อย่าเพิ่งไล่! นายกฯอิ๊งค์ ไม่พร้อมมีเรื่อง ยินดีคุย 'สนธิ' หลังประกาศลงถนน

นายกฯอิ๊งค์ ลั่นไม่พร้อมมีเรื่อง บอก “สนธิ” อย่าเพิ่งลงถนนไล่ ขอคุยกันก่อนเพิ่งทำงานได้เดือนเดียว พร้อมฟังทุกภาคส่วนเพื่อทำให้ประเทศชาติสงบสุข

1 ต.ค.2567 - เมื่อเวลา 12.15 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม) ถึงกรณีที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จะระดมมวลชนลงถนนอีกครั้งเพื่อขับไล่รัฐบาล หากบริหารประเทศไปในทางที่ไม่ถูกต้อง ตรงนี้ได้มีการประเมินสถานการณ์การเมืองในปีหน้าอย่างไรหรือไม่ว่า "ตนเพิ่งทำงานได้เดือนเดียวเองจะไล่แล้วเหรอ จะไล่แล้วเหรอคะ อย่าเพิ่งไล่เลยค่ะ"

เมื่อถามว่าจาก 3 ข้อ ที่นายสนธิประกาศมานั้น ได้ประเมินหรือไม่ว่าต้องการอะไร น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ยังไม่ได้มีโอกาสคุยกับ นายสนธิเลย เมื่อถามว่า พร้อมคุยใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า อ๋อพร้อมอยู่แล้วค่ะ วันนี้เราเป็นรัฐบาล เป็นตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เพราะฉะนั้นเราก็ต้องพูดคุยกับทุกภาคส่วนอยู่แล้ว และอีกอย่างหนึ่งคือการทำให้ประเทศชาติสงบสุขเป็นสิ่งสำคัญ ถ้าประเทศสงบสุขคนไทยมีความสุข ต่างประเทศก็จะมาลงทุนด้วย ฉะนั้นอันนี้ก็สำคัญ

เมื่อถามว่าที่บอกว่าพร้อมพูดคุยนั้นจะเป็นลักษณะไหน จะเป็นการเดินสายไปคุยหรือการเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า “แนะนำหน่อยค่ะจะทำอย่างไรดี แนะนำหน่อยค่ะให้ประเทศชาติสงบสุข ช่วยกันด้วย ยังไงดี ได้หมด พร้อม เพราะว่าไม่พร้อมมีเรื่องอยู่แล้ว และไม่คิดที่จะไปสู้อะไรที่มันนอกเหนือจากนี้ จริงๆแล้วตัวของดิฉันและรัฐบาลโฟกัสในการกระตุ้นเศรษฐกิจเพราะเชื่อจริงๆว่าถ้าเศรษฐกิจดีคนไทยมีฐานะที่รวยขึ้นสบายขึ้น ทุกอย่างก็จะดีขึ้น และเราไม่ได้อยากจะมีเรื่องหรืออะไร เพราะเรารู้สึกว่าถ้าประเทศชาติมันดีพร้อมเดินต่อ เศรษฐกิจมันไปนั่นแหละคือสิ่งที่มันรอด อยากให้เป็น”

เมื่อถามว่าการลงถนนขับไล่รัฐบาลมองว่าเป็นการเมืองแบบเก่า ในขณะที่การเมืองวันนี้ เป็นการเมืองที่สร้างสรรค์แล้วหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ไม่ได้คิดเรื่องการลงถนนเลย คิดว่าถ้าจริงๆต้องขนาดถึงการลงถนนกันจริงมาคุยกันก่อนก็ได้ ว่าปัญหาคืออะไร และคิดว่าทุกอย่างมันน่าจะคุยกันได้ เพราะมันไม่จำเป็นต้องใช้ความเกลียดชัง หรือความรุนแรงเข้าหา คิดว่าทุกท่านคุยกันได้อยู่แล้ว จริงๆวันนี้ก็เป็นตัวอย่าง เราเป็นพรรคร่วมรัฐบาลที่มาจากหลายพรรค เราก็คุยกันได้

เมื่อถามว่าเป็นเพราะตระกูลชินวัตรมาเป็นนายกรัฐมนตรีหรือเปล่า จึงมีการคิดจะลงถนน เพราะนายกฯก็เพิ่งจะมา เป็นนายกรัฐมนตรีได้เดือนเดียว และเมื่อถึงสิ้นปีนี้ก็ไม่กี่เดือนเอง น.ส.แพทองธาร หัวเราะพร้อมกับกล่าวว่า งั้นถ้าสมมุติว่าปี 2019 ที่แต่งงานไปถ้าเปลี่ยนนามสกุลอาจจะไม่มีปัญหาใช่ไหม ไม่ทราบเหมือนกันอันนี้ แต่ก็ไม่อยากให้มีเรื่อง ขอบพระคุณทุกท่านมาก ไปแล้วค่ะ จากนั้นนายกฯได้เดินออกจากโพเดียมให้สัมภาษณ์

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘อิ๊งค์’สะกดอารมณ์ฝ่าซักฟอก2วัน รอลุ้นคะแนนโหวต-งูเห่าสมทบ!

ผ่านศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 151 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ใช้เวลา 2 วัน 24-25 มีนาคม ก่อนลงมติวันนี้ 26 มีนาคม 2568 ซึ่งลีลาของ “นายกฯ อิ๊งค์” ในการแจงข้อซักฟอกถือว่าสามารถสะกดอารมณ์ได้ดี ไม่ปล่อยหมัดเด็ดตรงๆ ใส่ฝ่ายค้าน แต่ใช้ความนิ่งตอบเจ็บๆ ในบางช่วงเช่นกัน

‘ฝ่ายค้าน’ซักฟอก‘นายกฯอิ๊งค์’ ขยายแผล ปูทาง ยื่น 'ป.ป.ช.'

เปิดฉากกันไปแล้ว ศึกซักฟอก อุ๊งอิ๊ง-น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ภายใต้คอนเซปต์ ‘ดีลแลกประเทศ’ วันแรก ไฮไลต์สำคัญ ช่วงเช้าหนีไม่พ้นการเปิดหัวของ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และการลุกขึ้นอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งแรกของ บิ๊กป้อม-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ

ทุบ 'นายกฯอิ๊งค์' ขาดภาวะผู้นำแก้ฝุ่น PM 2.5 รัฐมนตรีไม่เห็นค่า หน่วยงานไม่เห็นหัว

นายภัทรพงษ์ ลีลาภัทร์ สส.เชียงใหม่ พรรคประชาชน อภิปรายว่า ปี 2567 เป็นปีที่ประเทศของเราต้องเจอกับภัยพิบัติที่รุนแรง เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ ภัยแล้ง และฝุ่นพิษ แต่ภัยพิบัติหนักที่สุดที่ประเทศไทยต้องเจอ คือการมีนายกรัฐมนตรี