'ธนาธร' ตอกย้ำ 3 เหตุการณ์ วัฒนธรรมพ้นผิดลอยนวล ความล้มเหลวสามัญสำนึกครั้งใหญ่สังคมไทย

48 ปี 6 ตุลา “ธนาธร” ชี้ 3 เหตุการณ์ ถังแดง -ตากใบ -พลทหารดับระหว่างฝึก ตอกย้ำวัฒนธรรมผู้พ้นผิดลอยนวล มองเป็นความล้มเหลวทางสามัญสำนึกใหญ่ของสังคมไทย

6 ต.ค.2567 – นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และประธานคณะก้าวหน้า บรรยายในหัวข้อ 48 ปี 6 ตุลาฯ กระจกส่องสังคมไทย ว่า ตอนแรก ตนเองมีอาการ 2 จิต 2 ใจ ไม่อยากจะมา เพราะสิ่งที่ต้องพูดได้เคยถูกพูดไปหมดแล้ว สิ่งที่พูดไม่ได้ก็ยังพูดไม่ได้เหมือนเดิม แต่ท้ายที่สุดก็คิดว่ามาเติมความหวังมาเติมกำลังใจให้กันและกันได้ดีกว่า

นายธนาธร ระบุว่า เมื่อหลายปีที่แล้ว ตนเองได้มีโอกาสไปเยือนอุทยานประวัติศาสตร์ถังแดง จ.พัทลุง เป็นครั้งแรกที่ตนเองได้รับฟังเรื่องราวโหดร้ายจากประสบการณ์ตรงเป็นครั้งแรก ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2515 ทหารเข้ามาตั้งถิ่นฐาน เพื่อกวาดล้างคนที่ต้องสงสัยว่าเป็นคอมมิวนิสต์ มีการจัดคนมาสอบสวน ซ้อมร่างกายจนหมดสติ จับยัดใส่ถังแดงแล้วเผา จึงเป็นที่มาของชื่ออุทยานถังแดง ตัวเลขดังกล่าวระบุไว้ว่ามีจำนวนถึง 3,000 คน จะน่าสนใจว่ารัฐเลือกใช้วิธีจัดการกับผู้เห็นต่างโดยสร้างความหวาดกลัว โดยหวังลึกๆ ว่าประชาชนจะหวังก็ออกห่าง ไม่สนับสนุนการทำงานของพรรคคอมมิวนิสต์ แต่เหตุการณ์กลับพลิกกลับ เมื่อประชาชนโกรธ และเกิดเหตุการณ์สังหารขึ้น

“ผมอยากให้ลองจินตนาการดูครับ ถ้าพ่อแม่พี่น้องของเราเป็นคนที่ถูกเผาในถังแดง น้ำมันร้อนๆ ท่านจะรู้สึกอย่างไร ปัจจุบันครอบครัวของผู้สูญเสียยังไม่ได้รับการเยียวยา มีเพียงอนุสาวรีย์ที่ประชาชนก่อสร้างกันเอง เป็นที่เตือนความจำให้กับผู้พบเห็นและเป็นตัวแทนของผู้สูญเสีย ประวัติศาสตร์ถังแดงไม่เคยถูกบรรจุในวันที่เล่าหลักของชาติ ไม่เคยปิดเลยคดีกับผู้มีส่วน” นายธนาธร กล่าว

นายธนาธร ระบุต่อว่า 1 ในข้อเรียกร้องของนักศึกษาแห่งประเทศไทย คืออยากให้ยุบกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ตนเองมองว่าข้อเรียกร้องยังทันสมัยจนถึงทุกวันนี้ จนถึงทุกวันนี้ยังไม่มีผู้ก่อเหตุในเหตุการณ์ถังแดงถูกลงโทษเลยสักคนเดียว ยังไม่มีประชาชนได้รับการเยียวยาจากรัฐ

นายธนาธร เล่าเรื่องที่ 2 ว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มีช่วงหนึ่ง ที่ตนเองทำงานไม่ได้ ตนเองรู้สึกโกรธ ตนเองรู้สึกคับแค้น เมื่อได้ยินข่าวของ ศิริวัฒน์ ใจดี พลทหาร สังกัดสารวัตรทหารเรือ อายุ 21 ปี ที่เสียเมื่อ 2 ก.ค. แต่เพิ่งเป็นข่าวเมื่อช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากเพื่อนออกมาเปิดเผยว่าฝึกหนักมาก มีการสั่งให้วิ่งหลายรอบ ครูฝึกเตะขาด้วยรองเท้าคอมเแบทเข้าที่หน้า เพราะมองว่าสำออย นอกจากนี้ยังให้เพื่อนเอาไปวางไว้ที่กลางสนาม ไม่มีการปฐมพยาบาล จนพลทหารศิริวัฒน์เสียชีวิต

นายธนาธร ระบุว่า จากการบอกเล่าของพี่สาวพลทหารศิริวัฒน์เป็นคนเรียนดี แต่ที่บ้านไม่มีเงิน จึงไปสมัครเป็นทหารเกณฑ์ หวังว่าจะสร้างเนื้อสร้างตัวได้ด้วยการรับราชการทหาร พี่สาวบอกด้วยว่าจากการชันสูตรของแพทย์ พบว่ากระดูกซี่โครงหัก และเพื่อนทหารหลายคนก็พร้อมเป็นพยานว่าเสียชีวิตจากการฝึก

“การจะเลี้ยงคนคนหนึ่งให้มีอายุถึง 21 ปี ท่านคิดว่าครอบครัวคุณพ่อคุณแม่ใช้เงินไปเท่าไหร่ครับ สังคมทั้งสังคมใช้เงินไปเท่าไหร่ ผมเป็นพ่อคนเหมือนกัน ผมนึกไม่ออกว่าถ้าเหตุการณ์แบบนี้เกิดกับลูกของผม ผมจะทำใจได้อย่างไร ผมจะมีแรงมีกำลังจิตกำลังใจใช้ชีวิตต่อไปหรือไม่ ถ้าเกิดขึ้นกับตัวผมเองผมไม่แน่ใจ” นายธนาธร กล่าว

นายธนาธร เล่าเรื่องที่ 3 คือเหตุการณ์ตากใบ ว่า เรื่องนี้เริ่มต้นจากการชุมนุมเพื่อประท้วง กรณีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน 8 คน ที่ถูกจับกุมในข้อหาส่งปืนให้กับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ผู้ชุมนุมประมาณ 1,000 คน มาชุมนุมด้วยมือเปล่า แต่รัฐกลับใช้ความรุนแรงสลายการชุมนุม ทหารผู้บังคับบัญชาให้ผู้ชุมนุมนอนทับกันไปบนรถกว่า 3 ชั่วโมง มีคนเสียชีวิตกว่า 70 ราย ศาลชี้ให้เห็นว่าเกิดจากการขาดอากาศหายใจ ขณะอยู่ระหว่างการดำเนินคดีของเจ้าหน้าที่รัฐ 

“ภาคประชาชนเรียกร้องครั้งแล้วครั้งเล่า กลับไม่มีความคืบหน้า จนกระทั่งคดีใกล้หมดอายุความ กลุ่มผู้สูญเสียจึงฟ้องใหม่อีกครั้ง มีการออกหมายจับทหารและตำรวจระดับสูง 7 คน แต่จนถึงวันนี้ อีก 19 วันจะหมดอายุความ ยังตามจับจำเลยมาขึ้นศาลไม่ได้แม้แต่คนเดียว 1 ในจำนวนนั้นคือสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่เป็นอดีตแม่ทัพภาคที่ 4 ในขณะนั้น ซึ่งส่งหนังสือลาประธานสภาฯ ตั้งแต่วันที่ 26 ส.ค. ถึง 31 ต.ค. อ้างว่าไปรักษามะเร็งที่ต่างประเทศ” นายธนาธร ระบุ  

นายธนาธร กล่าวว่า ตนเองยกตัวอย่าง 3 เรื่องนี้มาพูด เรายอมรับเหตุการณ์แบบนี้ได้อย่างไร 3 เหตุการณ์นี้มีความเหมือนกัน คือการดำรงอยู่ของวัฒนธรรมพ้นผิดลอยนวลในสังคมไทย คนที่ทำผิดไม่เคยถูกดำเนินคดีเลยสักครั้ง 

“ผมคิดว่านี่เป็นความล้มเหลวทางสามัญสำนึกครั้งใหญ่ของสังคมไทย เจ้าหน้าที่รัฐที่ริดรอนสิทธิเสรีภาพประชาชน จนเข่นฆ่าชีวิตประชาชน ดำเนินคดีไม่ได้ นี่เป็นความล้มเหลวทางสามัญสำนึกครั้งใหญ่มากของสังคม” นายธนาธร กล่าว

นายธนาธร กล่าวอีกว่า เรื่องนี้ไม่ใช่ความล้มเหลวของระบบ แต่เป็นความจำเป็นที่ระบบจะต้องมีวัฒนธรรมแบบนี้อยู่ ตนเองพยายามอย่างยิ่งที่จะมีส่วนร่วมในการสร้างประเทศไทยที่เป็นประชาธิปไตยที่มีสิทธิเสรีภาพ มีความเจริญก้าวหน้า มีความเสมอภาค เท่าเทียม ที่ผ่านมาตั้งแต่ตั้งพรรคการเมืองขึ้นมา วันนี้ถูกตัดสิทธิไปแล้ว ตนเองเป็นจำเลยคดีม. 112 จำนวน 2 คดี แต่นี่ไม่ใช่เวลาของการท้อถอย

“สิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงปี 2563-2564 แสดงให้เห็นชัดเจนว่าเพดานความคิดของประเทศไทยก้าวหน้าไปมาก การเลือกตั้งปี 2566 ชัดเจนว่าเรื่องการแก้ไข ม. 112 กลายเป็นเรื่องที่พูดกันได้อย่างแพร่หลายในสื่อหลัก ในการดีเบตครั้งสำคัญของการเลือกตั้ง แสดงให้เห็นว่าสังคมมันขึ้นไปไกลมาก มีความก้าวหน้า ดังนั้น นี่เป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นที่สุดในประวัติศาสตร์ ไม่เคยมีช่วงเวลาไหนในประวัติศาสตร์ ที่วาระก้าวหน้าแบบนี้จะถูกพูดอย่างแพร่หลายและถูกทำให้เป็นเรื่องสามัญ” นายธนาธร กล่าว

นายธนาธร กล่าวทิ้งท้ายว่า หลายคนผ่าน 6 ตุลาฯ มาแล้ว หลายคนผ่านอีกหลายเหตุการณ์ ถ้าที่ผ่านมาคิดว่าทำได้ดีที่สุดแล้ว ตนเองคิดว่ายังไม่พอ ตนเองเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญจะมาถึง ตนเองเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าการตื่นตัวทางการเมืองของประชาชนในวันนี้ไม่สามารถลบเลือนออกไปได้ง่ายๆ อยากให้ทุกคนเข้มแข็งและมีกำลังใจเดินหน้าต่อไป เพื่อสร้างสังคมที่มีเสรีภาพ มีอิสรภาพ มีภราดรภาพ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'จาตุรนต์' หนุนนำอุดมการณ์ - บทเรียน 6 ต.ค. มาต่อสู้เพื่อบ้านเมืองต่อไป

จาตุรนต์” ชี้ แม้คนเดือนตุลาเปลี่ยนไป แต่อุดมการณ์ยังอยู่ อยากให้ศึกษาเพื่อนำมา เป็นบทเรียน สร้างประชาธิปไตยในสังคมไทยต่อไป

'ปธ.วิปรัฐบาล' ลั่นไม่มีหน้าที่ตามจับ 'พล.อ.พิศาล' โวย 'โรม' ปั่นกระทู้ปลุกแตกแยก

'วิสุทธิ์' บอกไม่รู้ตอนนี้ 'พิศาล' อยู่ไหน วิปรัฐบาลไม่มีหน้าที่ตามจับใคร ยันไม่ได้ปกป้อง แต่ไม่มีใครใหญ่กว่ารัฐธรรมนูญ ข้องใจ 'โรม' ตั้งกระทู้ปั่นในสภาฯ เพื่ออะไร หวั่นจุดชนวนแตกแยก

'ธนาธร' ลั่นงวดนี้เอาจริง มั่นใจปักหมุดราชบุรี ชนะเลือกตั้งนายกอบจ.ครั้งแรก

ที่ลานหน้าที่ว่าการอำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงพรรคประชาชน ลงพื้นที่ปราศรัยหา

การเมืองไทยวันนี้! ฝ่ายหนึ่งโหยหาอดีตที่ไม่มีวันกลับมา อีกฝ่ายโหยหาอนาคตที่ไม่มีวันเกิดขึ้น

ฝ่ายหนึ่งโหยหา “ลุงตู่” อดีตผู้นำในวัยชรา ฝ่ายหนึ่งกล่าวว่า แม้มีอันเป็นไป ก็จะมี “ผู้นำรุ่นใหม่” เกิดขึ้นทดแทนตลอดเวลา ฝ่ายหนึ่งโหยหาอดีต

'ธนาธร' ขีดเส้นประธานวุฒิฯ  ไม่สองมาตรฐาน หนีปม 'หมอเกศ'  

'ธนาธร' พอใจ ผลเลือก 'สว.' ฝากช่วยผลักดันแก้ไขร่าง รธน. ย้ำ แต่งตั้งองค์กรอิสระ มีความสำคัญมาก ชี้ 'ประธานวุฒิฯ' ต้องเป็นกลาง-เปิดพิ้นที่เท่าเทียม