคารมูลนิธิไทยรัฐ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
เลขาฯกกต. ตรวจหน่วยรับสมัคร อบจ.ปราจีนบุรี อุบตอบปมสอบเงิน 20 ล้าน
นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พร้อมด้วย พ.ต.ท. ระพีพงษ์ จิรพัฒนาลักษณ์ รองเลขาธิการ กกต. , น.ส.โชติกา แก้วผล ผู้อำนวยการ กกต.ประจำจังหวัดปราจีนบุรี และคณะ ร่วมสังเกตการณ์การรับสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภา อบจ.ปราจีนบุรีและนายก อบจ.จังหวัดปราจีนบุรี ณ องค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี
แฉอีโม่ง วิ่งเต้นล้มปมชั้น 14 เตือนหยุดทำเถอะ
นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์ว่า นับตั้งแต่ต้นปี 2568 ให้จับตาดูวันที่ 15 ม.ค.ที่แพทยสภาขีดเส้นตายให้แพทย์รักษาทักษิณ ชินวัตร ชั้น 14 ส่งรายงานการรักษามาตรวจสอบการเอื้อหนีติดคุก แล้วยังต้องติดตามผลตรวจสอบของ ป.ป.ช.กรณีชั้น
มีแม้วไม่มีเรา! วัดใจจุดยืน 'พรรคส้ม' หลังทักษิณขีดเส้นแบ่งข้างทุกเวทีแล้ว
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า "พรรคส้มกล้าไหม? มีแม้วไม่มีเรา!
ดร.เสรี ฟาดพรรคขี้โม้-พรรควาทกรรม
ดร.เสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านการตลาดและการสื่อสาร โพสต์เฟซบุ๊ก ว่า “พรรคหนึ่งมีแต่วาทกรรม ไม่เคยทำงาน
พ่อนายกฯ ลั่นพรรคร่วมรัฐบาลต้องอยู่ด้วยกันจนครบเทอม
นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการประเมินสถานการณ์การเมืองในปี 2568 ว่า การเมืองคงไม่มีอะไร ยังเหมือนเดิม พรรคร่วมรัฐบาลก็เหมือนเดิม การที่ไม่เห็นด้วยกับอะไรกันบ้าง ก็เป็น