ไม่รีบ! 'อนุทิน' เผยไม่มีนัดหารือพรรคร่วมรัฐบาล ปมแก้รธน. ตอนนี้มีเรื่องสำคัญกว่า

"อนุทิน" ยังไม่นัดคุยพรรคร่วม ปมแก้รธน. บอกช่วยประชาชนสำคัญกว่า หลัง เชียงใหม่-เชียงราย น้ำมาอีกระลอก ย้ำ ยังระดมเจ้าหน้าที่เพิ่มอย่างต่อเนื่อง ความช่วยเหลือไม่มีขาด ยันกรณีอดีตผู้ว่าฯเชียงราย จบแล้ว ไม่มีตั้งสอบจริยธรรม

3 ต.ค.2567 - เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย กล่าวถึงการนัดพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาล เรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า ยังไม่มีการนัดหมายและขณะนี้นายกรัฐมนตรีก็ไม่อยู่ เดินทางไปปฏิบัติภารกิจที่ต่างประเทศ จึงยังไม่มีกำหนดว่าจะนัดพูดคุยกันเมื่อใด เพราะเรามีเรื่องที่ต้องเร่งแก้ไขให้พี่น้องประชาชน ซึ่งสำคัญกว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

นายอนุทิน กล่าวว่าจ.เชียงใหม่ ที่ขณะนี้มีฝนตกหนัก มีสถานการณ์น้ำหลากเข้ามาอีกจึงต้องเร่งไปแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนก่อน ซึ่งตนได้รับรายงานจากผู้รับผิดชอบงานจากทั้งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และรักษาการผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ว่าได้มีการเตรียมพร้อมอย่างเต็มที่ทั้งเรื่องการอพยพชาวบ้าน และสิ่งของอุปโภค-บริโภคที่จะไปช่วยเหลือ ดังนั้นยืนยันว่า ไม่มีขาดแน่นอน อีกทั้งในส่วนของการเยียวยาก็ได้เร่งดำเนินการโอนเงินไปยังบัญชีแต่ละครัวเรือนแล้ว

นายอนุทิน กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังอยู่ในพื้นที่ทุกจุด ไม่มีการย้ายออก มีแต่ระดมเพิ่มเข้าไป ซึ่งเมื่อวาน นาย อรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทยก็ได้มีการแต่งตั้งข้าราชการหลายตำแหน่ง ทั้ง นายโชตินรินทร์ เกิดสม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ที่ไปเป็นรักษาการรองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นอกจากนี้ยังตั้งรองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย อีก 3 ท่าน เพิ่มเข้าไปอีก รวมเป็น 4 ท่านแล้ว เพราะฉะนั้นตอนนี้ในจังหวัดเชียงรายมีครบทีมแล้ว อีกทั้งยังเป็นคนในพื้นที่จึงมีความคุ้นเคยกับพื้นที่เป็นอย่างดี ขณะเดียวกัน ก็ได้มีการโยกย้ายผู้ที่ติดภารกิจอย่างเช่น กรณีไปเรียน วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร หรือ วปอ. ก็ให้มาอยู่ใกล้พื้นที่กรุงเทพฯ โดยยืนยันว่าขณะนี้จังหวัดเชียงรายมีความพร้อมเต็มที่

ผู้สื่อข่าวถามว่า อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายที่เกษียณอายุราชการไปแล้ว เรื่องของการตั้งคณะกรรมการสอบจริยธรรมก่อนหน้านี้ ยังคงมีอยู่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่มีแล้ว จบไปแล้ว ในช่วงวันสุดท้าย ก็ขอให้ทุกคนได้เกษียณสำราญกันดีกว่า

เมื่อถามถึง ในส่วนของการแต่งตั้งโยกย้ายผู้ว่าราชการจังหวัด และอธิบดีในกระทรวงมหาดไทย นายอนุทิน ยืนยันว่าจะทำให้เร็วที่สุด เรื่องนี้ไม่ควรรอช้า เพราะขณะนี้มีผู้ว่าราชการจังหวัดว่างอยู่หลายตำแหน่ง ซึ่งขั้นตอนมีอยู่ 2 ขยัก ลำดับแรกคือการสลับสับเปลี่ยนในระนาบเดียวกัน ส่วนลำดับที่สอง คือเลื่อนจากรองผู้ว่าราชการจังหวัดขึ้นเป็นผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งตรงนี้จะมีกระบวนการสรรหาและดูวิสัยทัศน์ ดังนั้นในขั้นตอนนี้จะต้องเร่งทำให้เร็วที่สุด ซึ่งในสัปดาห์หน้าคงพอจะเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้บ้าง

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เปิดชื่อ 18 กมธ.วิสามัญ แก้ข้อบังคับประชุมรัฐสภา 'สว.พันธุ์ใหม่' ได้ 1 ที่

จากที่ประชุมลงมติเห็นด้วย 415 เสียง ไม่เห็นด้วย 185 เสียง งดออกเสียง 3 เสียง เป็นอันว่าที่ประชุมเห็นสมควรรับหลักการแห่งร่างข้อบังคับการประชุม ฉบับที่ ... พ.ศ. ... จากนั้นตั้ง กมธ.วิสามัญ จำนวน 18 คน โดยแบ่งเป็นสส.13 คน สว. 5 คน 

รัฐสภารับหลักการแก้ข้อบังคับฯ เปิดทางคนนอกร่วมแก้รธน. 'หมออ๋อง' คัมแบ็ค

ในการประชุมร่วมรัฐสภา ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม พิจารณาเรื่องด่วน ร่างข้อบังคับการประชุมรัฐสภา (ฉบับที่...) พ.ศ.... เสนอโดยนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน

รัฐสภา ถกแก้ข้อบังคับ 'สว.-รทสช.' รุมค้านเปิดทาง 'คนนอก' ร่วมวงกมธ.แก้รธน.

ที่รัฐสภา ในการประชุมรัฐสภา เพื่อพิจารณาเรื่องด่วน คือ ร่างข้อบังคับการประชุมรัฐสภา (ฉบับที่…) พ.ศ…. เสนอโดยนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บั

'วิสุทธิ์' วอน สว. 80-90 เสียง หนุนร่างแก้รธน. ตัดอำนาจวุฒิสภาให้ประเทศเป็นปชต.

นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์กรณีการยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติมของพรรคร่วมรัฐบาลพรรคอื่น

'สว.พิสิษฐ์' เตรียมจัดเวทีชำแหละร่างแก้รธน. หั่นเสียงวุฒิสภา ขัดปชต.-การถ่วงดุล

นายพิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ สว. ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา (วิปวุฒิสภา) กล่าวถึงการประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256

'วราวุธ' ย้ำแก้รธน. ไม่แตะหมวด 1,2 ตั้ง ส.ส.ร. ต้องสะท้อนถึงสังคมปัจจุบัน

นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า พรรคยังยืนยันจุดเดิมคือ การได้มาซึ่ง ส.ส.ร. โดยเฉพาะหมวด 1 หมวด 2 ที่