1 ต.ค.2567- ที่รัฐสภา นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงโรดแมพในการทำหน้าที่ผู้นำฝ่ายค้านฯ ว่า วันที่ 2 ต.ค. จะมีร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การแข่งขันทางการค้าที่พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ได้เสนอร่างเข้ามาประกบ ซึ่งตนคิดว่าทั้งสองร่างเป็นประโยชน์เพราะเรื่องนี้พรรคฝ่ายค้านและพรรคร่วมรัฐบาล เห็นว่าเป็นประโยชน์ก็อยากให้ผลักดันกฎหมายฉบับนี้ร่วมกัน
เขากล่าวว่า ใจความสำคัญของกฎหมายนี้คือที่มาของคณะกรรมการว่าจะทำอย่างไรให้มีหน้าที่เป็นกลางที่สุด เช่น พรรค ปชน.ได้เสนอว่า ให้มีที่มามาจากสัดส่วนของฝ่ายค้านและรัฐบาล และอีกส่วนหนึ่งให้คณะกรรมการเสนอเข้ามา ซึ่งเป็นอีกรูปแบบหนึ่งที่สามารถนำเข้าไปพูดคุยกันได้ในวาระ 2-3 นอกจากนี้ ยังมีกฎหมายอีกหลายฉบับที่จะเข้าสู่การประชุมสภาผู้แทนราษฎรชุดนี้ เช่น พ.ร.บ.ระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม ซึ่งเชื่อว่าเป็นประโยชน์ต่อระบอบประชาธิปไตยและประชาชน
นายณัฐพงษ์ กล่าวต่อว่า ส่วนการอภิปรายแบบไม่ลงมติหรือมาตรา 152 และการอภิปราย ไม่ไว้วางใจแบบลงมติตาม มาตรา 151 กำลังมีการหารือกันอยู่ คิดว่าอย่างเร็วที่สุดคาดว่าจะอยู่ในช่วงต้นปีหน้า แต่ทั้งนี้ต้องรอความชัดเจนอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวถามว่า มองเป้าหมายในการเป็นผู้นำฝ่ายค้านอย่างไรบ้าง ผู้นำฝ่ายค้านตอบว่า การทำหน้าที่ตรวจสอบถ่วงดุลอย่างตรงไปตรงมา แต่สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือการให้ข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลอะไรที่คิดว่าเป็นข้อเสนอแนะและนโยบายที่ดี ในฐานะพรรคร่วมฝ่ายค้าน ตนคิดว่าเราพร้อมที่จะเสนอต่อรัฐบาลเลือกหยิบไปดำเนินการเพื่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชน รวมถึงเวทีผู้นำฝ่ายค้านพบประชาชน ที่จะมีการสัญจรไปต่างจังหวัดที่มีปัญหาที่ได้รับการร้องเรียนเข้ามา
ถามถึง ปัญหางูเห่าในพรรคร่วมฝ่ายค้าน นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ยอมรับว่าที่ผ่านมาเป็นกลไกการหารือของวิปฝ่ายค้าน แต่ยืนยันว่าพรรค ปชน. ไม่มีเสียงแตก
สำหรับการกระชับความสัมพันธ์กับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะพรรคร่วมฝ่ายค้านนั้น นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า การทำงานในสภาฯ จะให้เป็นไปตามกลไกของคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ที่มีนายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคปชน. เป็นประธานวิปฝ่ายค้าน อย่างไรก็ตาม ในกระบวนการทำงานของวิปฝ่ายค้านที่ผ่านมายังทำงานต่อเนื่องแม้ไม่มีผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ ส่วนการตั้งวิปฝ่ายค้าน ที่ต้องพิจารณาสัดส่วนของพรรค พปชร.ร่วมด้วยนั้น คงต้องหารือกับนายปกรณ์วุฒิอีกครั้ง
เมื่อถามถึง การตรวจสอบประเด็นที่ สส.ถูกร้องเรียนเรื่องจริยธรรม ผู้นำฝ่ายค้านตอบว่า ต้องเดินหน้าเต็มที่ เพราะพรรค ปชน. ยืนยันว่ามาตรฐานจริยธรรมต้องถูกบังคับใช้ในองค์กร ดังนั้น ถ้าเกิดในสภาฯ หากกรรมการจริยธรรมไม่ทำงานตรงไปตรงมา หรือไม่ทำหน้าที่อย่างเต็มที่จะทำลายศรัทธาของประชาชนที่ไม่กำกับกันเองในมาตรฐานจริยธรรม ทั้งนี้ กมธ.การเมืองเคยหารือและจะส่งเรื่องไปยังกรรมการจริยธรรมของสภาฯดังนั้น ยืนยันว่าจะเดินหน้าเต็มที่
ถามว่า การตรวจสอบจริยธรรมของพล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรค พปชร. จะกระทบต่อการทำงานร่วมกันในวิปฝ่ายค้านหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า กลไกทำงานในสภาฯ เป็นเรื่องของวิป ส่วนเรื่องตัวบุคคลนั้นเป็นอีกเรื่อง ใครจะปฏิบัติหน้าที่มากน้อยอย่างไร หากไม่เป็นไปตามมาตรฐานของสส. ต้องเดินหน้าในมาตรฐานจริยธรรรมอย่างตรงไปตรงมา ไม่เกี่ยวกับว่าเป็นพรรรคใด หากพบว่ามีผู้ใดที่ปฏิบัติไม่เป็นไปตามมาตรฐาน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'อดีตบิ๊กศรภ.' ชี้ 'ทักษิณ' ยังมีโอกาสอยู่เกินปีใหม่แน่ แต่ไม่น่าจะเกินต้นปีหน้า
พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) โพสต์เฟซบุ๊กหัวข้อ ทักษิณ
'เท้ง' บีบมือพท. กังขาสร้างชนักติดหลังต่อรองการเมือง
'ณัฐพงษ์' ยัน แม้ 'พรรคประชาชน' อยู่คนละฝ่ายกับ 'เพื่อไทย' แต่ไม่เห็นด้วยกับการฟ้องร้องที่จะนำไปสู่การยุบพรรค สงสัยเป็นการสร้างอำนาจต่อรองทางการเมืองหรือไม่
พรรคส้ม ไม่ได้ดั่งใจ! สว.งดประชุม ทำกม.ล่าช้า ติงควรให้เกียรติผู้นำฝ่ายค้าน
ที่รัฐสภา นายณัฐวุฒิ บัวประทุม สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะกรรมการบริหารพรรคประชาชน ในฐานะวิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงการประ
'ทักษิณ-พท.' สะดุ้ง! 'ปชน.' ประกาศกวาด 300 สส. ตั้งรัฐบาลพรรคเดียว
'เลขาธิการพรรคประชาชน' ลั่นเลือกตั้งรอบหน้า มีโอกาสกวาด สส. 270 - 300 ที่นั่ง ตั้งรัฐบาลพรรคเดียว โวขั้นต่ำเกินกึ่งหนึ่งแน่ แย้มชงบัญชีนายกฯ มากกว่า 1 ชื่อ
'หัวหน้าเท้ง' รับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง เป็น 'ผู้นำฝ่ายค้านฯ'
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 1 ต.ค. ที่รัฐสภา มีพิธีรับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส
เทพไท ชี้ ‘เท้ง’ เด่นไม่เท่า ‘พิธา-ไอติม’ ทำคะแนนตามหลัง ’นายกฯอิ๊งค์’ ห่าง
การที่คะแนนของนางสาวแพทองธาร โดดเด่นขึ้นมา เพราะความเป็นนายกรัฐมนตรีส่วนหนึ่ง แต่ส่วนสำคัญก็คือไม่มีตัวบุคคลโดดเด่นพอที่จะเทียบเคียงกับนางสาวแพทองธารได้