สคบ.นั่งไม่ติด 'จิราพร' เผยตำรวจเร่งคดี 'ดิไอคอน' กรุ๊ป

“จิราพร” เผย ตร.เร่งคดีดิไอคอนกรุ๊ป ชี้ ยกเป็นคดีพิเศษหรือไม่ ให้ดีเอสไอพิจารณา แจง พาดพิงเทวดา สคบ. ดึงหน่วยงานนอกเข้าตรวจสอบ ระบุ ให้รางวัลสาธารณประโยชน์ ไม่เกี่ยวประกอบธุรกิจ ใช้ผิดประเภทจ่อเรียกคืน

13 ต.ค. 2567 – เมื่อเวลา 08.45 น. ที่อุทยานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการดำเนินการเกี่ยวกับผู้ได้รับความเดือดร้อนจากดิไอคอนกรุ๊ป ว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้เปิดให้เข้ามาร้องทุกข์ ขณะนี้มีคนมาร้องทุกข์ 504 ราย ยอดความเสียหาย 118 ล้านบาท ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึง สคบ.ได้เข้าไปร่วมสอบสวน เพื่อเร่งสืบหาข้อเท็จจริงให้เร็วที่สุด เสาร์อาทิตย์เราไม่ได้หยุดทำงาน เมื่อคืนวันที่ 12 ต.ค. อยู่ทำงานกันถึงเวลา 23.00 น. มีผู้เข้ามาร้องทุกข์ต่อเนื่อง

ผู้สื่อข่าวถาม จำนวนผู้เสียหายและมูลค่าความเสียหายเข้าเงื่อนไขเป็นคดีพิเศษ จะให้คดีนี้เป็นคดีพิเศษหรือไม่ น.ส.จิราพร กล่าวว่า ขณะนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้เข้ามาช่วยดูแลคดีนี้ แม้หลักเกณฑ์จะเข้าเงื่อนไข แต่จะยกเป็นคดีพิเศษอยู่ที่การพิจารณาของดีเอสไอ ตอนนี้ดีเอสไอเข้ามาร่วมตรวจสอบ แต่ขณะนี้ถือว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติทำหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพในการดูแลคดีอยู่ อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้เสียหายไม่ว่าอยู่พื้นที่ใดสามารถร้องเรียนได้ที่สถานีตำรวจในท้องที่ของตนเอง และสายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1599

เมื่อถามว่า มีกรณีคลิปเสียงปริศนาพาดพิง สคบ. โดยระบุว่า มีการติดสินบนเทวดา สคบ. น.ส.จิราพร กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานหน่วยงานที่จะมาตรวจสอบ เพราะอยากให้คนนอกเข้ามาร่วม เพื่อให้โปร่งใสและเป็นธรรมมากที่สุด วันที่ 15 ต.ค.นี้ คงมีการแต่งตั้งคณะกรรมการดังกล่าว เมื่อถามถึงกรณีมีการมอบโล่รางวัลให้กับดิไอคอนกรุ๊ป กลายเป็นการการันตีบริษัท เรามีนโยบายกับเรื่องนี้อย่างไร

น.ส.จิราพร กล่าวว่า บริษัทดังกล่าวได้บริจาคหน้ากากอนามัยและแอลกอฮอล์ในช่วงโควิดปี 63 และในช่วงการสัมมนาของคณะกรรมาธิการคุ้มครองผู้บริโภค สภาผู้แทนราษฎร ซึ่ง สคบ.ส่งตัวแทนเข้าไปเป็นวิทยากรร่วม มีการเสนอชื่อรับรางวัลในปี 64 แต่เนื่องจากมีโควิด จึงมีการรับรางวัลในปี 65 เป็นรางวัลในการสร้างสาธารณประโยชน์ ไม่ได้เป็นรางวัลเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจแต่อย่างใด ตนจึงให้ สคบ.กลับไปดูข้อเท็จจริงว่าบริษัทนำรางวัลไปใช้ผิดวัตถุประสงค์หรือไม่ เช่น ทำให้ประชาชนเข้าใจผิดว่าประกอบธุรกิจได้ดีจนได้รับรางวัล หากผิดลักษณะนี้จะขอให้เรียกรางวัลคืน

เมื่อถามถึงกรณีนักแสดงที่เป็นพรีเซนเตอร์ดิไอคอนพยายามออกมาให้ข้อมูลว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะเป็นแค่พรีเซนเตอร์ จะทำให้พ้นผิดหรือไม่ น.ส.จิราพร กล่าวว่า เป็นสิทธิในการชี้แจง แต่ทุกคนต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ขณะนี้ตำรวจกำลังตรวจสอบข้อเท็จจริง หากมีข้อหาที่ชัดเจนคงมีการขยายผลต่อไป อย่างไรก็ตาม ธุรกิจเช่นนี้เคยมีปัญหาในอดีตและมีการพัฒนาตามสภาพสังคมที่เปลี่ยนไป หน่วยงานราชการต้องพัฒนาตัวเองตาม สคบ.ก็เร่งทำประเด็นที่เกี่ยวข้องกับตัวเองให้ชัดเจนที่สุด เพื่ออำนวยความยุติธรรมให้ประชาชนโดยเร็ว ระยะยาวหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องมาบูรณาการรับมือสิ่งที่เกิดขึ้น และดูกฎหมายบางตัวที่ล้าสมัยไม่ทันเหตุการณ์ ส่วนจะต้องทำงานเชิงรุกหรือไม่นั้น ตนได้กำชับ สคบ.ไปว่าเราถือกฎหมายขายตรงและตลาดแบบตรง และกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค หากอนุญาตในการประกอบธุรกิจตลาดแบบตรง ต้องตรวจสอบอยู่ตลอด เพราะเท่าที่ดูเป็นลักษณะให้บริษัทแจ้งงบการเงินเข้ามา แต่ไมได้มีการตรวจสอบเชิงรุก ตรงนี้อยากให้มีการแก้ไขในอนาคต

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ยกขบวนดิไอคอนกรุ๊ป 'บอสพอล-ดารา' ตกเป็นผู้ต้องหาระนาว

รอง ผบช.ก. แถลงคืบหน้า ดิไอคอนกรุ๊ป บอสพอล – ดารา ตกเป็นผู้ต้องหาทั้งหมด  เผยยอดผู้เสียหายล่าสุดเกือบ 800 ราย ความเสียหาย 266 ล้านบาท ย้ำเปิดทุกสน.ดำเนินการรับคำร้องทุกข์

'ผบ.ตร.' กำชับคดีดิไอคอน ตร.ต้องเป็นที่พึ่งปชช. จนกว่าผู้กระทำผิดจะได้รับโทษ

“ผบ.ตร.” เผย คดีดิไอคอนคืบหน้า กำชับตำรวจต้องเป็นที่พึ่ง ปชช. ทำหน้าที่เหมือนทนาย มอบ  รอง ผบช.ก. เท่านั้นแถลง

'กันต์ กันตถาวร' เคลียร์ปม 'ดิไอคอนกรุ๊ป' เป็นเพียงผู้รับจ้าง และได้ยกเลิกสัญญาแล้ว

หลังจากที่สังคมได้เรียกร้องให้พิธีกรชื่อดัง กันต์ กันตถาวร ซึ่งถูกระบุว่า มีตำแหน่งใหญ่เป็นถึงผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด ในเครือ ดิไอคอนกรุ๊ป ได้ออกมาชี้แจงถึงปมร้อนที่กำลังเป็นกระแสโด่งดังในตอนนี้ ล่าสุดเจ้าตัวพร้อมทนายความได้นัดสื่อมวลชนเพื่อชี้แจงถึงเรื่องราวต่างๆ ณ Hole in one สนามกอล์ฟ Phothalai โดยหนุ่มกันต์ เผยว่า